แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ความตาย แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ความตาย แสดงบทความทั้งหมด

วันเสาร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2554

2554-06-18 สถานธรรมเต๋อฮว่า จ.สงขลา


西元二〇一一年 歲次辛卯五月十八日    仙佛慈悲訓
วันเสาร์ที่ ๑๘ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๕๔ สถานธรรมเต๋อฮว่า จ.สงขลา
พระโอวาทหนึ่งในแปดเซียนหลี่เถียไกว่
   อาจดูเศร้าที่ต้องพรากจากสิ่งที่รัก อาจยากหักจิตใจที่ทุกข์ขม
อาจยากชินชากับความเจ็บไข้ตรม แต่ทุกปมคือชีวิตเห็นแจ้งใจ
เราคือ
  หนึ่งในแปดเซียนหลี่เถียไกว่ รับบัญชาจาก
พระอนุตตรธรรมมารดาผู้เมตตา ลงสู่พุทธสถาน แฝงกายอัญชุลี
องค์มารดา  ถามเมธีทุกท่านสราญฤๅ

    คนยุคก่อนไยจึงมีคุณธรรมกว่า ก็เพราะว่าเชื่อกฎแห่งกรรมใช่เงิน
คนปัจจุบันทำผิดยังกล้าสู้หน้าเกิน สุขเพลินเพลินไม่มีคำว่าผิดไป
การคิดเพื่อคุณธรรมใช่ใช้เหตุผล แต่ใช้สำนึกอันแยบยลเป็นผู้ไข
คมปัญญาย่อมเผยทางที่ไม่ทั่วไป คนโบราณจึงเกริกเกรียงไกรตราบนานเท่านาน
อันกายที่สำแดงธรรมคือมนุษย์ผู้ดี อันใจที่สำแดงธรรมคือมนุษย์แห่งสวรรค์
สร้างบุญวาสนาคุณผู้บำเพ็ญตัวด้วยทาน เมตตาธรรมนำสู่การมีบารมีสุดประมาณ
คนใหญ่ยิ่งด้วยรู้จริงตัวแห่งเรา ขัดจิตเงาออกคุณูปการรากใจของท่าน
น้ำแห่งฐานรากของกระดูกปฏิบัติพยายามนั้น คือคุณอันอนุตตรธรรมเริ่มจากมนุษยธรรม
จะบำเพ็ญจริงจะยากก็ดูไม่ยาก เป็นแหล่งหลักเป็นประพฤติฐานจิตสูงล้ำ
คือคุณธรรมคือธรรมคือมนุษย์ผู้ทำ แล้วมีกรรมแล้วพ้นกรรมด้วยตัวเอง

โลกมีภัยฟ้าลงช่วยคนทำเฉย ติดชินเคยความมีกิเลสทำอวดเก่ง
ไม่เป็นไม่รู้ยังทำใจนักเลง ยามทุกข์เศร้าใจวังเวงคลายไม่เป็น
ชอบเรียนรู้ทำอย่างไรก็ไม่รู้ เพราะไม่รู้ใจตัวเองมองไม่เห็น
สว่างนอกใจบอดมืดจ้องก็ไม่เห็น ฝึกบำเพ็ญหมั่นขัดเกลาให้สงบจิตใจ
ฮา ฮา  หยุด

พระโอวาทหนึ่งในแปดเซียนหลี่เถียไกว่
โอกาสดีที่ได้ฟังสิ่งที่ดี หรือดีที่ต้องอดทนอดกลั้น (ดีทั้งสองอย่าง)  ไม่เคยเห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ร่างกายพิการใช่หรือไม่ (ใช่)  วันนี้ก็ได้เห็นแล้ว  ฉะนั้นเป็นโอกาสที่ดี  ขึ้นชื่อว่าชีวิต สิ่งใดเกิดสิ่งนั้นย่อมมีดี ถ้าเรารู้จักคิดให้เป็น ถ้าเราคิดไม่เป็น สิ่งใดเกิด สิ่งนั้นก็อาจจะไม่มีอะไรดีเลย รู้สึกว่ามาฟังสองวันนี้เป็นการตัดสินใจที่จะต้องฝึกฝนตัวเอง  อย่างแรก ที่วันนี้ได้คือความ (อดทน) 
วันนี้ที่ยอมมานั่งฟังจนจะครบหนึ่งวัน ได้ความอดทนแล้วก็ยังได้ความรู้จักเสียสละ ใช่หรือไม่ (ใช่)  ใครๆ ก็อยากเข้าห้องน้ำ แต่ห้องน้ำมีจำกัด  แล้วคนก็ไม่อยากลงไปข้างล่าง บางครั้งใครที่ไหวก็ต้องยอมเสียสละให้ผู้สูงวัยได้อยู่ข้างบน  และเราผู้มีอายุน้อย ลงไปเข้าข้างล่าง  แล้วเราเสียสละหรือเปล่า เราได้อดทนไหม (อดทน)  จริงหรือ  เห็นบอกป้าๆ เดี๋ยวๆ ให้หนูก่อน 
ชีวิตนี้กว่าจะเกิดเป็นคนก็เป็นเรื่องยาก กว่าเราจะมีโอกาสได้เกิดมาเป็นคน เราอาจจะไม่รู้ว่าเป็นเรื่องยาก แต่จริงๆ แล้วยากแสนยาก  เมื่อเป็นคนแล้วก็ต้องดำรงตนให้ดีก็ยากยิ่งกว่า  ฉะนั้นชีวิตมีแต่ความยากลำบาก ถ้าเรายอมแพ้ไปเสียตั้งแต่ต้น เราก็จะไม่รู้จักชีวิตที่แท้จริง  แต่ถ้าเราไม่ยอมแพ้ยังอดทนสู้ต่อไป เราอาจจะได้เข้าใจความหมายชีวิตที่ยิ่งใหญ่ก็เป็นได้  แล้ววันนี้เข้าใจชีวิตที่ยิ่งใหญ่บ้างหรือยัง  ขึ้นชื่อว่าชีวิตไม่ใช่ว่าจะมีวันดีได้ทุกๆ วัน  บางครั้งก็โชคดี บางครั้งก็โชคร้าย แล้วเราจะอยู่กับโลกใบนี้ได้อย่างไร ก็มีแต่ทำจิตใจให้เข้มแข็ง เปิดใจกว้างยอมรับกับความเป็นจริงที่แม้จะเลวร้ายเพียงใดก็ตาม  เราจึงจะฟันฝ่าชีวิตให้ผ่านไปได้วันๆ หนึ่ง 
ฉะนั้นวันนี้ที่ท่านพูดว่าท่านนั่งลำบาก วันนี้มีคนลำบากกว่ายืนอยู่ตรงนี้  แถมจะต้องเดินไปให้รอบห้อง  ฉะนั้นอย่าคิดว่าเราลำบากคนเดียว  ในโลกนี้ถ้าเราเปิดใจให้กว้าง เราจะรู้ว่ายังมีคนลำบากกว่า อย่าคิดว่าเราแย่คนเดียว  ถ้าเราเปิดใจให้กว้าง เราจะมองเห็นว่าในโลกนี้ยังมีคนที่ยังแย่กว่าเรา
แต่ในทางกลับกันก็อย่าได้หยิ่งผยองว่าตัวเองเก่ง ตัวเองแน่ เพราะคนที่เก่งก็ยังมีคนที่เก่งกว่า คนที่ฉลาดก็ยังมีคนที่ฉลาดกว่า ถึงเราจะแก่แต่ก็ยังมีคนที่ (แก่กว่า) แล้วจะกลัวทำไม ฉะนั้นใครบอกว่านั่งแล้วเมื่อย นั่งแล้วเจ็บ ลองมายืนแบบเรา อะไรเจ็บกว่า มีขาให้รู้จักเจ็บปวดยังดีกว่ามีขาแต่ไร้ความรู้สึกเจ็บปวด มีชีวิตให้รู้จักเรียนรู้ทุกข์สุข  ดีกว่าไร้ชีวิตแล้วไม่รู้จักทุกข์สุขอะไรเลย อะไรมีค่ากว่ากัน มีขายังเจ็บได้ แต่ถ้ามีขาแต่ไม่เจ็บ ดีไหม (ไม่ดี)  ก็มันมาอย่างนี้แล้วเราก็ต้อง (อดทน)  ไม่ต้องอดทน เราก็ต้องสู้กับมันไป ทำไมต้องอดทนเพราะนี่ก็ขาเรา แม้ขาหนึ่งจะรู้สึก แต่ขาหนึ่งไม่รู้สึก แต่มันก็เป็นขาเรา ใช่ไหม (ใช่)  ดีกว่าไม่มีขา  อย่าคิดว่าในโลกนี้จะมีตัวเองเท่านั้นที่ทุกข์ มีตัวเองเท่านั้นที่แย่ แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงยังมีคนที่แย่กว่าเรา ยังมีคนทุกข์กว่าเรา ถ้าเราคิดได้อย่างนี้ เราก็จะมีกำลังใจ ใช่ไหม (ใช่) 
เรารักชีวิตไหม (รัก) เรารักตัวเองไหม (รัก)  แล้วถ้าเกิดความเป็นจริงแห่งชีวิตทำให้เราต้องทุกข์ ความเป็นจริงแห่งชีวิตทำให้เราต้องเจ็บ ความเป็นจริงแห่งชีวิตทำให้เราต้องเศร้า เรายังอยากจะมีชีวิตอยู่ไหม (อยาก)  เราเห็นคนบางคนพอพบความพลัดพราก ความผิดหวัง รักชีวิตก็รัก แต่พอเวลาพบกับเรื่องแบบนี้เข้าก็ขอยอมตายเสียดีกว่า
ผิดหวังกับลูก ตายเลยดีไหม ไหนบอกว่ารักชีวิตไง รักชีวิตไหม (รัก) แปลว่าคนที่รักชีวิตอย่างแท้จริงคือต้องรับให้ได้ในทุกๆ สิ่งที่เรียกว่าชีวิต แม้จะต้องอกหักก็ (ยอมรับได้) แม้จะต้องล้มละลายก็ (ยอมรับได้) ตอนนี้พูดกับเราก็รับได้ แต่พอถึงเวลาผูกคอตายดีกว่า ใช่หรือไม่ (ไม่ใช่) เป็นบ้าเลย
เมื่อก่อนเราก็ร่างกายปกติ แต่เพราะเราสามารถบำเพ็ญจนถอดจิตญาณได้ เราจึงไปเที่ยวสวรรค์ แล้วเราก็ฝากลูกศิษย์ให้ดูแลร่างกายเรา เมื่อครบกำหนดถ้าหากเราไม่กลับมา เราบอกเขาว่าให้เผาร่างเราไปเลย แต่เผอิญว่า ลูกศิษย์เราเขามีเรื่องด่วน ยังไม่ทันครบกำหนดแต่เขามีธุระที่จะต้องไปทำอย่างอื่น เขาเลยเผาร่างเราทิ้ง พอเรากลับมา เราเข้าร่างไม่ได้ เราไม่มีร่างให้เข้า เราโกรธไหม เรารับได้ไหม เราไม่โกรธ เรารับได้ เราต้องไปหาร่างใหม่อยู่ ถึงแม้ว่าร่างใหม่จะอัปลักษณ์ จะพิการอย่างไรก็ตาม แต่เราก็ต้องเลือกที่จะอยู่กับร่างนี้ให้ได้ เพราะมีชีวิต มีร่างกายยังจะสามารถสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ที่ประเสริฐได้มากมายแต่หากว่าไร้ชีวิตแล้วเราแก้ไข เราเปลี่ยนแปลงอะไรอีกไม่ได้แล้ว
ฉะนั้นถ้าหากชีวิตต้องพบเรื่องทุกข์ เรื่องผิดหวัง เรื่องหมดตัว ขอให้รับให้ได้ เพราะนั่นคือ ส่วนหนึ่งของชีวิต  ถ้ามีชีวิตแม้จะผิดหวัง แม้จะหมดตัว แม้จะล้มเหลว ชีวิตก็ยังทำให้เราเริ่มต้นใหม่ได้ แต่หากผิดหวัง ล้มเหลว แล้วเราฆ่าชีวิตทิ้ง เราแก้ไขอะไรไม่ได้ แต่เราคือผู้แพ้ตลอดชีวิต
แม้จะเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อเรื่องพวกนี้ แต่ลองฟังดูหน่อยก็ไม่เสียหายอะไรใช่หรือไม่  อย่าเพิ่งรังเกียจกันเลย แม้ตัวเราจะดูน่ารังเกียจแต่ขอให้ใจท่านอย่าเกลียดเราก็พอ ได้หรือไม่
 ธรรมะบางครั้งเรารู้สึกว่าเหมาะสมกับคนที่กำลังทุกข์ คนที่กำลังแย่ เหมาะสำหรับคนที่พ่ายแพ้ ล้มเหลวในชีวิต ส่วนคนที่มีความสุข ธรรมะดูไม่เหมาะ  ฉะนั้นธรรมะเหมาะทั้งคนที่มีสุขและมีทุกข์ โดยเฉพาะคนที่มีความสุขก็อย่าได้ประมาทคิดว่าตัวเองไม่ทุกข์ เพราะว่าถึงแม้ว่าเราจะสุขขนาดไหน แต่เรามั่นใจหรือว่าเราจะไม่ทุกข์เลย ไม่มีทางที่จะสุขได้ตลอดหรอก และเราจะมั่นใจหรือไม่ว่า ธรรมะมีก็ได้ ไม่มีก็ได้ และทำไมเราต้องมีธรรมะ เพื่อเป็นเครื่องปรุงใจ เพื่อเป็นเครื่องควบคุมจิตใจ เพื่อเป็นเครื่องป้องกันไม่ให้เราประพฤติผิด และธรรมะทำให้เรานั้นต่อสู้กับความเป็นจริงบนโลกนี้ด้วยจิตใจที่เข้มแข็ง สุขุมและรู้จักควบคุมตัวเองให้เป็น
ถ้าหากเราถามท่าน มนุษย์เราในโลกนี้ทุกข์เพราะเรื่องอะไรหรือ และเคยถามตัวเองไหม (ความโลภ, ความหลง)  มนุษย์ส่วนใหญ่ทุกข์เพราะรับไม่ได้กับการเปลี่ยนแปลง ถามจริงๆ ถ้าวันหนึ่งท่านต้องเป็นแบบเรา ท่านจะทุกข์ไหม (ทุกข์, ไม่ทุกข์)  จะทุกข์ทำไม เพราะใครๆ ก็ต้องเจ็บ ใครๆ ก็ต้องป่วย ฉะนั้น สาเหตุที่ทุกข์อีกอย่างของมนุษย์ก็คือ ไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงแล้วก็ยึดมั่นถือมั่นอย่างตายตัว แล้วมีใครบ้างในโลกนี้ เกิดแล้วไม่เจ็บ เจ็บแล้วไม่ตาย ใช่ไหม (ใช่) 
ฉะนั้นถ้าวันหนึ่งท่านต้องเป็นแบบเรา ทุกข์ไม่ทุกข์ (ไม่ทุกข์)  และถ้าเป็นแบบเราแล้วต้องตาย ทุกข์ไม่ทุกข์ (ไม่ทุกข์)  จริงหรือ (จริง)  อย่ารอให้เราบอกแล้วถึงทำใจได้ ถ้าถึงเวลาชีวิตพบเจอกับชีวิตจริงๆ ชีวิตพบเจอกับความเปลี่ยนแปลงจริงๆ คนที่จะดึงใจให้พ้นทุกข์ได้ ไม่ใช่สิ่งสักดิ์สิทธิ์ แต่คือตัวท่านเองที่มีสติปัญญา และรู้จักเอาธรรมไปใช้ อย่าเอาธรรมไปแค่ ฟังทะลุหูซ้ายแล้วออกหูขวา อย่าเอาธรรมะมาฟังแค่สองวันกลับบ้านแล้วเหมือนเดิม แต่ ต้องเอาธรรมไปใช้กับชีวิตให้ได้ เพราะธรรมจะช่วยบำรุงเลี้ยงชีวิต ธรรมจะช่วยทำให้เรารู้จักรับกับความเป็นจริงของโลกนี้ได้อย่างเข้มแข็ง และต่อสู้ก้าวต่อไปด้วยความอดทน และมองเห็นความจริง

(ผู้ดำเนินรายการนำนักเรียนในชั้นเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั่ง)  ส่วนใหญ่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้นั่ง แล้วถ้าเราไม่นั่งท่านจะยืนกับเราไหม จริงหรือ (จริง)  เราคงไม่ใจร้ายพอ  แม้เราจะทุกข์ เราก็คงไม่ทำให้ท่านต้องทุกข์กับเราหรอก  แม้เราทุกข์แต่ทำให้ผู้อื่นสุขย่อมประเสริฐ ใช่หรือไม่ (ใช่) 
  คนโบราณเชื่อกฎแห่งกรรม เชื่ออย่างแนบแน่นฝังจิตใจ  แต่คนปัจจุบันนี้เชื่อกฎแห่งกรรมไหม  เชื่อแต่เรื่องกฎแห่งเงิน   ใครมีเงินมากกว่าเป็นพระเจ้า ใครมีอำนาจมากกว่าเป็นนาย  แต่คนที่เชื่ออย่างนั้นล้วนหนีไม่พ้นวังวนแห่งนรก และความทุกข์ทน  แต่คนที่เชื่อกฎแห่งกรรม เชื่อว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว  ถึงที่สุดแล้วเขายังได้ไปสู่สวรรค์ ใช่หรือไม่ (ใช่)  หรือไม่สู่สวรรค์ อย่างน้อยก็สุขใจตนที่ได้ทำสิ่งที่ดี ถึงแม้จะมีคนเห็น หรือไม่เห็นก็ตาม
เหมือนถามว่าหนึ่งชีวิตที่เราเกิดมา ทุกครั้งที่เราสามารถหลับตาแล้วเราไม่กลัวอะไร ก็เพราะว่าเรารู้สึกว่าเรายังเป็นคนดีคนหนึ่งในโลก ใช่หรือไม่ (ใช่)  แต่ถ้าวันหนึ่งเราจะนอนแต่เราหลับตาไม่ลง เพราะว่าเรายังดีไม่พอ  จะออกไปก็ไม่รู้ว่าจะรอดไหม   แต่เชื่อเถิดว่าคนที่ทำดีไม่ว่าจะอยู่หรือออกไป เขาก็บอกว่าไม่เป็นไร อย่างน้อยชีวิตนี้ฉันก็ยังมีดีที่ได้ทำ จริงหรือไม่ (จริง)  แต่ถ้าตลอดชีวิตมาเราไม่เคยทำดีเลย อยู่ก็กลัว ไปก็กลัว
 มีชีวิตต้องรู้จักคิดอย่างคนที่มีคุณธรรม ไม่ใช่คิดอย่างคนที่โลภ โกรธ หลง แล้วเราคิดแบบไหน คิดอย่างคนมี (คุณธรรม) คนมักจะบอกว่าอยู่ให้รอดไปวันๆ ก็พอแล้ว ดีไม่ดี ไม่เป็นไร ใช่หรือไม่ (ใช่)  แล้วคนที่ต้องรับผลของการพูดว่าชั่งมันคือใคร (ตัวเราเอง)  แล้วเรารับไหวไหม (ไม่ไหว) พุทธะจึงกล่าวไว้ว่าฟ้าทำให้เราโชคร้าย หรือคนทำให้เราเจ็บปวด แท้ที่จริงฟ้าต้องการให้มนุษย์เห็นความยุติธรรมว่าใครหว่านเมล็ดพันธุ์อะไร คนนั้นก็จะได้รับผลของการกระทำนั้น ปัจจุบันเป็นอย่างไร เป็นเพราะอดีตที่ทำมา แล้วเราอยากกำหนดอนาคตให้ดีไหม (อยาก)  ฉะนั้นต้องทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพราะถ้าเราทำไม่ดีก็เท่ากับว่าเรากำลังปูทางอนาคตแห่งตัวตนเอง ใช่หรือไม่ (ใช่)  ฉะนั้นอย่าบอกว่าเขาทำร้ายเรา บางทีเป็นเพราะว่าเราไปทำเขามาก่อน วันนี้เรากำลังใช้คืน
พระพุทธะจึงกล่าวไว้ว่าผู้ใดทำความยากลำบากให้ผู้อื่น ผู้นั้นก็คือคนที่ทำร้ายตัวเอง ผู้ใดที่รู้จักช่วยผู้อื่น ผู้นั้นก็คือผู้ที่รู้จักช่วยตัวเองยิ่งนัก เมื่อยามเรามีชีวิตอยู่เรายอมเขาไหม เราอภัยเขาไหม เมื่อเราไม่ยอม ไม่อภัย เราก็คือคนที่ผูกใจเจ็บผูกเวรผูกกรรม แปลว่าการที่เราไม่ยอมให้อภัยเขา เท่ากับว่าเราอยากกลับมาเจอเขา ใช่ไหม วันนี้เขาทำเรา เราผูกใจเจ็บ วันหน้าเราทำเขา เขาผูกใจเจ็บ แล้วเราต้องเจอกันกี่ครั้ง อยากเจอหลายครั้งหรือ (ไม่)  วันนี้เขาทำเราเจ็บ ทำเราขาหัก เราผูกใจเจ็บต่อดีไหม เราไม่ต้องอภัย เราไม่ต้องเมตตา เราใช้ความโกรธเลย ผูกเก็บไว้ในใจ จำไม่ลืม ดีไหม (ไม่ดี)  แล้วในใจทำไมเก็บไว้เต็มหมดเลย ถามว่าความดีมีอะไรบ้าง จำไม่ได้ แต่ใครทำชั่วขนาดไหน จำได้หมด ฉะนั้น ยิ่งจำก็แปลว่ายิ่งอยากเจอ ยิ่งจำแปลว่ายิ่งอยากไปก่อเวร ใช่หรือไม่ (ใช่)  แต่ถ้าเราไม่จำ เราให้อภัย เราคือคนที่จบเวรจบภัย
ฉะนั้นขึ้นชื่อว่าชีวิตไม่ใช่แค่สุขหรือทุกข์ แต่อาจจะสุขหรือทุกข์ไม่จบสิ้นได้ถ้าเรายังผูกใจเจ็บ ไม่ให้อภัย อยากผูกใจเจ็บไหม (ไม่อยาก)  อยากเจอเขาอีกไหม (ไม่อยาก)  จะได้แก้แค้นไม่ดีหรือ (ไม่ดี)  สิ่งที่มนุษย์ต้องทุกข์อยู่ทุกวันนี้ก็เพราะความยึดมั่นถือมั่น ท่านรู้ไหมว่าแม้สิ่งที่ไม่มีชีวิตก็ยังผูกใจท่านได้ แม้สิ่งที่ไม่มีรูปร่างก็ยังขังท่านได้ ใช่หรือไม่ (ใช่)  และแม้สิ่งมีชีวิตตัวเล็กนิดเดียวก็ยังทำท่านเจ็บปวดได้ จริงหรือไม่ (จริง)  ฉะนั้นมนุษย์ก็คือผู้ที่สรรหาทุกข์ตั้งแต่สากเบือยันเรือรบ จริงไหม (จริง) แล้วเราจะพ้นทุกข์ได้อย่างไร เชื่อไหมว่าสิ่งที่ไม่มีชีวิต ขนเส้นเดียวก็ทำให้เรา (เจ็บ) ทุกข์ไหม (ทุกข์)  แค่เห็นหงอกเส้นเดียว ทุกข์ไหม (ทุกข์)  เห็นไหมสิ่งไม่มีชีวิตยังทำให้เราทุกข์ได้ ง่ายๆ เห็นตีนกาหนึ่งอัน เจ็บไหม (เจ็บ)  เจ็บปวดไหม แก่แล้ว สิ่งที่ไม่มีชีวิตยังทำให้เราทุกข์ได้เพราะอะไร ฉะนั้นเราศึกษาธรรมเราต้องเข้าใจว่ามนุษย์ทุกข์มาจากไหน ถ้าเราไม่เข้าใจต้นเหตุแห่งทุกข์ เราจะดับทุกข์ได้อย่างไร ใช่หรือไม่ (ใช่)  ต้นเหตุแห่งทุกข์มาจากหนึ่งไม่ยอมรับความเปลี่ยนแปลง สองยึดมั่นถือมั่นอย่างตายตัว ขนาดมีผม ทุกข์ไหม (ทุกข์)  ไม่มีผม ทุกข์ไหม (ทุกข์) 
ตัวคนเดียวทุกข์ไหม (ทุกข์) แล้วยังหามาอีกคนจะทุกข์ไหม (ทุกข์) แล้วยังหาอีกไหม (หาอีก)  (สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ยืมกระเป๋านักเรียนในชั้นเรียน) หากระเป๋ามาแบกหนักไหม (หนัก) แล้วทุกข์ไหม (ทุกข์) แล้วยังแบกไหม (แบก) ฉะนั้นมนุษย์ขยันนะ ขยันทุกข์ ทุกอย่างเลย ทั้งที่จริงๆ แล้วไม่จำเป็นต้องทุกข์เลย ฉะนั้นมีหนึ่งสิ่งก็ทุกข์หนึ่งสิ่ง มีสิบสิ่งก็ทุกข์สิบสิ่ง แล้วพวกเรามีกี่สิ่ง (หลายสิ่ง) แล้วเราทุกข์กี่สิ่ง(หลายสิ่ง) เพราะอะไร เพราะมีแล้วยึด ใช่หรือไม่ (ใช่) ยึดแล้วรับไม่ได้ที่มันต้องเปลี่ยนแปลง กระเป๋าใบนี้เมื่อได้มาใหม่ๆ ดีใจหรือไม่(ดีใจ) พอคนมาทำให้เลอะโกรธไหม (โกรธ) แล้วด่าไหม (ด่า) ด่าแล้วยอมไหม (ไม่ยอม) เพราะกระเป๋าใบเดียวทำให้มีเวรแล้ว ใช่หรือไม่ (ใช่) 
เวลาเราแก่ เรายอมไหม (ไม่ยอม) พอโดนคนด่าไอ้แก่ เรายอมไหม (ไม่ยอม) นั้นคือการผูกเวรแล้ว เห็นไหมว่าทุกข์มาจากอะไร ถ้าหากเรายอมรับว่าเราแก่เราก็จะไม่ทุกข์ มนุษย์ทุกข์กับคำพูดไหม (ทุกข์) สวยชอบไหม ไม่สวยรับได้ไหม (ไม่ได้) หล่อชอบไหม ไม่หล่อรับได้ไหม (ไม่ได้) ก็ต้องรับให้ได้ ใช่หรือไม่ (ใช่)
ฉะนั้นอย่าหลงความสุขในโลก อยากสุขแท้จริงต้องทำอย่างไร ง่ายๆ เลย ตัดขาดจากความยึดมั่นถือมั่นที่ไม่เที่ยงในโลกใบนี้ ตัดให้ขาดอะไรที่ไม่เที่ยงอย่าไปยึดมั่นถือมั่น เพราะยึดมั่นถือมั่นเมื่อไร เราก็ต้องหนีไม่พ้นทุกข์ แล้วอะไรในโลกนี้ที่ไม่เปลี่ยนแปลง ลองบอกเราหน่อยสิ ถ้าอะไรที่ไม่เปลี่ยนแปลงยึดไปเลย แต่ถ้าเมื่อไรอะไรที่ยังต้องเปลี่ยนแปลงอย่ายึด ไม่อย่างนั้นจะทุกข์ไม่รู้ตัว
ตอบว่า (ธรรมะไม่เปลี่ยนแปลง, ความดีไม่มีวันเปลี่ยนแปลง, เวรกรรม, กฎแห่งกรรม)  กฎแห่งกรรม ใครทำสิ่งใดย่อมได้รับสิ่งนั้น ตอบได้ดี  ธรรมะมีวันเปลี่ยนแปลงไหม ธรรมะในความเปลี่ยนมีความไม่เปลี่ยน  ในความแน่นอนมีไม่ความแน่นอน ใช่หรือไม่ (ใช่)  ความดีจริงๆ แล้วไม่มีวันเปลี่ยนแปลงได้ ถ้าจิตใจมั่นคง แต่มนุษย์มักจะไม่มั่นคง  เพราะเป็นคนทำดีหวังผล  แต่พุทธะจะสอนให้มนุษย์ทำดีไม่หวังผล ประเสริฐยิ่งกว่า ใช่หรือไม่ (ใช่)  เพราะถ้าเราทำดีหวังผล เราก็ต้องกลับมารับการเวียนว่ายวน ใช่หรือไม่ (ใช่)  แต่ถ้าเราทำดีแล้วไม่หวังผล เราก็ไม่ต้องมาเวียนว่ายวนอีกต่อไป จริงหรือเปล่า (จริง)  อยากได้รางวัลจากเราบ้างไหม (อยากได้)  ขอแอบเปิ้ลหน่อยนะ  มนุษย์ใจร้อน ใช่หรือไม่ (ใช่)  ฉะนั้นวันนี้อยู่กับเราช้าๆ หน่อยได้ไหม (ได้)  เพราะเราเป็นคนที่เดินช้านะ 
ไม่เป็นไรเราเดินไปหาก็ได้เราแข็งแรง ไม่ต้องพิธีเยอะ  ขอบคุณที่อุตส่าห์พบกันครึ่งทางนะ   มีใครอยากตอบอีกไหม  คำถามยากไหม  มนุษย์เรายึดทุกอย่างเลย ใช่หรือไม่ (ใช่)  ยึดทั้งเงิน ยึดทั้งตัว ยึดทั้งคนในบ้าน เสื้อผ้าทำให้เราทุกข์ไหม  ของกินทำให้เราทุกข์ไหม (ทุกข์)  ฉะนั้นถ้าอยากจะเป็นสุข จะต้องยอมรับกับความเปลี่ยนแปลง และตัดวางจากความยึดมั่นถือมั่นที่ไม่เที่ยงในโลกนี้ เพราะเมื่อไหร่ที่เราคิดว่าจะยึดมั่น ตัวเราทุกข์ไหม (ทุกข์)  ใช่หรือไม่ (ใช่)  ยึดอะไรก็ทุกข์  ฉะนั้นไม่ยึดอะไรสักสิ่งก็ไม่ต้องทุกข์ ได้หรือเปล่า (ได้)  อย่าหลอกตัวเอง เพราะถ้าท่านไม่หลอกตัวเองเราจะพูดต่อได้ แต่ถ้าท่านยังหลอกตัวเองอยู่เราจะไม่พูดต่อ เรายังยึดไหม (ยึด)  ลองง่ายๆ ท่านเดินลงไป เขาด่าท่านว่าโง่จริงๆ ท่านโกรธไหม (โกรธ)  ไหนบอกว่าไม่ยึดไง ใช่หรือเปล่า (ใช่)  ต้นยางปลูกอยู่ดีๆ ต้นยางหายไปโกรธไหม (โกรธ)  นกเขาเลี้ยงอยู่ดีๆ แขวนไว้หายไปโกรธไหม (โกรธ)  ด่าแช่งชักหักกระดูกเลยใช่ไหม (ใช่)  บางคนรักนกยิ่งกว่ารักคนอีก ใช่หรือเปล่า (ใช่)  อย่าทำให้นกมันเป็นสะพานทำให้เราต้องมีเวรมีกรรมเลยนะ ถูกไหม  ถ้าจะเป็นของเราก็ยังเป็นของเรา แต่ถ้าไม่ใช่ของเราแม้จะรักษาอย่างไรมันก็ยังต้องหนีไปสักวันหนึ่ง ใช่หรือไม่ (ใช่)  เหมือนถ้าเรารักเขา แต่เขาไม่รักเรา เราก็ต้องรู้จักทำใจ ใช่หรือไม่ (ใช่) 
ฉะนั้นถ้าอยากมีความสุขในโลกนี้  จำไว้นะ ใดๆ ในโลกอย่าได้ยึดมั่นถือมั่น เพราะโลกนี้หนีไม่พ้นความไม่เที่ยงแท้  เมื่อไหร่ที่ยึดมั่นตัวเอง ก็ต้องทุกข์กับตัวเอง  เมื่อไหร่ที่ยึดมั่นกับเงินทองก็ต้องทุกข์กับเงินทอง ใช่หรือไม่ (ใช่)  จริงๆ แล้วสิ่งที่เรายึดมั่น แท้จริงใช่ของของเราไหม จริงหรือ (จริง)  ทำไมวันนี้ต้องไปจดนี่ชื่อฉัน นี่ของฉัน  ทำไมอยู่กับเราตอบได้เป็นฉากๆ แต่เวลาทุกข์มาถึงกับตัวตอบไม่ได้เลย ใช่ไหม (ใช่)  เรายกตัวอย่างง่ายๆ มนุษย์เราบอกว่าเราเสียเงิน เราเสียใจ เราเสียทรัพย์ เราเสียต้นยาง เราเสียลูก เราเสียบุตร  เราถามท่านจริงๆ นะ แต่เดิมเราเคยมีทรัพย์ เรามีบุตร เรามีลูกไหม (ไม่มี)  ถึงเวลาเขาจะมาก็ไม่ได้เรียก  ถึงเวลาลูกจะไปเราก็ไม่ได้ขับไล่ให้ไป แต่มันดันไป ใช่หรือไม่ (ใช่)  ฉะนั้นต้นเดิมของเราคืออะไร  แต่เดิมเรามีกายนี้ไหม  แล้วเราคืออะไร  มนุษย์บอกว่าฉันเสียใจ ฉันเสียเงิน ฉันเสียทรัพย์ ฉันเสียลูก ฉันเสียสามี ฉันเสียภรรยา แต่จริงๆ แต่ก่อนเรามีภรรยาไหม (ไม่มี)  แล้วแต่ก่อนเราเงินเยอะขนาดนี้ไหม (ไม่มี)  แล้วแต่ก่อนเรามีต้นยางไหม (ไม่มี)  ตอนนี้เรากำลังกลับไปสู่สิ่งที่เดิมมีมา เราเคยเสียไหม ไม่ได้เสีย แต่เรากำลังกลับไปสู่ภาวะเดิม 
ขนาดชีวิตก็สอนให้เรารู้ว่าเรากำลังเดินกลับไปสู่ที่ๆเราเคยมา คือความว่างเปล่า ใช่ไหม (ใช่)  มีใครไหมยิ่งแก่แล้วยิ่งรวย ใช่อาจจะมียิ่งแก่แล้วยิ่งรวย แต่ดูหูซิ แต่ก่อนฟังชัด แต่เดี๋ยวนี้ฟังไม่ชัด ตาเมื่อก่อนมองเห็นชัด แต่เดี๋ยวนี้ทำไมมองไม่ชัด แต่ก่อนมีแรงทำอะไรได้ตั้งเยอะ แต่เดี๋ยวนี้ทำไม่ไหว ฉะนั้นความเป็นจริงแห่งชีวิตสอนให้มนุษย์รู้ว่าแม้มนุษย์จะไปถึงที่สุด แต่ถึงเวลาที่สุดที่แท้จริงก็คือความไม่มีอะไรเลย ใช่หรือไม่ (ใช่)  แล้วถ้าวันหนึ่งเราไม่รู้จักทำใจให้ได้ ความเป็นจริงแห่งชีวิตสอนให้เรารู้ว่าเราต้องยอมรับให้ได้
เบื่อเราพูดหรือยัง (ยัง)  เมื่อยไหม (ไม่เมื่อย)  วันนี้อย่างน้อยท่านก็เก่งนะ อดทนได้ตั้งหนึ่งวัน อดทนฟังคนอื่นพูด โดยที่ตัวเองไม่พูด เก่งจริงๆ ใช่หรือไม่ (ใช่)  ฝึกไว้บ้างก็ดีนะ สักวันหนึ่งเราอาจจะหูตึง ใครพูดอะไรไม่ได้ยินก็ได้ เราจะได้ยิ้มอย่างมีความสุข อ๋อมันเป็นอย่างนี้เอง อยากจะฟังไปทุกเรื่องแต่จริงๆ แล้วถึงที่สุดชีวิตก็สอนให้เรารู้ว่า บางเรื่องไม่ต้องฟังเลย ดีที่สุด ใช่หรือไม่ (ใช่)  ความสุขของเราเข้าถึงยากไหม เราบอกไปแค่ข้อเดียวเองนะ จำได้ไหม (ไม่ได้)  น่าเสียดายจริงๆ เราบอกว่าอยากมีความสุข  ความสุขของเราก็คือตัดความยึดมั่นถือมั่นใดๆ ในโลกที่หาความเที่ยงแท้แน่นอนไม่ได้  เพราะสิ่งที่ท่านพยายามจะยึดมั่นถือมั่น หนีไม่พ้นความไม่เที่ยง ใช่หรือไม่ (ใช่)  เมื่อไม่เที่ยง มีเปลี่ยนแปลง มีสุข มีทุกข์ เราก็ต้องยอมรับให้ได้ ถ้ายังยอมรับไม่ได้ก็อย่าไปยึดมั่นมันเลยดีไหม (ดี)  แล้วเราทำได้ไหม ฉะนั้นเราจะข้ามต่อไปยังความสุขข้อที่สอง คืออยากมีความสุขจงเรียนรู้ที่จะอยู่กับความตาย ได้ยินชัดไหม (ชัด)  อยากมีความสุขจงเรียนรู้ที่จะอยู่กับความตายให้ได้นะ เพราะความตาย ทำให้เรามีคุณค่า เวลามีคุณค่าชีวิตมีความหมาย ใช่หรือไม่ (ใช่)  และการเรียนรู้จากความตายให้เป็นจะทำให้เราเป็นคนที่ตายก่อนตายเป็นอมตะ แม้เจอภาวะใดกระทบ เราก็ไม่หวั่นไหว เราจะสามารถควบคุมหัวใจเราได้ ฟังเรื่องเดียวแต่ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้วใช่ไหม พอเราพูดเรื่องที่สอง เริ่มไม่รู้เรื่องเลย ใช่หรือเปล่า ถ้าอย่างนั้นเราพูดเรื่องเดียววันนี้จบแล้วเรากลับได้ไหม ไม่ได้หรือ นั่งตัวตรงๆ ถ้าหากตบสองข้างแล้วยังไม่ตื่น ตบหัวหน่อย ตื่น ตื่น ตื่น  เผื่อจะช่วยปลุกให้ตื่น ตื่นได้แล้ว ชีวิต นี้ของมนุษย์ประเสริฐสุดตรงที่ได้ดำเนินตนอย่างคนที่มีครรลองครองธรรม แต่ชีวิตของมนุษย์จะทุกข์ที่สุดถ้าไม่รู้จักนำพาชีวิตตน ปล่อยตนไปตามกิเลสอารมณ์ วันนี้ท่านมาฟังธรรมเพื่อเบากิเลส เบาการตามใจตัวเอง ตามใจตัวเองมากี่ครั้งแล้ว ตามใจตัวเองแล้วเป็นอย่างไร สุขๆ ดิบๆ เหลือเกิน
ฉะนั้น วันนี้พุทธะมาถึงที่นี่แล้วอยากให้ท่านได้เรียนรู้ชีวิต และสิ่ง ที่ท่านได้เรียนรู้จนกลายเป็นพุทธะก็คือตอนที่ท่านยังมีชีวิตและเป็นคน จึงทำให้ท่านได้เป็นพุทธะ แล้วเป็นคนอย่างไร คือคนที่รู้จักนำพาตัวเอง เพราะถ้าหากนำพาตัวเองได้ดีเราก็หลุดพ้น เราก็พ้นทุกข์หรือหากไม่พ้นทุกข์อย่างน้อยไปสวรรค์ก็ยังดี ใช่หรือไม่ (ใช่)  แต่จริงๆ แล้วสิ่ง ที่ประเสริฐยิ่งกว่าสวรรค์ก็คือ พ้นการเวียนว่ายตายเกิด เพราะทำบุญขึ้นสวรรค์พอหมดบุญจากสวรรค์ก็ต้องกลับมาเกิดเป็นคนใหม่ การบำเพ็ญธรรมไม่ใช่แค่ทำบุญ แต่บำเพ็ญธรรมคือสอนให้เราขัดเกลาจิตใจและรู้จักนำพาฉุดช่วยผู้อื่น อย่างที่เราบอกตั้งแต่ต้น ผู้ใดทำความยากให้กับผู้อื่น ผู้นั้นคือผู้ทำร้ายชีวิต แต่ผู้ใดที่รู้จักช่วยผู้อื่น คนนั้นคือคนที่รู้จักช่วยชีวิตตน ใช่หรือไม่ (ใช่) เราจะพูดเรื่องที่สองได้หรือยัง พร้อมหรือยัง
อยากมีความสุขจงกล้าที่จะอยู่กับความตาย กลัวไหม กลัวตายไหม (ไม่กลัว)  เรามาทั้งวัน เราพูดประโยคนี้หลายครั้งแล้ว เพราะท่านพูดอะไรให้เราเชื่อไม่ได้สักอย่างเลย ไม่อยากให้เราหลอกท่าน ตัวท่านอย่าหลอกตัวเอง ใช่หรือไม่ (ใช่) ฉะนั้นกลัวตายไหม (กลัว)  ก็ยอมรับมาก็จบแล้ว ไม่ยอมรับแล้วชอบทำตัวกล้าบ้าบิ่น พอตายจริงๆ ขอก่อนอย่าเพิ่งตาย ใช่หรือไม่ (ใช่)  แล้วตอนนั้นทันไหม (ไม่ทัน)  ฉะนั้น ถ้าอยากมีสุขที่แท้จริง จงเรียนรู้กับความตายและเรียนรู้ว่าอะไรในชีวิตที่หนีไม่พ้นความตาย ถ้าเราเรียนรู้และเข้าใจ เราก็จะไม่ทุกข์กับมันเพราะถึงเวลาเราก็ต้องตาย ใช่หรือไม่ (ใช่)  แล้วอะไรในโลกที่เกิดมาแล้วไม่ตาย มีหรือไม่ (ไม่มี) 
ฉะนั้นถ้าเราเข้าใจชีวิต เราจะรู้ว่าความตายได้ให้พร 3 ประการ
ประการแรกคือ ความตายพาเราออกจากที่หนึ่งไปสู่อีกที่หนึ่ง ความตายไม่ใช่เรื่องเศร้าแต่ความ ตายทำให้เรารู้ว่า เราเปลี่ยนจากคนคนหนึ่งไปเป็นอีกสิ่งหนึ่ง ตามแต่จิตสั่งสมหรือตามแต่บุญกรรมที่ตัวเองสร้างมาเมื่อมีชีวิต แต่ถ้าคนสามารถเรียนรู้ความตายได้ เขาจะตายก่อนตาย เพราะเขาจะสามารถแจ้งรหัสในการมีชีวิต นี่คือพร 3 ประการ แต่มนุษย์เอาแต่กลัวตายจนไม่ยอมเข้าใจชีวิต ใช่หรือไม่ (ใช่)  ฉะนั้นเราถามท่าน พูดจนจบแล้วพร 3 ประการจำได้หรือไม่
พรประการแรกคือทำให้เรารู้ว่า การตายคือการทำให้เราออกจากที่หนึ่งไปยังสู่อีกที่หนึ่ง แม้ร่างกายจะแตกสลายแต่จิตญาณไม่มีวันสูญสลาย พรประการที่สองทำให้เรารู้ว่าใครทำกรรมอะไรไว้ก็ต้องกลับไปรับผลกรรมนั้น แม้เราจะหยุดแล้ว แต่กรรมนั้นก็ยังคงสถิตอยู่กับหัวใจและจิตใจของเราที่เก็บสั่งสม เหมือนเราจำความโกรธใคร เราก็ต้องอาจจะกลับไปพบเจอกับเขา อยากเก็บไหม เก็บไปเลย จะได้กลับไปพบเจอกับเขาอีก แต่ถ้าบุญน้อยกว่า ท่านจะเกิดเป็นอะไร สุนัขมากัดเขา ถ้าบุญมากกว่าก็ได้เป็นเจ้านาย ชี้ด่าเขา ใช่หรือเปล่า ถ้าบุญเท่าๆ กันก็ได้เป็นคู่เวรคู่กรรมกัน ใช่หรือไม่ ฉะนั้นอย่ากลัวความตาย เพราะความตายทำให้เราเข้าใจพรแห่งชีวิตสามประการ  ประการที่หนึ่งคือ การตายคือการทำให้เราออกจากที่หนึ่งไปยังสู่อีกที่หนึ่ง ประการที่สองคือใครทำสิ่งใดได้สิ่งนั้น  และประการที่สามคือ ความตายทำให้เราแจ้งรหัสในแห่งการมีชีวิตที่แท้จริง ข้อที่สามเข้าใจยากใช่หรือไม่ (ใช่)  แต่ถ้าเข้าใจให้ดีก็จะไม่ยาก อยากรู้ไหมคืออะไร (อยากรู้)
ตอนนี้ก็เข้มแข็งดีนะ ทำไมจึงอ่อนแอกันเหลือเกิน  อย่าอ่อนแอเลย  บางครั้งความเป็นจริงแห่งชีวิตกลับทำให้เราเข้าใจหัวใจเรายิ่งขึ้น  ความเป็นจริงแห่งชีวิตทำให้เราเห็นตัวเราเองชัดเจนขึ้น  ตอนนี้ยังไม่มีอะไร  เราก็ยังว่าเราเข้มแข็ง เราก็ว่าเราไหว  แต่พอเรื่องจริงๆ เจอขึ้นกับตัว  เราจึงรู้ว่าจริงๆ เราไม่ได้เข้มแข็งเลย  แต่ลึกๆ แล้วเราเปราะบางเสียนี้กระไร  โดนนิดโดนหน่อยเราก็พร้อมพังทลายและแตกเป็นชิ้นดี ใช่หรือไม่ (ใช่)  จำไว้นะ ธรรมะมีไว้เพื่อให้เราเข้มแข็งรับกับความจริงในโลกนี้ให้ได้ แม้ว่าโลกใบนี้จะเลวร้ายอย่างไรก็ตาม เพราะยิ่งเลวร้ายก็ยิ่งทำให้เราปลดปลง  เพราะมนุษย์นี้พยายามยึดมั่นถือมั่น แต่ยิ่งยึด ยิ่งเกาะกุมยิ่งมีแต่ทุกข์ แต่บำเพ็ญเพื่อปลดปลงปล่อยวาง  เพราะยิ่งถ้าเราปล่อยวางมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้เราเข้าใจสัจภาวะแห่งธรรมมากเท่านั้น  และสัจภาวะแห่งธรรมนั้นไม่ได้อยู่ที่ข้างนอก แต่อยู่ที่ขณะนี้ เดี๋ยวนี้ที่เราต้องเจอ เกิดแล้วต้องตาย เกิดแล้วต้องเจ็บ เกิดแล้วต้องพลัดพราก รับได้นั่นคือความจริง  นั่นคือสัจภาวะ  นั่นคือธรรมที่ทำให้เราเป็นธรรม  เราจะทำให้ใครไม่ตายได้ไหม  ฉะนั้นจงยอมรับ  เราจะทำให้ใครทุกคนรักเราได้ไหม (ไม่ได้)  มีรักก็ต้องมีเกลียด  มีสุขก็ต้องมีทุกข์ ใช่หรือไม่ (ใช่)  ฉะนั้นนี่แหละคือความจริง  แต่มนุษย์ไม่สามารถเข้าใจถึงความจริง เพราะมนุษย์ชอบยึดติดกับสิ่งที่ตัวเองชอบ ใช่หรือไม่ (ใช่)  ทั้งที่ความจริงแล้วสิ่งที่ชอบนั้นทำให้มนุษย์ต้องทุกข์และเวียนว่ายไม่จบสิ้น  แต่ความจริงนั้น  คือสิ่งที่ทำให้มนุษย์พ้นทุกข์ แต่มนุษย์กลับไม่อยากลืม ไม่อยากยอมรับ ใช่หรือไม่ (ใช่)  เมื่อไหร่ที่สัจภาวะคือชีวิต ชีวิตคืออมตะ และอมตะนั่นคือนิพพาน
แต่มนุษย์กลับยอมรับให้ชีวิตคือ สิ่งที่ตัวเองชอบ สิ่งที่ตัวเองรัก  สิ่งที่ตัวเองรักตัวเองชอบและยึดมั่นถือมั่นนั้นก็คือความทุกข์ ใช่หรือไม่ (ใช่)  แต่ถ้าเมื่อไหร่เรามองว่าอันนี้ก็ยึดไม่ได้ ใจนี้ก็พึ่งไม่ได้เพราะใจนี้เดี๋ยวก็ดี เดี๋ยวก็ร้าย เดี๋ยววันนี้ชอบ อีกสองสามวันเบื่อ พอชอบบ่อยๆ ก็เบื่อ เบื่อบ่อยๆ ก็รำคาญ พอรำคาญบ่อยๆ ชักเกลียดแล้ว ใช่หรือไม่ (ใช่)  ฉะนั้นถ้าใจนี้เดินไปสู่สัจภาวะที่เรียกว่าความจริง ไม่มีสิ่งใดที่รัก ไม่มีสิ่งใดที่เกลียด ก็คือคุณธรรมที่สามารถรักษาความเป็นกลางได้ แต่ถ้าเมื่อใดนี่คือสิ่งที่รัก ก็ต้องมีสิ่งที่เกลียด เมื่อมีสิ่งรักมีสิ่งเกลียดเราย่อมไม่ยุติธรรม เราคือคนอยุติธรรม ใช่หรือไม่ (ใช่)
ฉะนั้นอยากเข้าถึงแห่งในสัจภาวะที่แท้จริงต้องเรียนรู้ความตาย ใจตัวนี้ก็ตายได้ กายตัวนี้ก็ตายได้ ความคิดตัวนี้ก็ตายได้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ไม่ตายคือความจริง และความจริงนั่นคือความว่างเปล่า ฉะนั้นใช้ชีวิตให้คุ้มค่าที่สุด ถึงเวลาก็ต้องปล่อยวาง เอาอะไรไปไม่ได้เลย สิ่งที่เอาไปได้คือ สิ่งที่จิตสั่งสมคุณงามความดีคุณธรรม แต่ถ้าสั่งสม โลภ โกรธ หลง ก็คือหนีไม่พ้นอบายภูมิและนรกภูมิ
ฟังไปก็มากแล้ว แต่ถ้าถึงเวลาชีวิตเจอจริงๆ รับให้ได้ เอาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ วันนี้เหมือนคนเข้าถ้ำเสือ เอาลูกเสือไป แต่เสือตัวนี้ขอให้หักเขี้ยวหักเล็บหน่อยนะ ไม่ใช่ไปฟังธรรมะมาแล้ว ฉันฟังมาดีๆ หากใครมาว่าไม่เห็นดีเลย โกรธทันที แบบนี้ไม่ได้ผลนะ ฉะนั้นแม้แต่ความดีก็ยึดมั่นถือมั่นไม่ได้ เพราะถ้ายึดมั่นถือมั่นเราก็ทุกข์ ใช่หรือไม่ (ใช่) 
ชีวิตมีคุณค่าเพราะได้ทำสิ่งที่ประเสริฐยิ่งกว่า โลภ โกรธ หลง นั้นคือการมีคุณธรรมและรู้จักปล่อยวาง จงรู้จักสร้างชีวิตตัวเองเพื่อผู้อื่นบ้าง อย่ามีชีวิตแบบเห็นแก่ตัว เพราะความเห็นแก่ตัวล้วนนำพาให้ชีวิตมนุษย์ทุกข์ไม่จบสิ้น แต่การรู้จักช่วยเหลือผู้อื่นทำให้เราพ้นทุกข์ได้อย่างแท้จริง ยอมได้ก็ยอม อภัยได้ก็อภัย แม้เขาจะเอาสิ่งที่รัก สิ่งที่หวงไปก็ตาม ใช่หรือไม่ (ใช่)  แม้เขาจะทำสิ่งที่รักหวงนี้ให้เจ็บก็ตาม จงดีใจสิว่าดี เขาทำเราเจ็บ เราจะได้ปลงๆ ใช่หรือไม่ (ใช่)
เราไปแล้วนะ เข้มแข็งอดทนรับกับความเป็นจริงในโลกนี้ให้ได้ ดูเราสิ เรายังรับได้เลย ไม่มีกายต้องไปอยู่กับกายคนอื่น เคยเข้มแข็ง เคยขาเดินได้ยังต้องกลายเป็นคนขาเดินไม่ได้ การเข้าใจชีวิตนี้ ทำให้เราที่จากมนุษย์ธรรมดากลายเป็นพุทธะให้คนกราบไหว้ ท่านก็ทำได้ ขอเพียงแค่ทำให้ถึงที่เราบอกเพียงสองอย่างเท่านี้เอง  





วันอาทิตย์ที่ ๑๙ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๕๔ สถานธรรมเต๋อฮว่า จ.สงขลา
พระโอวาทพระอาจารย์จี้กง
ถึงภัยใต้พันพัว ตัวเราไม่ต่อตี  งานธรรมหน่อยหนึ่งที่มี คุณภาพเกินใคร  ถึงเราจะตัวเล็ก ไม่เคยว่าอ่อนหัดไป  งานเสร็จไปกับมือ ไม่เคยอู้..แรง ขวานคนใต้มีแต่..ชนะ   ร้อยแปดสู้สิบทิศ ไม่ใช่เรื่องแตกต่าง แพ้ชนะ มาเก็บซ่อนซ่อนไว้ คนต้องต่างพากเพียร และบำเพ็ญแพร่ขยาย
ชื่อเพลง : ขวานใต้ตัดกิเลสสิบทิศ
ทำนองเพลง : ราชสีห์กับหนู
เราคือ
จี้กงสงฆ์วิปลาส รับบัญชาจาก
พระอนุตตรธรรมมารดา ผู้เมตตา ลงสู่พุทธสถานเต๋อฮว่า  แฝงกายกราบ
องค์มารดา แล้ว  ถามศิษย์รักทุกคนง่วงนอนหรือเปล่า

ถึงทำดีแต่ไม่ตัดโลภโกรธหลง ความทุกข์คงไม่มีวันหมดสิ้นได้
เหตุแห่งภัยล้วนมาจากกิเลสอารมณ์ใช้ ฝึกหัวใจคุมให้ได้ละให้ทัน
แม้สายธารไหลไปไม่อาจเรียกกลับได้ คนใจร้อนวู่วามไปทุกข์ทั้งนั้น
ใจเย็นนิดพูดน้อยหน่อยดีต่อกัน      โลกสีสันน้อยคนนักรู้จักตัว
ในท่ามกลางหมู่ภัยมีโอกาสหลากหลาย กุศลมีมากมายรอคนเก็บไปทั่ว
อยู่ตรงหน้ามีความกล้ามีความกลัว เรื่องพันพัวมีความจริงสอนข้างใน
ฮา  ฮา  หยุด
พระโอวาทพระอาจารย์จี้กง
อยู่บนโลกไม่มีใครได้ทั้งสองอย่าง ต้องได้อย่างเสียอย่าง อยากได้อะไร (อยากฟังพระอาจารย์) ฟังเขาดีกว่าไหม ฟังอะไรต้องฟังให้จบ อย่าฟังให้ครึ่งๆ กลางๆ อยู่ในโลกนี้ต้องได้อย่างเสียอย่างใช่หรือไม่ แล้วมีโอกาสที่ โชคหล่นลงมาสองชั้นเป็นไปได้ไหม ได้ แต่มันน้อยนะศิษย์ แต่โชคไม่ดีซ้ำแล้วซ้ำเล่าเป็นไปได้ง่ายกว่าใช่หรือไม่ (ใช่)  ถามว่าบุญเคยหล่นมาสองชั้นมีไหม (ไม่มี)  มี แต่มันน้อย แต่ซวยซ้ำแล้วซ้ำอีกมีไหม (มี)  ศิษย์เอ๋ยจำไว้นะ ชะตาชีวิตไม่ใช่ฟ้ากำหนด แต่ตัวเราสามารถกำหนดและลิขิตชะตาชีวิตตัวเองได้  คนบางคนแม้จะโชคร้ายแต่ก็แปรเปลี่ยนเป็นโชคดีได้ อยู่ที่ว่าเราตั้งจิตเราไปทางไหน ตั้งที่สูงคิดสูงก็นำพาไปสู่สิ่งที่ดี ตั้งไว้ในที่ต่ำคิดต่ำก็นำพาไปสู่สิ่งที่ไม่ดี
ฉะนั้นสิ่งที่เรียกว่าชีวิต สิ่งสำคัญที่จะนำพาชีวิตได้ก็คือจิตใจของตัวเราเอง ถ้ารู้จักวางใจวางตัวเองวางชีวิตได้ถูกต้องก็นำพาชีวิตได้ดี แต่ถ้าวางใจวางชีวิตตนเองไม่ถูกต้อง เรานั้นเหละที่เป็นคนที่หาทุกข์ใส่ตัว หาเหาใส่หัว ใช่หรือไม่ (ใช่)  เหมือนที่มนุษย์ชอบพูดว่า คิดดีก็ขึ้นสวรรค์คิดชั่วก็ลงนรก และถ้าเกิดว่าคิดอย่างกลางๆ ไม่ชั่วไม่ดี บริสุทธิ์ และเป็นจิตที่สะอาด สงบ แล้วจิตไปไหน เรารู้เพียงว่าคิดดีขึ้นสวรรค์ คิดชั่วตกนรก แต่ถ้าไม่มีดีไม่มีชั่ว มีความสงบเป็นกลางและบริสุทธิ์ ไปไหนล่ะ (นิพพาน)  ใช่ ไปนิพพาน นิพพานคือที่ๆ สงบเย็น ใช่หรือเปล่า  นำพาจิตสู่ความบริสุทธิ์ แล้วเราไปถึงได้ไหม (ได้)  แค่ช่วงขณะจิตที่ศิษย์นั่งตรงนี้  ไม่คิดร้าย ไม่คิดดี วางจิตให้สงบ พอแล้วกับสิ่งที่วุ่นวายในโลก สุขแล้วกับสิ่งที่เคยได้เคยมี แค่นี้ก็สามารถเข้าได้ถึงความสงบเย็นและนิพพานได้ชั่วขณะหนึ่ง จริงหรือไม่ (จริง)  แต่ถ้าเป็นแบบ เบื่อ เซ็ง เมื่อไหร่จะจบ ชั่วขณะหนึ่งศิษย์ก็ตกนรกทันที แล้วพอบอก เบื่อ เหนื่อย เซ็ง ร้อน หงุดหงิด รำคาญ เหมือนจุดไฟนรกเผาตัวเองใช่หรือไม่ (ใช่)  ฉะนั้น ชีวิตจะไปทางใดอย่าบอกว่าฟ้าลิขิต ไม่ใช่หมอดูทำนาย แต่มันอยู่ที่ตัวเรา วางจิตวางใจไว้อย่างไร ใช่หรือไม่ (ใช่) 
ใจดีก็มีสุข วางใจแย่ก็ต้องทนทุกข์ ใช่หรือเปล่า (ใช่)  หรือที่เรียกว่า คิดอะไรขอให้คิดให้รอบคอบ  เมื่อจะแสดงออกขอให้แสดงออกอย่างรัดกุม เราจะได้ไม่เป็นคนที่มีชีวิตแล้วเป็นผู้ที่ชอบปล่อยมลภาวะเป็นพิษให้กับผู้อื่น หรือมีความคิดเป็นมิจฉา ใช่หรือไม่ (ใช่)  ศิษย์เคยเห็นไหม คนบางคนแม้จะอมลูกอมแม้จะหอมๆ แม้จะอร่อยๆ  แต่พูดออกมาทีเจ็บเหลือเกิน เคยไหม ปากเหม็นนะห้ามได้ แต่เวลาพูดแล้วมันไม่น่าฟังนี่ห้ามไม่ค่อยได้ ใช่หรือไม่ (ใช่)  ปากเหม็นแปรงฟันก็หาย อมลูกอมก็เบาบาง แต่ถ้าพูดแล้วเหม็นๆ ทำอย่างไรมันก็ไม่หาย ตัวเหม็นอาบน้ำก็ยังสะอาดได้ แต่ถ้าใจมันเหม็น แม้ตัวจะสาดน้ำหอมเป็นขวดๆ ไปอยู่ที่ใดมันก็เหม็น ใช่หรือไม่ (ใช่)  ฉะนั้นอยากทำอะไร อยากคิดอะไร ขอจงให้รอบคอบ แสดงออกขอให้รัดกุม  ไม่เช่นนั้นจะเป็นคนที่มีชีวิตอยู่ แต่พออ้าปากก็พ่นพิษ  มีชีวิตอยู่ทำอะไรก็แสดงออกแต่สิ่งที่ไม่ดี เป็นโทษแก่คนอื่น เช่นนี้ก็ไม่น่าดู ใช่หรือไม่ (ใช่) 
ศิษย์เคยได้ยินไหมว่า คนเรานั้นฆ่าพ่อฆ่าแม่ถือว่าเป็นบาปที่สุดในโลก ตกนรกขุมลึกที่สุด แต่คนที่ฆ่าพ่อฆ่าแม่ทำบาปที่แย่ที่สุดนั้น ถึงตกนรกก็ยังมีเวลาจำกัด แต่คนที่วางจิตวางใจผิด มีความคิดที่ผิดๆ อยู่ในชีวิต  ตกนรกลึกกว่าคนที่ฆ่าพ่อฆ่าแม่อีกนะ  นรกนั้นอยู่หลังจักรวาล  ถูกไฟแห่งจักรวาลเผาไหม้ เป็นตอของวัฏฏะ แม้พุทธะร้อยองค์พันองค์มาฉุดเขาก็ช่วยเขาไม่ได้ เขาจะถอนจากความผิดพลาดอันนี้ได้ก็ต่อเมื่อละความยึดมั่นถือมั่นที่ผิด ถึงจะพ้นจากอบายภูมิจากทุกขเวทนาได้  ฉะนั้นสำคัญมากๆ นะ เกิดเป็นคนถ้ามีความคิดที่ผิดๆ ตกนรกน่ากลัวยิ่งกว่าฆ่าพ่อฆ่าแม่อีกนะ  และนรกนั้นแม้จะมีพุทธะมายืนโปรดตรงหน้าก็ช่วยเขาไม่ได้นะ ถ้าเขายังมีความคิดผิดๆ เขาจะถอนจากนรกได้และพ้นจากอบายภูมิได้ ก็ต่อเมื่อเขาจะต้องละความคิดของตัวเองที่ผิดๆ ออกไปจากใจได้  และสิ่งที่มนุษย์ชอบคิดผิดๆ และมีอยู่ในชีวิตกันคืออะไรรู้ไหมศิษย์  ไม่กลัวเรื่องบาปบุญคุณโทษ คิดว่าทำดีไม่ได้ดีเลยไม่ทำ ใช่ไหม (ใช่)  โอ้เวรกรรมไม่มีจริงหรอก บาปบุญไม่มีจริงหรอก ถ้าตายแล้วจบกัน ใช่ไหม (ใช่)  เมื่อไหร่ที่ศิษย์มีความคิดอันนี้ฝังอยู่ในใจ ศิษย์จะตกนรกที่ลึกยิ่งกว่าคนที่ฆ่าพ่อฆ่าแม่อีกนะ  แม้พุทธะมาโปรดก็ช่วยอะไรไม่ได้ นอกจากคนๆ นั้นจะถอนจากความคิดผิด ถึงจะพ้นจากนรกได้ เรามีความคิดนี้ไหม (ไม่มี)  จริงหรือ
อาจารย์เชื่อว่ามนุษย์โดยส่วนใหญ่ไม่เชื่อเรื่องบาปบุญคุณโทษ จะเชื่อก็เชื่อไม่หมดใจ ใช่หรือไม่ (ใช่)  แล้วก็คิดว่าทำดีก็ไม่ค่อยจะได้ดีหรอก เลยทำบ้างไม่ทำบ้าง เห็นไหมว่าเพราะความคิดผิดแค่ครั้งเดียว มันก็ฝังอยู่ในใจ ทำให้ศิษย์ตกนรกยิ่งกว่านรกขุมไหนๆ แล้วก็ไม่มีใครช่วยเราได้ นอกจากตัวเราจะถอนจากความคิดผิดนั้นมาเป็นความคิดที่ถูกต้อง ใช่หรือไม่ (ใช่)  แม้พระพุทธะจะมาโปรดตรงหน้า เขาไม่เชื่อ ก็เปล่าประโยชน์ ใช่หรือเปล่า (ใช่)
กินอิ่มไหม (อิ่ม)  ใครไม่อิ่มอาจารย์ให้ลงไปกินต่อเอาไหม เดี๋ยวกลับบ้านไปไม่ได้กินเจแล้วนะ เพราะหลายคนอยากกินเนื้อสัตว์ ใช่หรือเปล่า
ฉะนั้นแปลว่าต่อไปนี้จะไม่กินเนื้อสัตว์ใช่ไหม   อย่าเพียงแค่ลิ้นสั้นๆ นิดหน่อยทำให้เราลืมความเมตตา ทำร้ายเบียดเบียนสัตว์ไม่จบไม่สิ้น มันก็น่าเสียดาย อย่าเพียงจมูกติดกลิ่น อย่าเพียงปากติดลิ้น เลยตัดใจจากเนื้อสัตว์ไม่ได้สักทีจริงไหม ถ้าอย่างนั้นต่อไปจะตัดให้เบาๆ ลงได้ใช่ไหม (ใช่)  อาจารย์ให้ศิษย์แค่เลิกกินสัตว์สามชนิดเอง เอาหรือไม่เอา (เอา)  ให้เลิกแค่สามอย่างเอง อาจารย์จะบอกทีละชนิด ใครเอายกมือขึ้น แน่ใจนะ สัตว์ที่อยู่บนฟ้าไม่กินได้ไหม อยู่บนบกไม่กิน ได้ไหม  ทำไมตอบเบาลงล่ะ และอีกชนิดหนึ่งคืออยู่ที่ไหน ในน้ำหรือในทะเลไม่กิน ทำไมยกมือต่างกันอย่างมากล่ะ ไม่แน่จริงนี่นา อาจารย์บอกแล้วนี่ว่า คิดอะไรก็ต้องคิดให้รอบคอบ จะทำอะไรก็ต้องทำให้รัดกุมจะได้ไม่โดนคนประนาม หยามเหยียดว่าเป็นคนพ่นมลภาวะเป็นพิษ คำพูดเชื่อถือไม่ได้ ไหนใครเมื่อสักครู่ยกมือ  อาจารย์ถามง่ายๆ นะ  อาจารย์ไปเกือบทุกๆ  ที่อาจารย์ก็อยากบอกศิษย์ทุกๆ ที่ อาจารย์ถามนะ เกิดเป็นคน การไม่มีโรค คือลาภอันประเสริฐ  แล้วศิษย์รู้ไหมว่า พระพุทธะ กล่าวไว้ว่า คนที่ไม่เบียดเบียนสัตว์ ไม่เบียดเบียนผู้อื่นด้วยความอยากคนนั้นจะมีอายุมั่นขวัญยืน สุขภาพแข็งแรง ถ้าศิษย์ของอาจารย์สามารถไม่กินสัตว์สามชนิดได้ อาจารย์รับรองได้ว่าแข็งแรง อายุยืน ถ้าเกิดมาไม่เคยเบียดเบียนทั้งคน ไม่เคยเบียดเบียนทั้งสัตว์ ไม่ปล่อยให้ความอยาก ทำร้ายตัวเองและทำร้ายผู้อื่น คนๆ นั้นมีหรือจะไม่มีคนอวยพรให้อายุมั่นขวัญยืน แต่ตอนนี้ศิษย์ของอาจารย์เป็นเหมือนกับสุสานเคลื่อนที่  เก็บไว้ด้วยซากศพ 
ฉะนั้นเกิดเป็นคนนะศิษย์ เรามาคุยกันแค่สองเรื่องง่ายๆ  คือเรื่องของความดีและความชั่ว อาจารย์พูดง่ายๆ
รู้สึกลังเล จริงไหม (จริง)  วันนี้เห็นคนน่าสงสารขอทาน ถ้าเราบอกน่าสงสารจัง ควักหยิบให้ทันที ไม่มีปัญหาจบ ใช่หรือไม่ (ใช่)  แต่ถ้าเราบอกสงสารจัง ให้ดีไหมหนอ  หรือไม่ให้ดี  หรือเอาไปทำอย่างอื่นหรือเปล่า  เชื่อหรือไม่ว่าพอลังเล  มันไม่ได้ดีเลย ใช่ไหม  เหมือนเพื่อนมายืมเงิน จะช่วยดีไหม ช่วยไปเลย  ถ้าช่วยทันทีเราก็ได้ดีจบ แต่บางคนช่วยทันที ได้ดีไหม ดีไม่สมบูรณ์  ไม่น่าให้ไปเลย  ฉะนั้นทำไมทำดีไม่ได้ดีก็นี่แหละ ทำเสร็จก็คิดไม่น่าให้เลย  ก่อนทำก็ยังคิด จะให้ดีไหมหนอ เดินเลยไปแล้ว ช่างมันเถอะ เลยแล้วเลยๆ ใช่หรือไม่ (ใช่)  เราไปไม่ถึงความดีเลย
ฉะนั้นศิษย์เอ๋ยบุญจะยิ่งใหญ่ได้ คือ ก่อนให้ก็บริสุทธิ์ ตอนให้ก็บริสุทธิ์ หลังให้ก็บริสุทธิ์  ไม่คิดแล้วไม่คิดอีก นั่นแหละบุญบริสุทธิ์ แล้วบุญบริสุทธิ์จะเป็นยอดของบุญก็คือ คนที่ให้สามารถกำลังอยู่ในช่วงตัดรัก โลภ โกรธ หลง หรือคนที่เรากำลังให้นั้น ไม่มีโลภ โกรธ หลง บุญทานนั้นจะยิ่งใหญ่ ใช่หรือไม่ (ใช่)  แต่เรามาบำเพ็ญธรรม ศึกษาธรรม ไม่ใช่แค่เรื่องบาปบุญแค่นั้น แต่ยังมีมากไปกว่านั้น  ที่เรียกว่า กุศลหรืออกุศล ศิษย์เคยได้ยินไหม 
(พระอาจารย์เมตตาให้นักเรียนในชั้นเรียนเล่นเกม "ลมเพลมพัด")
และให้เล่นเกม ลุกนั่ง โดยจะกล่าวให้ลุกหรือนั่งว่า “บอกถึงสิ่งใดถ้านักเรียนในชั้นมีให้ยืนขึ้น และถ้าสิ่งใดไม่มีก็ให้นั่งลง”
มีเงินไหม (มี) แต่หาเงินไหม (หา) เพราะอะไรถึงหา มีมันเหมือนไม่มีนะอาจารย์ว่า ฉะนั้นใครบอกมีเงิน ยกมือ ไม่มีเงิน ยกมือ  ศิษย์บอกแล้วนะมีเงิน มีใช่ไหม พอกลับไปบ้านไม่ต้องหาไม่ต้องลำบากใช่ไหม คนมีเงินบางครั้งก็เหมือนไม่มี เป็นเพราะสิ่งที่เรียกว่ามีบางครั้งก็เหมือนไม่มี แล้วบางทีมีแล้วมันดูค่าน้อย  แต่จริงๆ ศิษย์รู้ไหมว่าสิ่งที่มีค่าน้อยๆ ถ้ารู้จักใช้ก็เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่  แต่สิ่งที่มีค่าไม่รู้จักใหญ่ๆ มันก็ดูเล็กใช่หรือไม่  (ใช่)   วันนี้เราลืมตาได้สักวันเราก็หลับตา   ไม่ต้องสักวัน พอตกเย็นใครไม่หลับตาก็ต้องตายแน่ๆ ทรมาน ถูกหรือไม่ (พระอาจารย์เมตตาให้นักเรียนในชั้นเล่นเกมส่งของ) คิดหน่อยนะศิษย์จะได้เอาตัวรอดจะได้ไม่ต้องทุกข์นะศิษย์
อาจารย์บอกไปตอนต้นว่าสิ่งที่อาจารย์จะคุยกับศิษย์ในวันนี้คือความดีกับ ความชั่ว มนุษย์อยากไปถึงซึ่งความดี สำคัญอย่างแรกเมื่อตั้งใจจะทำอะไรจงอย่าลังเล แม้คนที่เรากระทำด้วยนั้นจะดีหรือไม่ดีก็ตาม แต่ถ้าชั่วขณะจิตบริสุทธิ์อยากช่วย ทำไปเถอะ เพราะบุญนั้นจะเป็นบุญที่บริสุทธิ์ แต่ถ้าเกิดคนเดิมมาอีกตอนนั้นจะต้องคิดให้ดีๆ  เพราะไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นตามใจจนเสียคน ถ้าคนที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนมาขอความช่วยเหลือเราช่วยได้ แต่มาแล้วมาอีก ศิษย์ก็ต้องคิดว่าอย่าช่วยบ่อยๆ  เพราะถ้าช่วยบ่อยๆ  ก็อาจจะกลายเป็นคนที่เคยตัว และเราจะกลายเป็นคนที่ให้เขายืม ให้ไม่จบสิ้น ฉะนั้นทำอะไรก็ตาม มีเมตตาก็ต้องใช้ปัญญาไปด้วย
คนเราจะทำดีได้ นั้น สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ ต้องรู้จักว่าอะไรคือรากฐานแห่งความดี และอะไรคือรากฐานแห่งความไม่ดี รากฐานแห่งความดีก็คือ ไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลง ใช่หรือไม่ (ใช่)  คนที่ไม่โลภก็คือคนที่รู้จักให้ คนที่ไม่โกรธก็คือคนที่มีเมตตาอยู่เป็นนิจ คนที่ไม่หลงก็คือคนที่มีปัญญารู้แจ้งเห็นจริง ฉะนั้นอยากถึงซึ่งความดีงามจงมีสามสิ่งนี้อยู่ในใจ รู้จักให้ มีเมตตาและใช้ปัญญาให้เป็น ยากไหม (ไม่ยาก)  ไม่ยากแต่ไม่ค่อยทำ ใช่หรือไม่ (ใช่)  ฉะนั้นอาจารย์ถามต่ออีก รากฐานแห่งความชั่วร้ายคืออะไร (ความโลภ, ความโกรธ, ความลังเล, ความหลง, ความเห็นแก่ตัว, ความตะหนี่ถี่เหนียว, ความอยากได้, ความอิจฉา, ชอบเบียดเบียนผู้อื่น, ความเกลียด, ความแค้น, ความไม่เข้าใจต่อกัน, ความคิดที่ไม่บริสุทธิ์, ความงมงาย, ตัณหาราคะ, ความโมโห, ความโลเล,        จิตใจที่คับแคบไม่เปิดกว้าง)  คิดได้แล้วปรบมือหน่อยนะ (ความมักมาก, ความยึดมั่นถือมั่นในสิ่งที่ผิด, ความเคียดแค้น, ไม่พอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่, ความทะเยอทะยาน, ความอยากได้, ความไม่รู้จักพอ, การโกหกพูดเท็จ) โดยเฉพาะกับพ่อแม่เรา บอกว่าไปเรียนแต่ที่ไหนได้ แอบไปเที่ยว (ไม่ซื่อสัตย์ต่อบุพการี, ความไม่รู้จักพอ, ความไม่มีเมตตา, กิเลสมันครอบงำ, ความเย่อหยิ่งจองหอง, ความโมโห, ชอบเข้าข้างตัวเองคิดว่าตัวเองดีถูกแล้ว, มีความเชื่อที่ผิด, ความอิจฉา, มิจฉาทิฐิ) ถ้าหัวหน้าตอบถูกทุกคนสามารถได้แอบเปิ้ลหมดเลย คิดให้ดีๆ  (ความไม่เกรงกลัวต่อบาป, ความอาฆาตแค้น, พูดสิ่งที่ไม่เป็นมงคล, ห่วงแต่ความสุขของตัวเอง, ความหลอกลวง, ความโลภ, ความไม่รักดี, ความเห็นแก่ตัว, ทะเยอทะยานความมักใหญ่ใฝ่สูง)  ทำตัวมักใหญ่ใฝ่สูงไม่น่าเคารพ สู้ยิ้มแย้มไม่ได้ แค่ยิ้ม ก็น่ารัก ยิ้มง่ายๆ ยิ้มบ่อยๆ  (ไม่รู้จักพอใจในสิ่งที่มี, ไม่เบียดเบียน, ความอยากได้, หลงตัวเอง, ไม่หวังดี, กิเลสตัณหา, ทิฐิ, ความกลัวอาจจะกลายเป็นความหวาดระแวง)  เกิดเป็นคนต้องกล้า อย่ากลัวเกินไป เอาชนะตนเองได้ ก็เอาชนะผู้อื่นได้ (การผิดลูกเมียผู้อื่น, ดื่มสุรา)
(ความประมาท ไม่คิดก่อนทำ, หน้าซื่อใจคด, ปากว่าตาขยิบ, ต้องมีศีลประจำใจ) ต้องมีศีลประจำใจ ถ้าไม่มีศีลประจำใจ อาจทำผิดคิดร้ายได้ (ความไม่รู้จักพอดี, ความอยากความมีกิเลส) ความอยากความมีกิเลส กิเลสอะไรที่น่ากลัวที่สุดสำหรับศิษย์ ไม่รู้จักพอ ใช่ไหม (ความชิงชัง, พูดจาให้ร้ายผู้อื่น) พูดจาให้ร้ายผู้อื่น ชอบยุแยงเขา ใช่หรือไม่ (โกหกหลอกลวง, ไม่มีความเมตตา, ไม่รู้จักบุญคุณคน, การใช้ความรุนแรง, การดื่มน้ำเมา, ความไม่ซื่อสัตย์, ความฟุ้งเฟื้อ, เห็นผิดเป็นชอบ, การไม่ปล่อยวาง,ไม่รู้จักรักในสิ่งที่ควรรัก) การไม่รู้จักรักในสิ่งที่ควรรัก กลับไปรักในสิ่งที่ไม่ควรรัก ใช่ไหม คนที่มีให้รักกลับไม่รัก ชอบไปรักคนนอกบ้าน แล้วก็ต้องทุกข์ใจ (ความทะเยอทะยาน, ความอยากมีอยากได้)  ไม่อยากให้คนอื่นได้ดี ตอบได้ดีนะ  (เย่อหยิ่ง, ปากอย่างใจอย่าง, ความมักใหญ่ใจกว้าง)  มีแต่มักใหญ่ใฝ่สูง มักใหญ่ใจกว้างมีด้วยหรือ มีแต่มักใหญ่แต่ใจแคบ (ชอบดูถูกเหยียดหยามผู้อื่น)  ตัวเราก็อย่าดูถูกเหยียดหยามตัวเราเอง ทำสิ่งที่ควรเคารพ คนอื่นจะได้เคารพเรา รู้จักคิดรู้จักแก้ปัญหา ปัญหาก็คลี่คลายได้ แต่บางครั้งก็ต้องกล้ายอมรับความจริงนะ (นินทาผู้อื่น) แล้วแอบนินทาอาจารย์ไหม แอบนินทาเพื่อนไหม ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีเวรกรรม เขาก็ไปทางของเขา แม้จะลำบากหน่อย ก็ต้องรอกุศลของศิษย์ช่วยเขานะ (เกิดจากกิเลสในใจตัวเอง)
(ลืมตัวไม่รู้จักตอบแทนบุญคุณคน, ความไม่ละอายต่อบาป)  ศิษย์เอ๋ย ความชั่วเกิดจากอะไร  ความชั่วเกิดจากอกุศล และอกุศลมีอะไรบ้าง  ศิษย์ก็ได้ตอบเกือบไปหมดแล้วก็คือ โลภ โกรธ หลง ใช่หรือไม่ (ใช่) ศิษย์อาจจะมองว่า โลภ โกรธ หลง มันเลวร้ายขนาดไหน ทำไมสิ่งศักดิ์สิทธิ์ถึงอยากให้เราตัดอยากให้เราละมันเสียที ใช่หรือไม่ (ใช่)  ความโลภ คนเราพอโลภมากๆ จะตระหนี่ และจะเป็นทุกข์กับสิ่งที่ตัวเองโลภ เพราะว่าเรารักทั้งนั้นเลยในสิ่งที่เราอยากได้ ใช่หรือไม่ (ใช่)  ฉะนั้นคนที่โลภบ่อยๆ ก็จะมีทุกข์ในความรักบ่อยๆ ทุกข์เพราะรัก ทุกข์เพราะพลัดพรากจากสิ่งที่รัก มักเกิดจากโลภเป็นพื้นฐาน  โลภมากๆ ทำให้เราตระหนี่ไม่รู้จักให้ ความโลภทำให้เรากลายเป็นคนเห็นแก่ตัว 
ความโกรธทำให้เรากลายเป็นคนที่กล้าจะเบียดเบียนทำร้ายผู้อื่น และก็สามารถทำได้แม้กระทั่งผู้มีพระคุณ ฉะนั้นคนที่มีความโกรธ ความโกรธสามารถทำสิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือทำร้ายผู้มีพระคุณได้
ความโลภทำให้กลายเป็นคนตระหนี่ ความโกรธทำให้เป็นคนที่รู้จักเบียดเบียนและที่น่ากลัวที่สุดก็คือลบหลู่คุณ คนได้ และคนที่โกรธบ่อยๆ ก็มักจะเป็นทุกข์กับสิ่งที่ไม่ชอบ ใช่ไหม (ใช่)  ความหลง เราหลงไหม หลงอะไรฝ่ายชาย หลงตัวเองหรือหลงรัก หลงเหล้า หรือบุหรี่ ล้วนเป็นความชั่วที่ทำให้ตกนรกได้ ไม่กินก็เหมือนกับตกนรก พอได้กินขึ้นสวรรค์ใช่หรือไม่ ไม่ได้เรียกว่าขึ้นสวรรค์หรอกนั่นแหละนรกจริงๆ  เพราะคนที่หลงจะเห็นสิ่งที่ไม่ควรหลงว่าควรหลง สิ่งที่ไม่ควรอยากว่าควรอยาก จึงไม่สามารถสร้างสิ่งที่ดีงามให้เกิดขึ้นในชีวิตได้  หัวหน้าจะตอบว่าอะไร หัวหน้าตอบว่า (ความหลอกลวงผู้อื่น, คอรัปชั่น) สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของมนุษย์ถ้ามนุษย์ทุกคนรู้จักพอเราจะเบียดเบียนทำร้าย คนไหม ไม่มีทาง แต่มนุษย์ไม่เคยพอมีก็เหมือนไม่มี จึงทำให้มนุษย์นั้นอยากไม่รู้จักจบสิ้น ยิ่งถมความอยาก ทะเลแห่งความอยากก็ถมไม่เคยเต็ม ยากมากถ้าจะอยู่กับคนที่คอรัปชั่นแล้วต้องรักษาความดีให้ได้ อย่าเผลอไปคอรัปชั่นกับเขานะ เอาไหมอาจารย์ให้สิ่งที่เป็นมงคล มังคุด ดีไหม (ดี) ชื่อดีไม่ดี ชื่อไม่สำคัญ สำคัญอยู่ที่ความประพฤติ ถ้าคนเรารู้จักทำดีชื่อก็ไม่ได้สำคัญหรอก แล้วศิษย์รู้ไหมว่าคนที่โลภ ไม่รู้จักพอ แล้วไม่สามารถรักษาคุณธรรมของความเป็นคนได้สักข้อหนึ่ง วันๆ มีแต่แสวงหา โดยไม่คิดหาคุณธรรม ถึงที่สุดชะตาชีวิตเขาจะกลายไปเป็นสัตว์อะไร
เป็นเปรตที่กินอย่างไรก็ ไม่มีวันอิ่ม  ฉะนั้นใครอยากทำชั่วปล่อยเขา ถ้าเราพูดเตือนแล้วเขาไม่เชื่อก็พอ อย่าพูดมากเกินไป เพราะไม่เช่นนั้นเขาอาจจะกำจัดเราทิ้ง ใช่หรือไม่ (ใช่) 
ฉะนั้นจำไว้นะ สิ่งที่น่ากลัวสำหรับมนุษย์ก็คือ ถ้าเกิดเป็นคนโดยไม่แสวงหาโดยไม่คำนึงถึงคุณงามความดี ถึงที่สุดแล้วเรานั่นแหละคือคนที่กำหนดชะตาชีวิตให้ตัวเองไปเป็นเปรต อยาก ไปไหม (ไม่อยาก)  ก็ถ้าวันนี้ศิษย์กินไม่เคยอิ่ม อยากไม่เคยพอ ศิษย์ก็คือคนที่กำหนดชะตาชีวิตให้ตัวเองไปเป็นเปรตนะ คุณธรรมแห่งความเป็นคนสักข้อหนึ่งรักษาได้ไหม (ได้)  ไม่โกหกเลยได้ไหม ข้อที่ง่ายที่สุดศิษย์ยังทำไม่ได้เลย รู้จักเมตตาไม่เบียดเบียนคนอื่นได้ไหม (ได้)  ไม่เอาชีวิตเขามาบำรุงบำเรอชีวิตเรา ได้ไหม (ได้)  สามอย่าง เห็นไหมศิษย์คิดให้ดีๆ นะ  คุณธรรมพื้นฐานของความเป็นคนข้อแรกคือ เมตตา ข้อสองคือ มโนธรรมสำนึก  ข้อสามคือ จริยธรรม  ข้อสี่คือ  ไม่รู้เรื่องเลยหรือ ฉะนั้นเกิดเป็นคนจะต้องรักษาคุณธรรมแห่งความเป็นคนให้ครบนะ ถ้าไม่ครบแล้วยังปล่อยให้ตัวเองมีความโลภเป็นหลัก ศิษย์ก็คือ คนที่กำหนดชะตาชีวิตว่าตายไปแล้ว ศิษย์จะยอมเป็นเปรต  โกรธมันแล้ว อะไรนิดอะไรหน่อยก็ขี้หงุดหงิด  ขี้โมโห  ขี้บ่น  จอมว่า  ตายไปแล้วเป็นอะไรไหม ตกนรกให้ไฟอเวจีเผาผลาญความร้อน ใช่หรือไม่ (ใช่)  ว่าได้แม้กระทั่งพ่อแม่ตัวเอง นี่แหละคือสิ่งที่น่ากลัวที่สุดสำหรับคนที่มีความโกรธ ใช่หรือเปล่า (ใช่)  ส่วนความหลงน่ากลัวที่สุดเป็นอะไร  สัตว์เดรัจฉาน ใช่หรือไม่ (ใช่)  หลงไปกับสิ่งที่ตาเห็น หลงไปกับสิ่งที่ลิ้นชอบกิน ปากชอบกิน เราเป็นอย่างนั้นไหม (เป็น)  มีชีวิตต้องกินอร่อย ใช่หรือเปล่า (ใช่)  แล้วเมื่อสักครู่บอกไม่เป็น ตกลงเป็นหรือไม่เป็น


ฉะนั้นศิษย์จงจำไว้นะ ภพภูมิแห่งมนุษย์เป็นภพภูมิที่ประเสริฐ ถ้าเราสามารถละชั่ว หมั่นสร้างกุศลทำคุณงามความดีจนถึงที่สุด ศิษย์จะสามารถพ้นการเวียนว่ายตายเกิดได้ แต่ถ้าเกิดว่าศิษย์ยังไม่รู้จักละชั่ว ยังประพฤติชั่วอีก ศิษย์ก็ยังหนีไม่พ้นทุกข์แล้วทุกข์เล่าในโลกใบนี้ ใช่หรือไม่ (ใช่)  ถามว่าความชั่วน่ากลัวไหม (น่ากลัว) เพราะพระพุทธะกล่าวไว้ว่า ระหว่างความชั่วกับความตาย  ความตายยังไม่น่ากลัวเท่ากับความชั่ว  เพราะคนที่ประพฤติชั่ว ทำให้ตัวเองนั้นต้องตายแล้วตายอีก คิดแล้วคิดอีก  จำไว้นะ  เพราะฉะนั้นเกิดเป็นคนเส้นแบ่งระหว่างดีกับชั่ว อยู่ที่ชั่วขณะศิษย์ตัดสินใจ เราตบทีหนึ่งโกรธไหม (โกรธ)  โดนด่าทีหนึ่ง โมโหไหม (โมโห)  พูดจนถึงที่สุดตบทีหนึ่งโกรธ ด่าทีหนึ่งด่า แล้วอย่างนี้จะได้อะไร ใช่หรือไม่ (ใช่)  ฉะนั้นบำเพ็ญธรรม บำเพ็ญตอนไหน ก็บำเพ็ญตอนที่ถูกตบถูกด่า ก็บำเพ็ญตอนนี้แหละ
จะด่ากลับไหม (ไม่) ถ้าศิษย์ด่ากลับ ศิษย์ก็คือคนที่หลงตัวเองและโกรธเขา มีทั้งความชั่วในความโกรธและความหลง และก็มีการด่าด้วยคือ อย่ามาด่าฉัน ใช่หรือเปล่า ฉะนั้นการบำเพ็ญธรรมก็คือ การปฏิบัติอยู่ในทุกขณะจิตที่ตาเห็น หูได้ยิน มือขยับเขยื้อน เท้าเดิน เมื่อมีเกิดขึ้นเหมือนเรามองเห็น เราอยากได้ไหม (อยากได้) ถ้าอยากได้ ศิษย์ก็ต้องดูด้วยว่าความอยากนี้มันทำเรากลายเป็นคนอยากและขาดคุณธรรมไหม อาจารย์ยกตัวอย่างง่ายๆ ช่วงที่ราคายางขึ้นสูง ใครๆ ก็อยากขายยาง ใช่หรือไม่ (ใช่)  แต่เราไม่มียางทำอย่างไร เห็นคนข้างๆ เขากรีดยางเสร็จแล้ว ยางตากเรียบร้อยแล้วขโมยเลยดีไหม อย่าเพียง เพราะความอยากทำให้ลืมคุณธรรมแห่งความเป็นคน ถ้าทำถึงขนาดนี้ศิษย์ก็คือคนที่ชั่วร้ายและปล่อยให้ความชั่วฆ่าตัวเอง ศัตรูภายนอกไม่น่ากลัวเท่ากับศัตรูที่เกิดจากตัวเองที่หลงผิดไปตามความโลภ ความโกรธ ความหลง ใช่หรือไม่ (ใช่) 
ฉะนั้นเวลาโดนคนว่าก็ตาม โดนคนเอาของไปไม่คืนก็ตาม โดนเพื่อนกินแรงก็ตาม เราอดทนได้ไหม (ได้)  อยู่ๆ เตะมันเลย อดทนได้ไหม (ได้)
ฉะนั้นสิ่งที่ไม่ดีต่างๆ อย่าไปดู อย่าไปทำ มนุษย์ภาคใต้ชอบมากที่สุดคือ แข่งนก แข่งวัว ใช่ไหม (ใช่)  แล้วชีวิตเป็นอย่างไร อยู่ดีๆ ไม่มีเรื่องมีราวอะไร ก็โดนยิง กรรมมาถึงแล้ว เพราะว่าอะไร สัตว์มันอยู่ของมันดีๆ แต่หาเรื่องให้มีเรื่องกัน แล้วคนใต้เป็นอย่างไร ต้องรับผลกับภัยที่ไม่ได้เป็นผู้ก่อ ศิษย์น่ารักของอาจารย์ ทำไมทั้งบุหรี่ทั้งเหล้า เอาหมดเลยหรือ ต้นเหตุแห่งความทุกข์ยากที่มนุษย์หามา กว่าจะสูบได้ก็แย่แล้ว สูบแล้วเลิกไม่ได้ก็นรกชัดๆ  อย่าทำร้ายตัวเองด้วยสิ่งที่ไม่ควรทำ
สิ่งที่น่ากลัวสำหรับมนุษย์นอกจากความชั่วร้ายแล้ว สิ่งที่น่ากลัวอีกอย่างก็คือความทุกข์ มนุษย์ไม่เคยหนีความทุกข์ในตนได้สักที อาจารย์ถามสำหรับคนที่ไม่ได้ตอบอาจารย์ ทุกข์อะไรนะที่แก้ยากที่สุด (ใจ, กาย)  ฝ่ายหญิงมักจะทุกข์ใจมากกว่าใช่ไหม (ใช่) ฝ่ายชายชอบประพฤติผิดใช่หรือไม่ ฝ่ายชายเงียบไม่พูด แปลว่าทำผิดจริงๆ ใช่หรือไม่ มนุษย์นั้นหนีไม่พ้นความทุกข์ และทุกข์ที่มีบ่อยที่สุดคือ เรายากตัดอกตัดใจ เพราะว่าเรามักจะหวังให้สิ่งที่เรารักให้สิ่งที่เราชอบนั้นเป็นอย่างที่เรา นึก แต่ศิษย์อย่าลืมนะว่า ในโลกกลมๆ ใบนี้ เป็นโลกแห่งความเปลี่ยนแปลง เราหวังให้ทุกๆสิ่งนั้นนิ่งตายตัวเป็นไปได้ไหม (ไม่ได้)   มีวันรัก ก็มีวันเกลียด
เริ่มจะเบื่อก่อนแล้วค่อยเกลียด ใช่หรือไม่ (ใช่)  ฉะนั้นเราจะหวังให้ทุกสิ่งทุกอย่างมันเป็นอย่างนี้ได้ไหม (ไม่ได้)  ขนาดนิ้วยังไม่เท่ากันเลยนะศิษย์ ถูกหรือเปล่า อาจารย์ยกตัวอย่างง่ายๆ เลยนะ ไหนใครอายุสี่สิบยืนขึ้น  ใครสี่สิบออกมา  สี่สิบนะศิษย์ดูซิยังไม่เท่ากันเลย  อายุสี่สิบเป็นไง เท่ากันไหม (ไม่เท่า)    ใครห้าสิบ  เป็นอย่างไร ดูต่างกันไหม เห็นไหม  ถ้าเกิดว่าให้ยืนสลับกันศิษย์จะดูออกไหมว่าใครสี่สิบใครห้าสิบ (ไม่ออก)  ใช่หรือไม่ 
ฉะนั้นบางครั้งมนุษย์เราจะไปคิดอะไรกับอายุ จะไปทุกข์อะไรกับสิ่งมีชีวิต เพราะขึ้นชื่อว่าชีวิตนั้นคือสิ่งที่หนีไม่พ้นความเปลี่ยนแปลง ถ้าเราหวังยึดให้มันต้องเป็นไปแบบนี้ เราก็คือคนที่หวังจะเป็นอัมพาตอัมพฤกษ์ ใช่หรือไม่ (ใช่)  และหวังที่จะให้ทุกคนเป็นอย่างที่เราคิด เราก็คือคนที่หลอกลวง เพราะโลกแห่งความเป็นจริง เป็นโลกที่เปลี่ยนแปลงอยู่ไม่จบสิ้น  เราบอกว่าเปลี่ยนแล้วไม่ดี ไม่แน่เปลี่ยนแล้วอาจจะดี ใช่หรือไม่ (ใช่)  ไหนใครบอกว่าแก่แล้วไม่ดี อาจารย์บอกแก่แล้วก็ดี จริงไหม  ฉะนั้นสี่สิบอย่ากลัวห้าสิบ ถ้ารู้จักดูแลชีวิตดีๆ ห้าสิบก็เหมือนสี่สิบ   ฉะนั้นอย่าทุกข์กับความเป็นจริงในโลก เพราะสิ่งต่างๆ ล้วนมีคุณค่าและความหมายในตัวเอง
(ทุกข์เพราะอยากมีอยากรวย) รวยถ้าไม่มีใครรักบางทีก็ไม่ดีใช่หรือไม่ (ใช่)   รวยแล้วตอนนี้โชคดี  แต่ต่อไปโชคร้ายหมดก็ไม่ดี มีใครจะตอบอาจารย์อีก (ประสบความรักที่ไม่สมหวัง)  ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีเหตุปัจจัย ถ้าบุญคู่กันอย่างไรก็คู่กัน บางทีอยู่คนเดียวอาจจะเป็นสุขกว่า (การไม่รู้จักพอ,ลูกหลาน,ความเจ็บปวด,) มีร่างกายให้เจ็บปวดดีกว่าไม่มีร่างกายให้เจ็บปวด (ปัญหา)  ปัญหาเกิดจากอะไร เกิดจากการไม่ยอมรับความจริง (ไม่สมหวังในชีวิต, พลัดพราก, ยากลำบาก, ไม่มีเงิน) ต้องรู้จักทำมาหากิน รู้จักใช้ ถ้าขยัน ทำมาหากิน ก็จะได้มีเงิน (เจ็บป่วย, การเปลี่ยนแปลง, สังขาร) ทุกข์เพราะติดบุหรี่ และหลงตัวเองใช่หรือเปล่า คนนี้หล่อไหมศิษย์ ไม่หล่อหรอก เดี๋ยวชมเขามากเขาจะยิ่งทุกข์
(ทุกข์กับสิ่งแวดล้อม) ถ้าทำได้ดี รู้จักถนอม รู้จักใช้ สิ่งแวดล้อมก็ไม่ก่อโทษให้เราหรอก ใช่หรือไม่ (ใช่)  (พระอาจารย์เมตตาให้เล่นเกมส่งผลไม้ แข่งขันระหว่างแถว) ทุกข์อะไร  (เลี้ยงลูกไม่ได้ดี)  บางทีก็ต้องทำใจ พูดน้อยๆ ยอมรับในสิ่งที่เขาเป็น จะได้ไม่ทุกข์นะ (กลัวแก่ ไม่มีลูกหลานดูแล)  ถ้าตอนเรามีชีวิต เรารู้จักให้ เรามีน้ำใจ เพื่อนบ้านจะไม่ทอดทิ้ง ใช่หรือไม่ (ใช่)  (ห่วงลูกหลาน)  ตอนนี้ให้ห่วงตัวเองก่อน ห่วงลูกหลานแต่ถ้าเขาไม่เอาเราก็ไม่มีประโยชน์ ถูกหรือไม่ (ติดหนี้สามหมื่นอยากให้อาจารย์ช่วย)  มีหนี้ก็ต้องใช้ ถ้าศิษย์ไม่ใช้ ศิษย์อาจจะกลับมาเกิดเป็นอะไรก็ไม่รู้ ฉะนั้นต้องใช้ด้วยความใจเย็น มีความสุข อย่าไปทุกข์กับมันนะ (คิดมาก) คิดในสิ่งที่ควรคิด คิดมากไปก็ไม่สบาย ใช่หรือไม่ (ใช่)  อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ต้องกล้ารับ คิดมากไป ศิษย์จะอุดอู้ ไม่มีประโยชน์ สู้กล้าเผชิญความจริงด้วยหัวใจที่เข้มแข็ง เราก็จะฟันฝ่าอุปสรรคได้ ใช่หรือไม่ (ใช่)  (ความพลัดพรากสูญเสียคนที่รัก)  มีใครบ้างในโลกที่ไม่สูญเสีย การพลัดพรากก็อาจจะมีดีตรงที่ทำให้เรารู้จักคุณค่า คุณค่าของคนตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ ทำให้ดีที่สุด เมื่อถึงเวลาเขาจากไป เราจะได้ไม่ต้องเสียใจภายหลัง (การเรียน)  ต้องรู้จักขยัน ตั้งใจฟัง ไม่มัวแต่มองหนุ่มๆ (อยากรวย)  ศิษย์เคยได้ยินไหมว่า คนที่มีบุญวาสนา ทำอะไรนิดๆ หน่อยก็รวย แต่บางคนไม่มีบุญวาสนา ทำให้ตายก็ไม่รวย ฉะนั้นบุญวาสนาอยู่ที่ตัวเราสั่งสม รู้จักให้ รู้จักเมตตา รู้จักเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ไหม (การสูญเสียสิ่งที่รัก)
ทุกคนต้องสูญเสียทั้งนั้น ใช่หรือไม่ (ใช่)   แต่ตอนที่เขามีชีวิตอยู่เราต้องทำกับเขาให้ดีที่สุด เมื่อตอนเขาจากไปเราจะได้ไม่เสียใจ  แต่ตอนนี้เราเสียไปแล้วหรือยัง เสียไปแล้วด้วยและยังไม่เสียด้วย ฉะนั้นจงรักษาสิ่งที่ยังไม่เสียให้ดี ส่วนสิ่งที่เสียแล้วเราก็ต้องเอาเป็นบทเรียนสอนใจ (โรคประจำตัว)  เพราะกรรมที่เราทำเขามาเราต้องชดใช้ให้เขาไป (ทำบุญอย่างไรให้บรรพบุรุษให้ถึงไหม)  ได้อยู่แล้วแต่ต้องดูด้วยว่าวาระเขาเหมาะได้รับหรือไม่ ถ้าเขาอยู่ในที่ต่ำและลึกที่สุดบุญบางทีก็อาจไปไม่ถึง บุญนั้นก็ต้องสะอาดและบริสุทธิ์ ถ้าบุญนั้นยังแปดเปื้อนไปด้วยเลือดและกลิ่นคาวด้วยความอาฆาตแค้น มันก็ไม่ใช่เรียกว่าบุญนะศิษย์ บุญที่ประเสริฐสุดคือบุญที่ไม่เบียดเบียนชีวิต (พระอาจารย์เมตตาให้ศิษย์เล่นเกมส่งต่อขนม)

(พระอาจารย์เมตตาให้นักเรียนเล่นส่งถุงลูกอมพร้อมเปิดเพลง)  อาจารย์ว่าต้องเขียนหมายเลข เพราะรู้สึกว่าบางถุงมันไม่ใช่แถวของตัวเอง ใช่หรือไม่ (ใช่)  อ้าวนั่งลง อ้าวปรบมือ  หายง่วงหรือยัง (หายแล้ว)  อยากดูแถวไหนเต้นเป็ดไหม (ไม่อยาก)  ถ้าอยากดูเดี๋ยวอาจารย์จะจับทุกคนยืนเต้นเป็ดให้หมดเลย  เสร็จแล้วยัง
มนุษย์มักจะทุกข์กับอะไร ศิษย์ก็ได้ตอบไปแล้ว บางคนบอกว่าทุกข์กับตัวทุกข์กับใจ แต่อาจารย์อยากจะบอกกับศิษย์ว่าสิ่งที่เรียกว่าทุกข์นั้น อาจารย์เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า อะไรรู้ไหม  มนุษย์เราเพราะมีสังขาร การยึดมั่นถือมั่นในตัวตนไม่พอใจในสิ่งที่ตนมีอยู่ก็วิ่งไปตามกิเลสและ อารมณ์ แต่ถ้ามนุษย์เรารู้จักพึงพอใจในสิ่งที่ตนเองมี แล้วสิ่งที่ตนมีนั้น แท้จริงแล้ว มันไม่น่ายึดเลย สิ่งที่เราพยายามจะมีและเรียกตัวเอง ว่าตัวตน เรียกว่าคน แท้จริงแล้วสิ่งนี้เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าอะไรนะศิษย์  เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "กองทุกข์"  ขึ้นชื่อว่าสรรพสิ่งนี้ หนีไม่พ้นความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และไร้ตัวตน พูดถึงกองทุกข์ แล้วศิษย์ยังรักกองทุกข์นี้ ไหม ก็ยังรัก อาจารย์จึงเปลี่ยนนิยามใหม่ ไม่เรียกว่ากองทุกข์ เปลี่ยนเป็น "ถุงขี้" ออกจากปากเรียกว่า "ขี้ปาก" จากหู "ขี้หู" จากตา "ขี้ตา" จากก้น "ขี้ก้น" ขี้เฉยๆ ไม่ต้องเรียกว่าขี้ก้น ออกจากตัวก็เรียกว่าขี้ไคล  ฉะนั้นสิ่งนี้อาจารย์เรียกว่าถุงขี้ ชอบไหม ชอบ  แล้วหาทุกสิ่งทุกอย่างจนกลายเป็นคนที่ขาดคุณธรรม เพื่อมาบำรุงบำเรอ "ถุงขี้"  ขี้กองเดียวเหม็นไหม แล้วยังอยากหาอีกไหม หาขี้สวยๆ เหม็นๆ มาขึ้นกับเรา เหม็นไหม  (เหม็น)  แรกๆ ก็หอม นานๆ ไปมันเริ่มเหม็นใช่หรือไม่  (ใช่)  ลูกเรา บอกว่าน่ารัก  นานๆ ไป เหม็นชะมัดเลยลูก
ฉะนั้นร่างกายที่เรายึดมั่นถือมั่นเราเรียกว่าตัวตน พุทธมองเห็นว่าคือความเปลี่ยนแปลง เป็นกองทุกข์ เป็นถุงขี้ หาความมีตัวตนไม่ได้ แต่มนุษย์ก็หลง และทำทุกอย่างจนขาดความเป็นคน เพื่อถุงขี้นี้ แถมยังเอาบุหรี่ เหล้ามายัดใส่ถุงขี้นี้  โง่ ไหม หาเงินแทบตาย เอามาเผาๆ แล้วก็เอาใส่ถุงขี้
ฉะนั้นคิดให้ดีๆ นะ เรามีชีวิตสิ่งที่ประเสริฐกว่าถุงขี้คือ  คุณธรรมในจิตใจ ใช่หรือไม่ และคุณธรรมนี่แหละ สามารถทำให้มนุษย์พ้นทุกข์ได้ แต่ถ้ามนุษย์ยังปล่อยให้ โลภ โกรธ หลง และมัวบำรุงบำเรอถุงขี้ คนนั้นคือ คนโง่ที่กอดกองขี้ และก็รักขี้ อาจารย์พูดจริงๆ ใช่หรือไม่ (ใช่)  และศิษย์ก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ใช่หรือหรือไม่ (ใช่)  เจ็บอะไร เจ็บขี้ จริงๆ น่ะ เจ็บบ้างหรือยัง (ในชั้นมีศิษย์บอกว่าไม่สบาย)  ลูกศิษย์ไม่สบายก็ต้องรักษาไปตามเหตุปัจจัย  อาจารย์อยากบอกว่าคนในโลกมีใครบ้างไม่เจ็บป่วย มีใครบ้างไม่พลัดพรากจากสิ่งที่รัก มีใครบ้างไม่ต้องทุกข์ ทุกคนล้วนต้องทุกข์ ต้องพลัดพราก ต้องเจ็บป่วย แต่ถ้ารักษาจนถึงที่สุดแล้ว ไม่หาย เราก็ต้องฝึกใจตัวเองให้เข้มแข็ง เอาชนะโรคให้ได้ ใช่หรือไม่ (ใช่)  กายเจ็บใจไม่เจ็บได้ ใช่หรือไม่ (ใช่)  อาจารย์เห็นเวลาคนเขาด่าเรามาทีหนึ่ง ถ้าตอนนี้เรามีความสุข ทำไมศิษย์ถึงไม่เจ็บเลยล่ะ ก็เพราะเรามีความสุขที่เต็มล้นอยู่ ใช่หรือไม่ (ใช่)  แต่ตอนนี้ศิษย์มีความทุกข์ เขาไม่ทันด่าอะไร ศิษย์ก็ทุกข์ แต่ถ้าตอนนี้ศิษย์มีความสุขใครด่าอย่างไรก็เฉยๆ เพราะตอนนี้ศิษย์รู้สึกดีๆ ฉะนั้นสุขทุกข์อยู่ที่ใจ แม้จะเจ็บปวดกายก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าใจเราไม่เจ็บป่วย ฉะนั้นเกิดเป็นคนจงรู้จักพึงพอใจในสิ่งที่ตนเองมี ความสุขพื้นฐานก็คือพอใจในสิ่งที่ตนเองมีให้ได้ก่อน ถ้าไม่พอใจศิษย์ก็ทุกข์อยู่ทุกๆ วัน ใช่หรือไม่ (ใช่)  
(พระอาจารย์เมตตาให้นักเรียนในชั้นฝึกร้องเพลงทำนองราชสีห์กับหนู) 
อาจารย์ไปแล้วนะ ได้ไหม (ไม่ได้)  อาจารย์ไปก่อนนะ มีโอกาสคงได้กลับมาเจอกันอีกนะศิษย์นะ เพราะว่าศิษย์ยังต้องมีสิ่งที่ต้องตั้งใจฟังอีก  แล้วเดี๋ยวต้องกลับบ้านอีก ใช่หรือเปล่า (ใช่)  บ้านของถุงขี้ ใช่หรือไม่ (ใช่)  ศิษย์จำไว้นะ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนไม่เที่ยงแท้ สิ่งที่ศิษย์เห็นว่ามีแท้จริงแล้วอาจจะไม่มี ใช่หรือไม่ (ใช่)  ส่วนสิ่งที่ศิษย์เห็นคุณธรรมดูเหมือนไม่มี แต่ถ้าปฏิบัติให้ดี ล้วนนำพาให้มนุษย์ไปสู่ที่ๆ พ้นทุกข์ได้ ใช่หรือไม่ (ใช่)  หน้าตานี้มันเป็นแค่ถุงขี้แค่นั้นเองนะ  รักมันมาก แต่ก็ทำให้กลายเป็นรักแล้วขาดคุณธรรมแล้วก็ไม่ดี ใช่หรือไม่ (ใช่)  แต่จงรักแล้วมีคุณธรรมยิ่งกว่าความเป็นคน ถึงจะประเสริฐกว่า ใช่หรือไม่ (ใช่)  วันนี้มีศิษย์มาจากหลายๆ ที่  ไหนใครมากจากสิงคโปร์  เขาฟังไม่รู้เรื่องแต่เขายังยืนฟังอยู่ตอนนี้  ปรบมือให้เขาหน่อยนะ  เขามาช่วยงาน แต่ศิษย์ไม่รู้เลยนะ ดูเพื่อนกันหมดเลย ใช่หรือไม่ (ใช่)  ดูเหมือนคนไทยหมดเลย จริงๆ แล้วไม่มีความแตกต่าง ไม่ว่าจะมาจากสิงคโปร์ มาเลเซีย ทุกคนล้วนมีความเป็นคนเท่าเทียมกัน  ทุกคนล้วนมีจิตแห่งพุทธะเท่าเทียมกัน  แต่ต่างกันตรงที่จิตตรงนั้นรู้ตื่นหรือยัง ใช่หรือไม่ (ใช่)  เราบำเพ็ญถึงที่สุดไม่ใช่ยึดมั่นถือมั่นความดี แต่เราบำเพ็ญถึงที่สุดคือ กลับคืนสู่ความสงบอันแท้จริง ใช่หรือไม่ (ใช่)  ความดีก็ยึดมั่นถือมั่นไม่ได้นะ แต่สิ่งที่นำพาจิตศิษย์ไปหาอาจารย์ได้คือ ความสงบอันแท้จริงที่บริสุทธิ์ ไม่มีแม้กระทั่งตัวเขา หรือตัวเรา เพราะทุกสิ่งทุกอย่างเท่าเทียมกันหมด อาจารย์ไปแล้วนะ ศิษย์ดูแลตัวเองให้ดีๆ  ขนมที่ถือไว้แจกๆ เพื่อนนะ ได้ไหม (ได้)  มีโอกาสคงมาผูกบุญสัมพันธ์กันอีกนะศิษย์นะ ตั้งใจสิ่งที่ถูกต้องและดีงาม อะไรรู้ว่าไม่ดีก็เลิกเถอะ ใช่หรือเปล่า  เสียดายที่ไม่ตอบอาจารย์นะ อาจารย์ไม่เคยหลอกลวงศิษย์ อาจารย์มีแต่ความจริงใจ กลัวอย่างเดียว ศิษย์ของอาจารย์หลอกอาจารย์ ใช่หรือไม่  หลอกว่าจะทำดี แต่ถึงเวลาก็ดื้อไม่ทำสิ่งที่ดีใช่ไหม  ดูแลตัวเองกันดีๆ นะ  ชีวิตนี้ไม่เที่ยง แต่สิ่งที่เที่ยงแท้ที่สุด คือ จิตที่ดีงาม ใช่หรือไม่   ดูแลตัวเอง รู้จักรักตัวเอง และรู้จักรักผู้อื่น  กลับมาหาอาจารย์อีกนะ  ตั้งใจบำเพ็ญเพื่อตัวเอง ศรัทธาในความดีงามที่ตัวเองมี ไม่ต้องทำเพื่ออาจารย์ แต่ทำเพื่อตัวศิษย์เอง ได้ไหม
ห่วงลูกอมจนไม่ห่วงอาจารย์แล้วหรือ ได้ก็ได้นะ ไม่อย่างนั้นศิษย์นั่นแหละคือคนที่ทำร้ายตัวเอง  สิ่งใดที่ดีอาจารย์ก็อยากมอบให้ศิษย์ แต่ศิษย์ก็ต้องรู้จักรักษาความดีนะ   รู้จักปฏิบัติดี ทำสิ่งที่ถูกต้องอย่าดื้อเลยนะ ไปกับอาจารย์นะ ตั้งใจบำเพ็ญ  อดทนตั้งใจบำเพ็ญ อยู่บนโลกนี้ต้องมีความกล้า กล้าที่จะเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่นนะ  อาจารย์ไปแล้วนะ  ต้องทำให้ได้นะ มีโอกาสอาจารย์จะอธิบาย ตั้งใจบำเพ็ญนะ ศิษย์รัก 
(อาจารย์เมตตากับนักเรียนในชั้น)  มีโอกาสคงได้มาผูกบุญกันอีกนะศิษย์นะ ตั้งใจบำเพ็ญให้ดี มุ่งมั่นทำสิ่งที่ถูกต้องและดีงามด้วยคุณธรรมแห่งความเป็นคน อย่าคิดผิด อย่าทำผิด เพราะสิ่งนั้นจะเป็นสิ่งตัวกำหนดชะตาชีวิตของศิษย์ เพราะคิดผิดเพียงชั่ววูบ ศิษย์อาจต้องทุกข์แล้วทุกข์อีก ทุกข์ในโลกยังไม่พออีกหรือ  ฉะนั้นต้องรู้จักระมัดระวังตัวเองนิดนึง ก้าวไม่ผิดศิษย์ก็ไม่ต้องทุกข์ซ้ำกับการเวียนว่าย ก้าวต้องก้าวให้ถูกด้วยจิตใจที่สุขุมรอบคอบ เราจะได้ไม่ต้องเสียใจภายหลัง เราคือผู้กำหนดชะตาชีวิตตัวเองในอนาคต ฉะนั้นอยากได้อนาคตที่ดี จงสร้างแต่สิ่งที่ดีงาม ที่ทำและไม่เสียใจไปตลอดชีวิต นั้นคือความเป็นคนที่รู้จักเมตตา ให้อภัย ได้ไหม (ได้)

 



อ่านต่อ...

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

ค้นหา