PDF 2537-06-18-สถานพุทธธรรม (เหยินเต๋อ ) #5.pdf
#ความโลภ
วันเสาร์ที่ ๑๘ มิถุนายน
พุทธศักราช ๒๕๓๗ มูลนิธิพุทธธรรมจีน
จ.ลำปาง
สาธุชนกราบขอประทานพระโอวาทชี้แนะ
พู่กันทองวางพลันสว่างภพ อักษรลบเรียงรายไล่ลดหลั่น
เผยใจข้าอุราผู้คุมชั้น ได้ยืนยันประจักษ์ชั้นปรัชญา
เราคือ
องค์ประธานคุมสอบสามภูมิ รับบัญชาจาก
พระอนุตตรธรรมมารดา ลงสู่อริยสถาน
เคียมคัล
องค์มารดา ถามเมธีน้องทุกท่านเกษมฤๅ
ขอทุกคนจิตสงบตั้งใจฟัง ฮวา
ฮวา
ศุภรสถานประสานงานร่วมฟ้าดิน ตามพุทธบุตรโบยบินคืนถิ่นฐาน
กรัชกายดั่งพยับแดดลวงตานาน เร่งพบพานอรชุนแห่งดวงแด
ปลูกสร้างฐานมั่นคงบฤงคพ ขอใจนบรู้แท้หวังเข้าใจ
ขอตั้งใจฟังธรรมอดทนไว้ ต่อมารร้ายกลางใจรังควานฤดี
ขอศรัทธาอย่าเป็นดั่งสนิมเกาะ เกิดฉงนมิพอจากจิตสิ้น
ถวิลหาลาภยศฤๅทรัพย์สิน ดอกไม้งามมีกลิ่นรักษาสัจจา
คุณธรรมแปดติดอยู่กลางใจตน สละเสียสับสนมิก้าวหน้า
สุดท้ายนั้นคว้าควันแห่งมายา รู้กาลนี้ยุคสามนากอปรกุศล
บรรพชนต่างมาร่วมยินดี หากน้องมีความเข้าใจสร้างบัลลังก์
เพื่อผองชนโปรดแผ่มิหยุดยั้ง เสริมพลังให้ตนค้นตนเอง
กระจกนี้ส่องตนฤๅผู้อื่น หากแข็งขืนมิอ่อนน้อมฤๅหยุดยั้ง
คงเรื่อยไปสู่ทางลงเบื้องต่ำ รู้แล้วเร่งชำระกรรมสว่างจิต
หกหมื่นปีเนิ่นนานลืมมนสิการ ปณิธานมุ่งหวังให้หลุดพ้น
อายตนะสัมผัสสีสันจึงอับจน น้องทุกคนรู้แล้วกลับหัวเรือ
รูปภายนอกขันธ์ห้ามิจีรัง ใดหมายปองหยุดยั้งใจสมาน
อมตะจิตแท้ธรรมญาณ เร่งค้นพลันเจอขุมทรัพย์แห่งปัญญา
ต่อแต่นี้เริ่มต้นเป็นคนใหม่ สถานธรรมอย่าได้เอ็ดอึงหนา
รักษาระเบียบวินัยแห่งพุทธา เตือนน้องข้าตั้งใจฟังเพื่อดวงญาณ
ในวันนี้มิกล่าวความให้มากไป ศึกษาธรรมจึงไกลพัฒนะ
แล้วประกายแห่งจิตตัดลดละ เรายืน ณ ที่นี้ตรวจบัญชี
ฮวา ฮวา
หยุด
-------------------------------------------------------------------------------------
ศุภร : ส่องแสง,
สว่าง, งาม, ขาว
กรัชกาย : ร่างกาย
อรชุน : ขาว, ใส
บฤงคพ : ผู้ประเสริฐ,
หัวหน้า
มนสิการ : การกำหนดไว้ในใจ
อายตนะ : ตา หู
จมูก ลิ้น กาย ใจ
ขันธ์ห้า : รูป เวทนา
สัญญา สังขาร วิญญาณ
วันเสาร์ที่ ๑๘ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๓๗
พระโอวาทท่านแปดเซียน
จงหลีเฉวียน เมตตา
หกหมื่นปีข้องเกี่ยวเกลียววัฏฏะ น้อยคนละพเนจรแสงสลัว
ฝุ่นฟุ้งควันสะสมบาปเมามัว ปิดรูรั่วแห่งสติอคาธถึง
เราคือ
หนึ่งในแปดเซียน
จงหลีเฉวียน รับบัญชาจาก
พระอนุตตรธรรมมารดา แล้วแฝงกาย
กตัญชลี
องค์มารดา ถามเมธีทุกท่านเกษมฤๅ
เหยียบเมฆทองเคลื่อนลงกลางธุลี ปลุกชีวีตื่นขึ้นยามเหน็บหนาว
ชีพลางเลือนดั่งพยับแดดสะท้อนพราว ฝันจึงราวกับภาพชีวิตเพียงชั่วคืน
โอบอารีต่อผู้ยั้งธรมาน วาระกาลมุนีมิเช้าแล้ว
อัญมณีด้อยค่ากว่าจิตแก้ว อวเคราะห์คลาดแคล้วด้วยใจตรง
พัฒนะซึ่งตนธรรมกว้างไกล เริ่มต้นใหม่ผ่านวิกฤตสู่กระสานติ์
ยอมรับทุกข์ลำบากแม้คลุกคลาน บูรณญาณนี้เพื่อมหาอุบล
จิตตวิเวกตัดอาวรณ์เขย่าจิต แม้คิดผิดเทียบเท่าอันทุอนันต์
ปหานแล้วอนุสัยนานัปการ เห็นแก่นสารจึงหยุด ณ จุดกลาง
มุ่งวิมานฤๅตนเพียงผู้เดียว กลางน้ำเชี่ยวธรรมแผ่กว้างไกลหนา
ประสานใจกับเวลาลักขณา อนุตตราเลิศล้ำเกินบรรยาย
ฮา ฮา
หยุด
หนทางรื่นรมย์ต่างผ่านวนเวียน ทุกข์ภัยเยี่ยมเยียน จนอ่อนโรยรา
แสงสีดั่งควัน ไขว่คว้ามายา ม่านบังตา
พาใจหมดสิ้นลืมหลง
พบแสงพุทธา สว่างภายใน
ทุกข์ทนยิ่งเดิน
ศรัทธาจริงใจ ฟื้นสู่ญาณเดิม เมฆนั้นค่อยคลาย เพียงตั้งใจ
บำเพ็ญตนก่อนจะสาย
หากท้อแท้ แม้ม่านบังตาทรนง ปัดผงเข้าตาด้วยตนเศร้าใจ
เมื่อเกณฑ์ฟ้า เร่งแพร่ท่ามกลางห้วงจิตใจ เลือกเป็นดั่งหยกใส
เมื่อเกณฑ์ฟ้า เร่งแพร่ท่ามกลางห้วงจิตใจ เลือกเป็นดั่งหยกใส
ฟ้าดูเวิ้งตา ยังมีฝนพรำ
พุทธะเร่งนำจิตเดิมภายใน
ลิขิตใดมีเรียนรู้แปรใจ มั่นคงไว้ ลืมทุกข์ในห้วงตัณหา
เพลง : ก่อนจะสาย
ทำนองเพลง : อรุณสวัสดิ์
-----------------------------------------------------------------------
อธิบายศัพท์
อคาธ : เหว,
หยั่งไม่ถึง
ธรมาน : ยังดำรงชีวิตอยู่
กระสานติ์ : สงบ,
ราบคาบ
จิตตวิเวก : ความสงัดใจ
ได้แก่ การทำจิตให้สงบผ่องใส สงัดจาก
นิวรณ์ สังโยชน์ และอนุสัย
นิวรณ์ สังโยชน์ และอนุสัย
อันทุ: โซ่, ตรวน, เครื่องจองจำ
ลักขณา : มีลักษณะดี
พระโอวาทท่านแปดเซียน จงหลีเฉวียน เมตตา
กลางธุลีนี้ทุกคนทราบไหมว่าหมายความว่าอะไร (ไม่ทราบ) กลางธุลีนี้ก็คือสถานธรรมที่ใสบริสุทธิ์ที่อยู่ท่ามกลางฝุ่นละอองแห่งโลกีย์
ทำไมเราถึงบอกว่า "ปลุกชีวีตื่นขึ้นยามเหน็บหนาว" ทุกคนรู้ไหมว่า
ทุกวันเราหลับแล้วต้องตื่นขึ้นมาพบกับสิ่งใดบ้าง เราไม่รู้ว่ามันจะดี จะทุกข์หรือจะสุข มันก็เป็นสิ่งที่ทำให้เราเหน็บหนาว ในวันนี้ทุกท่านได้มีโอกาสมาฟังธรรมะ ได้รู้หนทาง ให้นำความรู้ที่เราได้ทราบนี้ไปเมตตาโอบอ้อมอารีและไปเผื่อแผ่ให้ผู้อื่นได้รับรู้ เวลานี้ช้ามากแล้วทุกคนจะต้องเร่งรีบบำเพ็ญ ถ้าทุกคนไม่เร่งรีบบำเพ็ญก็ยิ่งช้า อย่ามัวสงสัยคลางแคลงว่าทำไมสิ่งศักดิ์สิทธิ์จึงต้องมายืมร่างและลงมาเร่งโปรดให้คนได้รับรู้ธรรม เพราะทุกคนลืมจิตของ
ตัวเองไปแล้ว จิตที่มีค่าดังแก้วแม้อัญมณีใด ๆ ก็ไม่มีค่าเท่ากับจิตวิญญาณของเรา ถ้าให้ทุกคนเลือกระหว่างอัญมณีกับแก้วตาดวงใจของเราซึ่งเป็นชีวิต เราจะเลือกอันไหน (เลือกแก้วตาดวงใจ)
ทุกวันเราหลับแล้วต้องตื่นขึ้นมาพบกับสิ่งใดบ้าง เราไม่รู้ว่ามันจะดี จะทุกข์หรือจะสุข มันก็เป็นสิ่งที่ทำให้เราเหน็บหนาว ในวันนี้ทุกท่านได้มีโอกาสมาฟังธรรมะ ได้รู้หนทาง ให้นำความรู้ที่เราได้ทราบนี้ไปเมตตาโอบอ้อมอารีและไปเผื่อแผ่ให้ผู้อื่นได้รับรู้ เวลานี้ช้ามากแล้วทุกคนจะต้องเร่งรีบบำเพ็ญ ถ้าทุกคนไม่เร่งรีบบำเพ็ญก็ยิ่งช้า อย่ามัวสงสัยคลางแคลงว่าทำไมสิ่งศักดิ์สิทธิ์จึงต้องมายืมร่างและลงมาเร่งโปรดให้คนได้รับรู้ธรรม เพราะทุกคนลืมจิตของ
ตัวเองไปแล้ว จิตที่มีค่าดังแก้วแม้อัญมณีใด ๆ ก็ไม่มีค่าเท่ากับจิตวิญญาณของเรา ถ้าให้ทุกคนเลือกระหว่างอัญมณีกับแก้วตาดวงใจของเราซึ่งเป็นชีวิต เราจะเลือกอันไหน (เลือกแก้วตาดวงใจ)
ทุกคนเมื่อมีใจตรงเมื่อมีอุปสรรคเราก็จะสามารถฝ่าฟันไปได้ ไม่ว่าอะไรก็ตามแต่
ขอให้มีใจที่เที่ยงตรงศรัทธาในสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเชื่อในธรรมะ เมื่อ
ทุกคนต้องฝ่าฟันกับอุปสรรค ต้องเจอกับสิ่งต่าง ๆ มากมายที่ทำให้เรามีจิตใจที่ท้อแท้ เบื่อหน่ายไม่อยากต่อสู้ ไม่อยากฝ่าฟัน ไม่อยากที่จะมีชีวิตต่อไปในโลกนี้ ถ้าทุกคนไม่เจออุปสรรคทุกคนจะรู้หรือว่าสิ่งที่ไม่ใช่อุปสรรคนี้คืออะไร
สิ่งที่ไม่ใช่ทุกข์คืออะไร ทำไมเจ้าหน้าที่ทุกคนจึงเร่งรีบช่วยทุกคนให้มีโอกาสรับรู้ (ไม่ทราบ) เพื่อกลับคืนเบื้องบน และเพื่อฐานบัวของตัวเอง
ทุกคนต้องฝ่าฟันกับอุปสรรค ต้องเจอกับสิ่งต่าง ๆ มากมายที่ทำให้เรามีจิตใจที่ท้อแท้ เบื่อหน่ายไม่อยากต่อสู้ ไม่อยากฝ่าฟัน ไม่อยากที่จะมีชีวิตต่อไปในโลกนี้ ถ้าทุกคนไม่เจออุปสรรคทุกคนจะรู้หรือว่าสิ่งที่ไม่ใช่อุปสรรคนี้คืออะไร
สิ่งที่ไม่ใช่ทุกข์คืออะไร ทำไมเจ้าหน้าที่ทุกคนจึงเร่งรีบช่วยทุกคนให้มีโอกาสรับรู้ (ไม่ทราบ) เพื่อกลับคืนเบื้องบน และเพื่อฐานบัวของตัวเอง
จิตตวิเวกคือความสงัดในการตัดนิวรณ์และสังโยชน์
นิวรณ์
คือ กิเลสที่ฝังอยู่ในจิตใจของเราทุกคน
เพราะเรายังมีความรัก โลภ โกรธ
หลง อาลัยอาวรณ์อยู่กับโลกนี้
จิตที่เคยนิ่งใสก็ถูกสั่งสมให้ตะกอนที่อยู่นอนก้นลอยขึ้นมา จากจิตที่ใสก็กลายเป็นจิตที่ขุ่น
เพราะเมื่อไหร่ที่เราเกิดอาลัยอาวรณ์หรือคิดผิดมันก็คือสิ่งที่เป็นโซ่ตรวนที่คอยรัดกุมจิตใจของเรา กายของเรา
ไม่ให้คิดที่จะทำอะไรและไปไหน
เพราะมัวเฝ้าพะวงอยู่กับสิ่งที่เรารักและหวงแหน ขอให้ทุกคนละทิ้งสิ่งที่เป็นกิเลสและสิ่งที่เป็นตะกอนที่อยู่ในจิตใจของทุกคน เมื่อเราละทิ้งแล้ว ญาณอันใสที่อยู่ตรงกลางร่างกาย กลางจิตใจก็จะปรากฏขึ้นมา
เมื่อร้องเพลงแล้วดึงจิตกลับมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ชื่นใจ
การชื่นใจมิใช่เพียงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ชื่นใจ แต่บรรพชนที่นั่งรออยู่ข้างนอก
มาฟังธรรมพร้อมกับ
พวกเราก็ชื่นใจด้วย
พวกเราก็ชื่นใจด้วย
"ฟ้าดูเวิ้งตายังมีฝนพรำ" ความสุขที่เราพบเห็นอยู่นี้แน่ใจหรือว่าจะ
มั่นคงถาวรไปกับชีวิตและร่างกายตัวนี้ของเรา (ไม่แน่ใจ) แล้วความสุขแห่ง
จิตใจคือความสงบที่จะได้กลับคืนไปบ้านเดิมแห่งจิตใจ ซึ่งบ้านเดิมของเราไม่ใช่บ้านเดิมในโลกนี้
มั่นคงถาวรไปกับชีวิตและร่างกายตัวนี้ของเรา (ไม่แน่ใจ) แล้วความสุขแห่ง
จิตใจคือความสงบที่จะได้กลับคืนไปบ้านเดิมแห่งจิตใจ ซึ่งบ้านเดิมของเราไม่ใช่บ้านเดิมในโลกนี้
การเปลี่ยนตัวเอง ไม่ใช่เปลี่ยนแปลงได้ทันที แต่ต้องรู้จักค่อยเป็น
ค่อยไป ไม่จำเป็นต้องเร่งรีบ แต่ขอให้มีใจที่ตั้งใจอย่างจริงจัง สิ่งนั้นก็
สามารถเปลี่ยนแปลงไปได้ แล้วทำอย่างไรถึงเรียกว่าเปลี่ยนแปลงจิตใจ (ตั้งใจทำดีในสิ่งที่ตนเองหวัง)
ค่อยไป ไม่จำเป็นต้องเร่งรีบ แต่ขอให้มีใจที่ตั้งใจอย่างจริงจัง สิ่งนั้นก็
สามารถเปลี่ยนแปลงไปได้ แล้วทำอย่างไรถึงเรียกว่าเปลี่ยนแปลงจิตใจ (ตั้งใจทำดีในสิ่งที่ตนเองหวัง)
(สิ่งศักดิ์สิทธิ์เมตตาประทานเพลงพระโอวาท
และให้นักเรียนในชั้น
ร่วมกันตั้งชื่อเพลง) ฟังเพลงธรรมะดูบ้างเพราะว่าฟังเพลงทางโลกมามากแล้ว เราให้ทุกคนเป็นนกที่คอยส่งข่าวสารให้ทุกคนได้รับรู้ดีไหม การบำเพ็ญไม่มีแก่ ไม่มีเด็ก ถ้ามีใจที่บริสุทธิ์ตั้งใจบำเพ็ญก็จะเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ (สิ่งศักดิ์สิทธิ์เมตตาให้นักเรียนชายและนักเรียนหญิงออกมานำร้องเพลง)
ร่วมกันตั้งชื่อเพลง) ฟังเพลงธรรมะดูบ้างเพราะว่าฟังเพลงทางโลกมามากแล้ว เราให้ทุกคนเป็นนกที่คอยส่งข่าวสารให้ทุกคนได้รับรู้ดีไหม การบำเพ็ญไม่มีแก่ ไม่มีเด็ก ถ้ามีใจที่บริสุทธิ์ตั้งใจบำเพ็ญก็จะเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ (สิ่งศักดิ์สิทธิ์เมตตาให้นักเรียนชายและนักเรียนหญิงออกมานำร้องเพลง)
วันนี้ทุกท่านได้ร่วมร้องเพลงกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้ว ต้องเข้าใจความหมายของเพลงด้วย
และเมื่อศึกษาธรรมะแล้วต้องเข้าใจถึงจุดมุ่งหมายและหลัก
อันแท้จริงของธรรมะด้วย
อันแท้จริงของธรรมะด้วย
(นักเรียนในชั้นคนหนึ่งได้ตั้งชื่อเพลงที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประทานให้ว่า
"เพลงก่อนจะสาย" ) รู้ไหมทำไมถึงตั้งชื่อว่าเพลงก่อนจะสาย
"เพลงก่อนจะสาย" ) รู้ไหมทำไมถึงตั้งชื่อว่าเพลงก่อนจะสาย
ขอให้ทุกคนเร่งรีบบำเพ็ญ ทำความดีนั้นไม่ยาก ทำไมเราถึงบอกว่าการทำดีนั้นไม่ยาก อยู่ที่เราตั้งใจทำความดีนั่นก็คือการสร้างบุญ เมื่อทุกคนสร้างบุญ ทุกคนก็มีความสุข สุขกับตัวเองไม่พอ ความสุขนี้ยังเผื่อแผ่ไปให้กับคนอื่นอีก เมื่อทุกคนมีความสุขอยู่ในสิ่งที่ตัวเราทำ สุขนี้ก็เป็นกุศล กุศลที่ดีคืออะไร ใครตอบเราได้บ้าง (คิดดี พูดดี ทำดี) ถูกไหม
เขาเป็นเด็กตัวเล็กแค่นี้ยังกล้าพูด
แล้วคนอื่นล่ะ
(ละสิ่งที่ไม่ดีในใจตัวออกไปและให้สร้างกุศลเพิ่มขึ้นเพื่อบรรพชน) เมื่อรู้แล้วว่าต้องสร้างกุศล ต้องบำเพ็ญตนเร่งรีบปฏิบัติ เริ่มต้นที่ไหนก่อน (ที่ใจ) เมื่อเริ่มต้นที่ใจแล้วต้องเริ่มที่ไหนต่อ
(ที่การกระทำทางกาย วาจา) ถึงแม้เด็กจะสามารถบำเพ็ญได้เร็วกว่าผู้ใหญ่ แต่ถ้าไม่มีผู้ใหญ่เด็กจะมาได้ไหม (ไม่ได้)
(ที่การกระทำทางกาย วาจา) ถึงแม้เด็กจะสามารถบำเพ็ญได้เร็วกว่าผู้ใหญ่ แต่ถ้าไม่มีผู้ใหญ่เด็กจะมาได้ไหม (ไม่ได้)
โอวาทและเพลงที่เราให้ ให้เร่งรีบศึกษา ถ้าอยากมาผูกบุญกับ
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็เร่งรีบมาศึกษาธรรมะ เมื่อกายนี้รู้แล้วที่จะบำเพ็ญ เร่งรีบ
บำเพ็ญธรรม อาจารย์ของท่าน พระแม่มารดาของทุก ๆ คนก็รอทุกคนอยู่ เข้าใจไหม
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็เร่งรีบมาศึกษาธรรมะ เมื่อกายนี้รู้แล้วที่จะบำเพ็ญ เร่งรีบ
บำเพ็ญธรรม อาจารย์ของท่าน พระแม่มารดาของทุก ๆ คนก็รอทุกคนอยู่ เข้าใจไหม
วันอาทิตย์ที่ ๑๙ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๓๗
พระโอวาทพระอาจารย์จี้กง
เมตตา
เพื่อชี้ หลักธรรม
ให้ลมเรียกวอนรู้ข้าหนักใจ
ศิษย์เอ๋ย สงสาร
อาจารย์ของเจ้าบ้างไหม มอบรัก หมดใจ ละลายหายไปน้ำตา
ตอบแทน ชอกช้ำ ฝืนทนยิ้มไปด้วยใจผุพัง
อาจารย์ของเจ้าบ้างไหม มอบรัก หมดใจ ละลายหายไปน้ำตา
ตอบแทน ชอกช้ำ ฝืนทนยิ้มไปด้วยใจผุพัง
สุขเพลินขอศิษย์หวนใจ เวลาทุกข์มาใกล้ใคร ถึงคิดสาย
ยิ่งทารุณ
หลอน คว้าควันสลายไป
หลอน คว้าควันสลายไป
โอ้ฟ้า เข้าใจ
ช่วยทวงสัญญาร้างแล้วอยู่ไหน
ตื่นหนา ประคอง
ร่างกายที่ยังบอบช้ำ
ร่างกายที่ยังบอบช้ำ
เราคือ
พระอรหันต์จี้กงวิปลาส
อาจารย์เจ้า รับบัญชาจาก
พระอนุตตรธรรมมารดา แฝงกาย
น้อมอภิวาท
องค์มารดาผู้เมตตา ถามศิษย์รักทุกคนใจอยู่ที่นี่หรือเปล่า
ผ่านปีนับชีพใกล้ชราวัย คุณธรรมสร้างไว้เป็นแบบอย่าง
ได้ปิดกั้นหมางเมินหน้าอนิจจัง โปรดคืนยังพุทธาแท้จิตนิ่ง
เรือชีวิตไร้จุดหมายลอยหันเห กระแสทะเลคลื่นกิเลสพัดจมดิ่ง
ที่สำคัญขจัดโลภกระจ่างธรรมยิ่ง ต่างช่วยจริงเหินห่างหลงติรใกล้
พินิจได้รู้อารมณ์คุกรุ่นทรมาน ต้องฝืนเพียรเนิ่นนานผันนิสัย
ไป่ผัดวันประกันพรุ่งบำเพ็ญใจ พ้นนรการต์นิพพานใกล้ด้วยใจวีรชน
ฮา ฮา
หยุด
เพื่อชี้ หลักธรรม ให้ลมเรียกวอนรู้ข้าหนักใจ ศิษย์เอ๋ย สงสารอาจารย์ของเจ้าบ้างไหม มอบรัก หมดใจ ละลายหายไปน้ำตาตอบแทน ชอกช้ำ ฝืนทนยิ้มไปด้วยใจผุพัง
* สุขเพลินขอศิษย์หวนใจ เวลาทุกข์มาใกล้ใคร ถึงคิดสาย
ยิ่งทารุณหลอน คว้าควันสลายไป
** โอ้ฟ้า
เข้าใจ
ช่วยทวงสัญญาร้างแล้วอยู่ไหน
ตื่นหนา ประคอง
ร่างกายที่ยับบอบช้ำ (ซ้ำ *,**)
ร่างกายที่ยับบอบช้ำ (ซ้ำ *,**)
เพลง : ความในใจ
ทำนองเพลง : คู่นก
พระโอวาทพระอาจารย์จี้กง เมตตา
ศิษย์ของอาจารย์ฟังหัวข้อกตัญญูไปแล้วเป็นอย่างไรบ้าง นำไปปฏิบัติหรือเปล่า
มาที่นี่มีความสุขไหม
(มี)
มีใครบอกได้ว่ามีมากเท่ากับอาจารย์ที่ได้มาเจอศิษย์วันนี้
รู้ไหมว่าความรู้สึกของอาจารย์ที่เจอศิษย์เป็นอย่างไร
มาที่นี่มีใครนึกขอบคุณผู้ดูแลที่นี่บ้าง คนที่ดูแลที่นี่คือใครทราบไหม
การที่เราจะเข้าใจธรรมะได้ต้องรู้จักต้นธาร ทำอย่างไรให้เขาดี ให้เขารู้สึกว่าอบอุ่นใจ
รู้สึกว่าความพยายามของเขาต้องสำเร็จแน่นอน (อาจารย์ถ่ายทอด-
เบิกธรรมได้แนะนำผู้ดูแลสถานธรรมให้นักเรียนรู้จัก) เขาทำมาตั้งหลายปี
แนะนำแค่นี้หรือ ให้เขาพูดซิว่าเขาหวังอะไรจากทุกคนบ้าง (อยากให้ทุกคนเข้าใจธรรมะ บำเพ็ญธรรม ช่วยเหลืองานธรรมและญาติธรรมลำปางให้มาบำเพ็ญธรรมกันมาก ๆ ) ดูซิเขาหวังน้อยแค่นี้ ยังสละตัวเองตั้งหลายปี แล้วศิษย์รักของอาจารย์ทุกคนที่นี่ทำให้เขาสมหวังได้หรือเปล่า (ได้) คนที่ตอบว่าได้ถ้าหากว่าทำไม่ได้จะให้อาจารย์ทำอย่างไรดี ศิษย์รักของอาจารย์มีใครอาสาช่วยเขาบ้าง คนที่นี่ทั้งนั้นมีใครอาสาช่วยเขาบ้าง มีคนเดียวหรือ อาจารย์จะขอดูใจของศิษย์หน่อย
เบิกธรรมได้แนะนำผู้ดูแลสถานธรรมให้นักเรียนรู้จัก) เขาทำมาตั้งหลายปี
แนะนำแค่นี้หรือ ให้เขาพูดซิว่าเขาหวังอะไรจากทุกคนบ้าง (อยากให้ทุกคนเข้าใจธรรมะ บำเพ็ญธรรม ช่วยเหลืองานธรรมและญาติธรรมลำปางให้มาบำเพ็ญธรรมกันมาก ๆ ) ดูซิเขาหวังน้อยแค่นี้ ยังสละตัวเองตั้งหลายปี แล้วศิษย์รักของอาจารย์ทุกคนที่นี่ทำให้เขาสมหวังได้หรือเปล่า (ได้) คนที่ตอบว่าได้ถ้าหากว่าทำไม่ได้จะให้อาจารย์ทำอย่างไรดี ศิษย์รักของอาจารย์มีใครอาสาช่วยเขาบ้าง คนที่นี่ทั้งนั้นมีใครอาสาช่วยเขาบ้าง มีคนเดียวหรือ อาจารย์จะขอดูใจของศิษย์หน่อย
การช่วยไม่ใช่ช่วยอย่างงมงาย ช่วยตามที่ใจต้องการ ต้องช่วยด้วยใจที่ว่าง แต่ไม่ใช่บอกว่าฉันไม่ว่างหรอก แต่ที่ยังไม่ว่างเพราะอะไร อาจารย์ชี้แนะไม่ได้ อยู่ที่ใจของศิษย์ ไม่ว่างเพราะละครเรื่องนี้สนุกมาไม่ได้ เดี๋ยวอดดู
อย่างนี้ใช่หรือเปล่า อาจารย์จะบอกให้ว่าเพียงหนึ่งแรงไม่ใช่ง่าย ๆ ศิษย์รัก
คนเดียวยังเป็นเสาหลักให้ยืนอยู่ได้ ศิษย์อีกคนมาช่วยก็ทำให้ที่นี่รุ่งเรือง
ขึ้นมาได้ อยู่ที่ศิษย์รักสนใจธรรมะแค่ไหน มีศิษย์ตอบอาจารย์ในใจ
ศิษย์รักของอาจารย์ต้องกล้าอย่างวีรชนใช่ไหม (ใช่) คนที่ตอบว่าใช่
อาจารย์ถือเป็นสัญญานะ
อย่างนี้ใช่หรือเปล่า อาจารย์จะบอกให้ว่าเพียงหนึ่งแรงไม่ใช่ง่าย ๆ ศิษย์รัก
คนเดียวยังเป็นเสาหลักให้ยืนอยู่ได้ ศิษย์อีกคนมาช่วยก็ทำให้ที่นี่รุ่งเรือง
ขึ้นมาได้ อยู่ที่ศิษย์รักสนใจธรรมะแค่ไหน มีศิษย์ตอบอาจารย์ในใจ
ศิษย์รักของอาจารย์ต้องกล้าอย่างวีรชนใช่ไหม (ใช่) คนที่ตอบว่าใช่
อาจารย์ถือเป็นสัญญานะ
"บำเพ็ญใจพ้นนรกานต์นิพพานใกล้..." ด้วยอะไรดี
ใครที่ตั้งใจฟังอยู่คงจะตอบอาจารย์ได้
ดูซิว่าใครจะสื่อกับอาจารย์ได้บ้าง
ศิษย์รักของอาจารย์รู้ไหม ศิษย์รักไม่เคยมีความชั่ว มีความเลวใน
สายตาของอาจารย์ เพียงแต่ศิษย์มั่นคง เพียงแต่ศิษย์ขยันเดิน สิ่งที่ศิษย์
บอกว่าชั่วนั้นก็จะหายไป ทุกคนมีโอกาสกลับตัวได้ อย่าได้ตำหนิว่าตัวเอง จนถึงวันนี้ทุกคนยังมีทางแก้ไขได้อีก เพียงแต่ศิษย์ตั้งใจมาศึกษาธรรมะก็จะรู้ว่าทางนั้นเป็นอย่างไร ถ้าศิษย์โทษตัวเองก็เท่ากับว่าศิษย์โทษอาจารย์ด้วย เพราะอาจารย์เป็นอาจารย์ของศิษย์ ถ้าอาจารย์สอนไม่ดีศิษย์ก็ไม่ดีใช่ไหม
ถึงศิษย์ไม่โทษอาจารย์ อาจารย์ก็คงต่อว่าตัวเองอยู่แล้ว ขอให้ศิษย์มี
ความอดทน อดทนแล้วสิ่งที่ศิษย์คิดว่ามันเป็นความเลว เป็นความไม่ดี
ก็จะหายไป
สายตาของอาจารย์ เพียงแต่ศิษย์มั่นคง เพียงแต่ศิษย์ขยันเดิน สิ่งที่ศิษย์
บอกว่าชั่วนั้นก็จะหายไป ทุกคนมีโอกาสกลับตัวได้ อย่าได้ตำหนิว่าตัวเอง จนถึงวันนี้ทุกคนยังมีทางแก้ไขได้อีก เพียงแต่ศิษย์ตั้งใจมาศึกษาธรรมะก็จะรู้ว่าทางนั้นเป็นอย่างไร ถ้าศิษย์โทษตัวเองก็เท่ากับว่าศิษย์โทษอาจารย์ด้วย เพราะอาจารย์เป็นอาจารย์ของศิษย์ ถ้าอาจารย์สอนไม่ดีศิษย์ก็ไม่ดีใช่ไหม
ถึงศิษย์ไม่โทษอาจารย์ อาจารย์ก็คงต่อว่าตัวเองอยู่แล้ว ขอให้ศิษย์มี
ความอดทน อดทนแล้วสิ่งที่ศิษย์คิดว่ามันเป็นความเลว เป็นความไม่ดี
ก็จะหายไป
ถึงอาจารย์จะแบกกรรมให้ศิษย์มากมาย อาจารย์ก็ไม่ว่าอะไร
แต่ว่ากรรมของศิษย์สักวันหนึ่งก็ต้องเป็นของศิษย์ อาจารย์ต้องแบกให้อาจารย์ไม่ว่า แต่ถ้าศิษย์ไม่เดิน
(สร้างกุศลเจริญปณิธาน)
เจ้ากรรมนายเวรของศิษย์จะ
ยอมไหม (ไม่ยอม) รู้ว่าไม่ยอมแล้วทำไมไม่เดิน
ยอมไหม (ไม่ยอม) รู้ว่าไม่ยอมแล้วทำไมไม่เดิน
"บำเพ็ญใจพ้นนรกานต์นิพพานใกล้ด้วยใจวีรชน"
ศิษย์ของอาจารย์
ทุกคนจะต้องกล้าหาญเด็ดเดี่ยว แม้เดินเพียงคนเดียวก็ยังต้องสู้ไป ถ้าศิษย์สู้จะมีทางแพ้หรือไม่ (ไม่มี) แล้วถ้าศิษย์ไม่สู้ล่ะ (แพ้)
ทุกคนจะต้องกล้าหาญเด็ดเดี่ยว แม้เดินเพียงคนเดียวก็ยังต้องสู้ไป ถ้าศิษย์สู้จะมีทางแพ้หรือไม่ (ไม่มี) แล้วถ้าศิษย์ไม่สู้ล่ะ (แพ้)
"ผ่านปีนับชีพใกล้ชราวัย" ศิษย์รักของอาจารย์ทุกคนผ่านไปแล้ว
ปีหนึ่ง ๆ จากผมที่ดำก็กลายเป็นผมขาว จากอายุที่เพียงนิดเดียวก็ขึ้นเลขห้า
เลขหก แต่ว่าอายุมากไม่ใช่สิ่งสำคัญเลย อายุมากถ้าหากเราบำเพ็ญให้ดี ๆ เราก็มีกุศลเหมือนกัน อายุไม่ใช่ขีดจำกัดหรือข้อห้าม ศิษย์รักของอาจารย์สามารถทำให้ลูกหลานเข้าใจธรรมะได้ ลูกหลานเราก็เป็นเพียงแค่คนที่มีบุญสัมพันธ์กับเรามาเกิดเท่านั้น ถ้าเราส่งเสริมให้เขาเข้าใจธรรมะได้ก็จะเป็นกุศล
ปีหนึ่ง ๆ จากผมที่ดำก็กลายเป็นผมขาว จากอายุที่เพียงนิดเดียวก็ขึ้นเลขห้า
เลขหก แต่ว่าอายุมากไม่ใช่สิ่งสำคัญเลย อายุมากถ้าหากเราบำเพ็ญให้ดี ๆ เราก็มีกุศลเหมือนกัน อายุไม่ใช่ขีดจำกัดหรือข้อห้าม ศิษย์รักของอาจารย์สามารถทำให้ลูกหลานเข้าใจธรรมะได้ ลูกหลานเราก็เป็นเพียงแค่คนที่มีบุญสัมพันธ์กับเรามาเกิดเท่านั้น ถ้าเราส่งเสริมให้เขาเข้าใจธรรมะได้ก็จะเป็นกุศล
"โปรดคืนยังพุทธาแท้จิตนิ่ง" (ให้บำเพ็ญตนทั้งกายและใจ
เพื่อให้มีจิตใจที่สงบเยือกเย็นและมีสติตลอดเวลา)
"ได้ปิดกั้นหมางเมินหน้าอนิจจัง" ถ้าหากศิษย์รักไม่ได้ศึกษาธรรมะ
มาก่อนคงจะอธิบายไม่ได้ ทำไมถึงบอกว่าเราได้ปิดกั้นหมางเมินหน้าต่ออนิจจัง ก็เพราะว่าถ้าเราเองปิดกั้นกิเลสที่จะมารบกวนจิตใจของเรา ไม่
ข้องแวะยุ่งเกี่ยวกับความไม่เที่ยงแท้หันหลังกลับมาสู่ความเที่ยงแท้ของชีวิต รู้จักศึกษาธรรมโดยที่ไม่งมงาย ศิษย์รักของอาจารย์คิดว่าเราได้ปิดกั้น
หมางเมินหน้าอนิจจังหรือยัง เราจะต้องเร่งปิดกั้น เพราะว่าทุก ๆ วัน
กิเลสนั้นก็ตามมาราวีเราใช่ไหม
มาก่อนคงจะอธิบายไม่ได้ ทำไมถึงบอกว่าเราได้ปิดกั้นหมางเมินหน้าต่ออนิจจัง ก็เพราะว่าถ้าเราเองปิดกั้นกิเลสที่จะมารบกวนจิตใจของเรา ไม่
ข้องแวะยุ่งเกี่ยวกับความไม่เที่ยงแท้หันหลังกลับมาสู่ความเที่ยงแท้ของชีวิต รู้จักศึกษาธรรมโดยที่ไม่งมงาย ศิษย์รักของอาจารย์คิดว่าเราได้ปิดกั้น
หมางเมินหน้าอนิจจังหรือยัง เราจะต้องเร่งปิดกั้น เพราะว่าทุก ๆ วัน
กิเลสนั้นก็ตามมาราวีเราใช่ไหม
"เรือชีวิตไร้จุดหมายลอยหันเห"
(ชีวิตเราเปรียบเหมือนเรือที่ลอยไปในกระแสน้ำอย่างไร้จุดหมาย จะลอยไปทางไหนก็ได้ตามกระแสคลื่น)
"กระแสทะเลคลื่นกิเลสพัดจมดิ่ง" กระแสทะเลนี้ไม่ใช่ทะเลธรรมดา แต่เป็นทะเลทุกข์ที่เต็มไปด้วยคลื่นแห่งกิเลสพัดให้ศิษย์รักทุกคนของอาจารย์
จมลงไปเรื่อย ๆ อย่างนี้แล้วคิดว่าจะว่ายน้ำทวนคลื่นขึ้นมาเพื่อพบกับธรรมะ
ได้ไหม (ได้) อย่างนี้แล้วเราก็ต้องรู้ทัน ไม่ไปตามกระแสกิเลสใช่ไหม (ใช่)
จมลงไปเรื่อย ๆ อย่างนี้แล้วคิดว่าจะว่ายน้ำทวนคลื่นขึ้นมาเพื่อพบกับธรรมะ
ได้ไหม (ได้) อย่างนี้แล้วเราก็ต้องรู้ทัน ไม่ไปตามกระแสกิเลสใช่ไหม (ใช่)
"ที่สำคัญขจัดโลภกระจ่างธรรมยิ่ง" โลภในที่นี้หมายถึง โลภทั้งใน โลภทั้งนอก โลภทั้งในก็คือว่า
โลภในจิตใจอยากจะให้สมหวังปรารถนา
อยากจะให้ทุก ๆ อย่างเป็นของเรา โลภในความยินดี โลภภายนอกก็คือว่า โลภในทรัพย์สิน โลภในหน้าที่ โลภในตำแหน่ง มีใครบอกอาจารย์ได้บ้างว่าทุกคนไม่มีความโลภแล้ว ถ้าหากว่าทุกคนคิดว่าตัวเองยังมีความโลภอยู่ก็จะต้องขจัดความโลภออกด้วยใจใช่ไหม (ใช่) ถ้าขจัดความโลภไม่ได้ ศิษย์ก็คงไปอยู่กับอาจารย์ไม่ได้เช่นกัน ใช่ไหม (ใช่)
อยากจะให้ทุก ๆ อย่างเป็นของเรา โลภในความยินดี โลภภายนอกก็คือว่า โลภในทรัพย์สิน โลภในหน้าที่ โลภในตำแหน่ง มีใครบอกอาจารย์ได้บ้างว่าทุกคนไม่มีความโลภแล้ว ถ้าหากว่าทุกคนคิดว่าตัวเองยังมีความโลภอยู่ก็จะต้องขจัดความโลภออกด้วยใจใช่ไหม (ใช่) ถ้าขจัดความโลภไม่ได้ ศิษย์ก็คงไปอยู่กับอาจารย์ไม่ได้เช่นกัน ใช่ไหม (ใช่)
"ต่างช่วยจริงเหินห่างหลงติรใกล้" ติรแปลว่าฝั่ง
ฝั่งในที่นี้หมายถึง
ฝั่งธรรม หมายถึงหนันผิงซัน หนังผิงซันแปลว่าอะไร (หนันผิงซันเป็นชื่อ
หุบเขาที่พระอาจารย์สถิตอยู่ เป็นหุบเขาแห่งหนึ่งแต่ไม่ใช่หุบเขาที่อยู่ภายนอก แต่เป็นหุบเขาที่สถิตของจิตญาณเราทั้งหลาย พระอาจารย์อยู่ที่นั่น ท่านเป็น
ผู้รู้แจ้งแล้วท่านได้มาชี้ให้เรารู้จักหุบเขาที่มองไม่เห็น) ต่างช่วยจริงก็คือว่า
ในสถานธรรมแห่งนี้มีหน้าที่มากมายไม่ว่าจะเป็นหน้าที่ครัว ส่งผ้า ส่งน้ำ ล้วนเป็นหน้าที่ของอริยะทั้งนั้น พวกเขาเหล่านั้นต่างเหน็ดเหนื่อยและช่วยด้วยความจริงใจ ศิษย์รักของอาจารย์ทราบหรือไม่ (ทราบ) ถ้าทราบแล้วตั้งใจ
ฟังธรรมสมกับที่เขาตั้งใจหรือเปล่า ตั้งใจนะ
ฝั่งธรรม หมายถึงหนันผิงซัน หนังผิงซันแปลว่าอะไร (หนันผิงซันเป็นชื่อ
หุบเขาที่พระอาจารย์สถิตอยู่ เป็นหุบเขาแห่งหนึ่งแต่ไม่ใช่หุบเขาที่อยู่ภายนอก แต่เป็นหุบเขาที่สถิตของจิตญาณเราทั้งหลาย พระอาจารย์อยู่ที่นั่น ท่านเป็น
ผู้รู้แจ้งแล้วท่านได้มาชี้ให้เรารู้จักหุบเขาที่มองไม่เห็น) ต่างช่วยจริงก็คือว่า
ในสถานธรรมแห่งนี้มีหน้าที่มากมายไม่ว่าจะเป็นหน้าที่ครัว ส่งผ้า ส่งน้ำ ล้วนเป็นหน้าที่ของอริยะทั้งนั้น พวกเขาเหล่านั้นต่างเหน็ดเหนื่อยและช่วยด้วยความจริงใจ ศิษย์รักของอาจารย์ทราบหรือไม่ (ทราบ) ถ้าทราบแล้วตั้งใจ
ฟังธรรมสมกับที่เขาตั้งใจหรือเปล่า ตั้งใจนะ
"พินิจได้รู้อารมณ์คุกรุ่นทรมาน" (ตรวจดูอารมณ์ของเรา ตรวจดูอารมณ์ที่อยู่บนโลกนี้ คลุกฝุ่นเหมือนกิเลสที่อยู่บนโลกนี้ มันทรมานยังไง) ฝุ่นในที่นี้ก็หมายถึงกิเลสอีก
การที่เราจะพินิจดูเราใช้อะไรพินิจดู (ใช้สติปัญญา)
แล้วใช้สติปัญญาในการบำเพ็ญหรือเปล่า ใครอาสาจะช่วยอาจารย์อธิบาย
พระโอวาทบ้าง
แล้วใช้สติปัญญาในการบำเพ็ญหรือเปล่า ใครอาสาจะช่วยอาจารย์อธิบาย
พระโอวาทบ้าง
"ต้องฝืนเพียรเนิ่นนานผันนิสัย" (ต้องฝึกฝน
ต้องพยายามและต้องใช้เวลานานเพื่อจะเปลี่ยนนิสัยของเรา) ทำไมความเพียรถึงบอกว่าเป็นการฝืนล่ะ
(อย่างมารับธรรมะ
ไม่เคยมานั่งฟังเกือบสองวันเต็ม ก็เป็นการฝืนเหมือนกัน แต่เป็นการฝืนที่สบาย ๆ )
"ไป่ผัดวันประกันพรุ่งบำเพ็ญใจ" (การที่เราจะบำเพ็ญธรรมนี้ ถ้าเรา
ผัดวันไปเรื่อย ๆ จิตใจเราก็จะไม่เจริญขึ้น" ไป่ตัวนี้หมายถึงไม่ ไม่ผัดวันประกันพรุ่งบำเพ็ญใจ แล้วคำตอบก็อยู่ในประโยคต่อไป
ผัดวันไปเรื่อย ๆ จิตใจเราก็จะไม่เจริญขึ้น" ไป่ตัวนี้หมายถึงไม่ ไม่ผัดวันประกันพรุ่งบำเพ็ญใจ แล้วคำตอบก็อยู่ในประโยคต่อไป
"พ้นนรกานต์นิพพานใกล้ด้วยใจวีรชน"
(พ้นจากความทุกข์ทรมานแล้วเข้านิพพานด้วยใจจริง) พ้นนรกานต์
ศิษย์รักของอาจารย์ทุกคนขณะนี้จริง ๆ
แล้วก็พ้นนรกานต์อยู่แล้ว
แต่ถ้าศิษย์ตัดสายทองเส้นนี้ทิ้ง
นิพพานจะเข้ามาใกล้ศิษย์ได้ไหม
ถ้าศิษย์รักของอาจารย์บำเพ็ญด้วยใจวีรชน
ถึงแม้จะคนเดียว โดนครหา โดนกล่าวว่าก็ไม่เกรงกลัว บำเพ็ญเรื่อย ๆ ไปใจนี้ก็เปรียบดังวีรชน
(พระอาจารย์เมตตาสอนร้องเพลงความในใจ) ร่างกายของศิษย์ทุกคนจริง ๆ แล้วช้ำไปหมดแล้วศิษย์รู้ไหม พุทธจิตธรรมญาณที่สถิตในร่างกาย
ศิษย์เองก็หม่นหมองเศร้าตรม แล้วศิษย์รักล่ะพร้อมใจพร้อมกายที่จะประคองขึ้นมาหรือยัง พร้อมหรือยัง
ศิษย์เองก็หม่นหมองเศร้าตรม แล้วศิษย์รักล่ะพร้อมใจพร้อมกายที่จะประคองขึ้นมาหรือยัง พร้อมหรือยัง
(อาจารย์ถ่ายทอดเบิกธรรมเมตตาอธิบายพระโอวาทซ้อนพระโอวาท
คำว่า "อี้ซิน" คำว่า "อี้" แปลว่า หนึ่ง คำว่า "ซิน" แปลว่า ใจ
"อี้ซิน" ก็คือ "ใจที่มีหนึ่งเดียว" )
คำว่า "อี้ซิน" คำว่า "อี้" แปลว่า หนึ่ง คำว่า "ซิน" แปลว่า ใจ
"อี้ซิน" ก็คือ "ใจที่มีหนึ่งเดียว" )
"ชราวัยอย่าได้ปิดกั้นหมางเมิน" ศิษย์รักของอาจารย์ทุกคนอายุมากแล้ว
ก็อย่าได้ปิดกั้นตัวเองจากธรรมะ
ก็อย่าได้ปิดกั้นตัวเองจากธรรมะ
"หน้าที่ต่างสำคัญช่วยได้" หน้าที่ต่างสำคัญต่างก็ช่วยกันได้เข้าใจไหม
"ฝืนเพียรเนิ่นนานผันคุกรุ่นโลภหลง" ศิษย์รักของอาจารย์เมื่อเพียรไปนาน ๆ ก็ย่อมรู้สึกว่าตัวเองยิ่งใหญ่ในทางธรรม แล้วอย่างนี้ศิษย์รักของอาจารย์จะเรียกว่าบำเพ็ญหรือไม่
(ไม่) ถึงแม้หน้าที่ทางธรรมหรือหน้าที่
ทางโลกก็เหมือนกัน ศิษย์รักมีความโลภ มีความหลงเช่นนี้แล้วจะเรียกว่าบำเพ็ญไหม (ไม่) ถ้าอย่างนั้นแล้วควรจะสำรวจตัวเอง ย้อนส่องใจ เข้าใจไหม
ทางโลกก็เหมือนกัน ศิษย์รักมีความโลภ มีความหลงเช่นนี้แล้วจะเรียกว่าบำเพ็ญไหม (ไม่) ถ้าอย่างนั้นแล้วควรจะสำรวจตัวเอง ย้อนส่องใจ เข้าใจไหม
"เหินห่างธรรมยิ่งใกล้ไป่พ้นนรกานต์" ถ้าศิษย์รักของอาจารย์ที่อยู่ ณ
ที่นี้เหินห่างจากธรรมะแล้ว ทางลัดที่ศิษย์จะไปก็ขาดหายไป อย่างนี้ชื่อศิษย์แม้จะอยู่บนสวรรค์ก็หลุดลงมาข้างล่างได้ใช่ไหม เพราะฉะนั้นศิษย์รักก็
ไม่พ้นแล้ว ไม่พ้นอะไร (นรก)
ที่นี้เหินห่างจากธรรมะแล้ว ทางลัดที่ศิษย์จะไปก็ขาดหายไป อย่างนี้ชื่อศิษย์แม้จะอยู่บนสวรรค์ก็หลุดลงมาข้างล่างได้ใช่ไหม เพราะฉะนั้นศิษย์รักก็
ไม่พ้นแล้ว ไม่พ้นอะไร (นรก)
อาจารย์อยากบอกศิษย์รักสักอย่างว่า "สนิม" ที่ท่านองค์ประธาน-
คุมสอบสามภูมิได้ให้ไว้ "สนิม" นั้นเกิดจากอะไร หมายถึงอะไร ใครบอกอาจารย์ได้บ้าง (สนิมเกิดจากกิเลส) สนิมเกิดจากตัวสนิมเองเพราะสนิมเป็นเหล็ก ถ้าศิษย์รักของอาจารย์ใช้ความศรัทธาที่มีอยู่นั้นเป็นสนิมแล้วอย่างนี้จะเรียกว่าบำเพ็ญหรือไม่ (ไม่) ศิษย์รักของอาจารย์จะยอมให้จิตญาณของ
ตัวเองเกิดสนิมไหม (ไม่)
คุมสอบสามภูมิได้ให้ไว้ "สนิม" นั้นเกิดจากอะไร หมายถึงอะไร ใครบอกอาจารย์ได้บ้าง (สนิมเกิดจากกิเลส) สนิมเกิดจากตัวสนิมเองเพราะสนิมเป็นเหล็ก ถ้าศิษย์รักของอาจารย์ใช้ความศรัทธาที่มีอยู่นั้นเป็นสนิมแล้วอย่างนี้จะเรียกว่าบำเพ็ญหรือไม่ (ไม่) ศิษย์รักของอาจารย์จะยอมให้จิตญาณของ
ตัวเองเกิดสนิมไหม (ไม่)
ดอกไม้เปรียบเหมือนคนที่มีสัจจะ
ดอกไม้ก็มีทั้งที่มีกลิ่นและสีที่
ชวนมอง ศิษย์รักของอาจารย์ใช่มองว่าดอกไม้สวยหรือไม่สวย มันมี
กลิ่นหอมหรือไม่หอม ศิษย์รักอยากเป็นดอกไม้ที่ไม่มีสีแล้วก็ไม่หอมหรือเปล่า อยากเป็นเช่นนั้นหรือเปล่า ถ้าศิษย์รักอยากมีทั้งสีและความหอม ศิษย์รัก
จะต้องรักษาสัจจะ ศิษย์รักจะได้มีครบทั้งสีและกลิ่น แต่ว่าการที่จิตของเราเป็นอายตนะ ถ้ามองกลับอีกแง่หนึ่งไปยึดติดกับมันก็จะหลุดพ้นได้ยากใช่ไหม
ชวนมอง ศิษย์รักของอาจารย์ใช่มองว่าดอกไม้สวยหรือไม่สวย มันมี
กลิ่นหอมหรือไม่หอม ศิษย์รักอยากเป็นดอกไม้ที่ไม่มีสีแล้วก็ไม่หอมหรือเปล่า อยากเป็นเช่นนั้นหรือเปล่า ถ้าศิษย์รักอยากมีทั้งสีและความหอม ศิษย์รัก
จะต้องรักษาสัจจะ ศิษย์รักจะได้มีครบทั้งสีและกลิ่น แต่ว่าการที่จิตของเราเป็นอายตนะ ถ้ามองกลับอีกแง่หนึ่งไปยึดติดกับมันก็จะหลุดพ้นได้ยากใช่ไหม
ศิษย์ลองคิดดูว่าบนถนนสายหนึ่งมีอาจารย์คนเดียวเท่านั้นที่เดินอยู่ ศิษย์รักของอาจารย์ทุกคน อาจารย์เดินอยู่ท่ามกลางฝน ศิษย์รักก็ไม่สนใจ อย่างนี้แล้วจะไม่ให้อาจารย์เศร้าได้อย่างไร
ศิษย์รักของอาจารย์ทุกคนเวียนว่ายตายเกิดนานแสนนาน ถ้าหากว่าศิษย์รักของอาจารย์ยังเวียนว่ายอยู่อย่างนี้แล้วจะให้อาจารย์มีความยินดีได้ไหม มีใครบอกอาจารย์ได้บ้างว่าจริง ๆ แล้วอาจารย์ควรจะทำอย่างไร อาจารย์
ขอให้ศิษย์ช่วยตัวเองได้ไหม ศิษย์เองยังมีบางคนที่เชื่อและไม่เชื่อ แล้วศิษย์
จะให้อาจารย์มีความสุขได้หรือเปล่า ถ้าศิษย์รักของอาจารย์เข้าใจธรรมะ ศรัทธาธรรมะก็สามารถเดินเคียงข้างอาจารย์ได้ใช่ไหม
ขอให้ศิษย์ช่วยตัวเองได้ไหม ศิษย์เองยังมีบางคนที่เชื่อและไม่เชื่อ แล้วศิษย์
จะให้อาจารย์มีความสุขได้หรือเปล่า ถ้าศิษย์รักของอาจารย์เข้าใจธรรมะ ศรัทธาธรรมะก็สามารถเดินเคียงข้างอาจารย์ได้ใช่ไหม
คนทั้งชั้นก็คือภาระของศิษย์เข้าใจไหม
(พระอาจารย์พูดกับนักเรียน
คนหนึ่ง) ศิษย์รักของอาจารย์ทุกคนรับปากกับอาจารย์ได้ไหมว่าจะ
เพียรพยายาม ถ้าหากมาคราวหน้าอาจารย์ไม่เห็นหน้าศิษย์แล้วจะให้
อาจารย์ไปตามอย่างไร ศิษย์รักของอาจารย์ทุกคนก็คือดวงใจของอาจารย์
ถ้าศิษย์ไม่เพียรในวันนี้ก็คงเหมือนบทเพลงเมื่อวานที่มันสายเกินไปแล้ว
คนหนึ่ง) ศิษย์รักของอาจารย์ทุกคนรับปากกับอาจารย์ได้ไหมว่าจะ
เพียรพยายาม ถ้าหากมาคราวหน้าอาจารย์ไม่เห็นหน้าศิษย์แล้วจะให้
อาจารย์ไปตามอย่างไร ศิษย์รักของอาจารย์ทุกคนก็คือดวงใจของอาจารย์
ถ้าศิษย์ไม่เพียรในวันนี้ก็คงเหมือนบทเพลงเมื่อวานที่มันสายเกินไปแล้ว
มีใครรู้บ้างว่าทำไมอาจารย์ถึงเศร้าสร้อยอย่างนี้ ศิษย์จากอาจารย์มาก็นานแล้ว
ถ้าหากว่าไม่เพียรบำเพ็ญแล้วจะให้อาจารย์รอศิษย์ถึงเมื่อไหร่ อาจารย์เจ็บปวดกับการที่ต้องรอโดยไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ศิษย์รักจะกลับมา ถ้าหากว่าศิษย์ไม่พยายามดึงตัวเองแล้ว อาจารย์ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้พบกันอีก
เข้าใจไหม (เข้าใจ)
อาจารย์เห็นหน้าศิษย์มีแต่ความยินดี
แต่พอจะกลับไปอาจารย์ก็ห้ามความเศร้าไม่อยู่ อาจารย์ก็รอว่าสักวันหนึ่งคงมีคนที่ทำให้อาจารย์สบายใจได้
ศิษย์รักของอาจารย์ทุกคนเข้าใจไหมว่างานที่นี่ยังต้องคอยศิษย์รักอีกมากมาย
ถ้าศิษย์รักไม่พยายามแล้วงานธรรมะจะรุ่งเรืองได้หรือไม่ (ไม่ได้) ถ้ามีโอกาส
ขอให้ศิษย์รักทุกคนมาสถานธรรม มาอยู่กับอาจารย์ดีไหม (ดี)
ขอให้ศิษย์รักทุกคนมาสถานธรรม มาอยู่กับอาจารย์ดีไหม (ดี)
พวกเราได้ร่วมกันร้องเพลง
"ความในใจ" , "คำสัญญา" และ "แผลในใจ" เป็นการส่งพระอาจารย์