西元二○一五年歲次乙未五月二十七日 仙佛慈悲訓
วันอาทิตย์ที่ ๑๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ สถานธรรมเต๋อฮว่า จ.สงขลา
พระโอวาทพระอาจารย์จี้กง
บำเพ็ญจนลมหายใจเฮือกสุดท้าย ตราบวันตายดินกลบหน้ามิแปรเปลี่ยน
มุ่งมั่นจนถึงที่สุดด้วยพากเพียร
เป็นดั่งเทียนหลอมละลายเป็นแสงธรรม
เราคือ
จี้กงอาจารย์เจ้า รับบัญชาจาก
พระอนุตตรธรรมมารดาผู้เมตตา ลงสู่พุทธสถาน
แฝงกายกราบ
องค์มารดาแล้ว ถามศิษย์รักของอาจารย์มุ่งมั่นจนถึงที่สุดไหม
อย่าลวงฟ้าบิดเบือนปณิธานตน อย่าฉ้อฉลตระบัดสัตย์บาปกรรมยิ่ง
ใจมุ่งมั่นกลับเลือนหายอยากจะทิ้ง
ห้วงเหวลึกดำดิ่งคือโทษทัณฑ์
จิตศรัทธากอปรเมตตาอันสูงส่ง พอเนิ่นนานกลับลดลงและแปรผัน
ปณิธานกลับทอดทิ้งเหยียบย่ำกัน
อย่าล้อเล่นนั้นวิบากกรรมชีวิตตน
แค่ความตายก็ลนลานตระบัดสัตย์ แค่โรคร้ายมาขัดก็สับสน
แค่เคราะห์กรรมมาขวางก็เวียนวน
ถึงถูกฝนหล่อหลอมอย่าสิ้นความดี
จะเพื่อตนหรือเพื่อชนพลีอุทิศ
จะทำผิดหรือบำเพ็ญบุญบาปชี้
จะเมตตาหรือหลงโลภโกรธมากมี
จะแค่ดีหรือให้ถึงที่สุดทำ
พระโอวาทพระอาจารย์จี้กง
อาจารย์ว่าจะไม่มาแล้วนะ
เพราะอาจารย์อยากจะให้ศิษย์เข้มแข็ง และยืนหยัดได้ด้วยตัวเอง ศิษย์ทุกคนมีจิตศรัทธา มีจิตมุ่งมั่น แล้วก็มีปณิธานที่เป็นตัวหลักยึดถือใช่หรือไม่ (ใช่) ถ้าศิษย์มีหลักที่ยึดถือมั่นคง มีจิตมุ่งมั่นศรัทธาหนักแน่นไม่แปรเปลี่ยน ฉะนั้นศิษย์ไม่ต้องหวังรอพึ่งอาจารย์ให้ช่วยแล้ว
แต่ศิษย์ต้องเป็นที่พึ่งของตัวเอง มีหลักยึด มีจุดยืน ว่าเรามีชีวิตไม่ใช่แค่เพื่อชีวิต
แต่เรามีชีวิตเพื่อเข้าถึงธรรม เพื่อกลับสู่สภาวธรรมอันเดิมแท้ เช่นนั้นอาจารย์ขอหยั่งคำถาม
คำถามหนึ่งเพื่อตรวจสอบจิตใจศิษย์ อาจารย์ไม่อยากให้ศิษย์เสียเวลามากนะ
ทุกนาทีเป็นการฝึกฝนเรียนรู้ และชั่วโมงสุดท้ายก็เป็นชั่วโมงสำคัญที่ได้ตอบคำถามที่ศิษย์มีความสงสัยอยากรู้อะไรมากมาย
อาจารย์ถามคำถามหนึ่ง “กลัวตายไหม” (ไม่กลัว)
ทำไมถึงไม่กลัวตาย (เพราะอย่างไรคนเราก็ตาย,
ตายทุกคน, เตรียมตายก่อนตาย, ไม่เกินร้อยปีทุกคนก็ต้องตาย) เพราะบำเพ็ญยังไม่สำเร็จเลยกลัวตายหรือ
ยังบำเพ็ญไม่ดีเลยกลัวหรือ ทำไมอาจารย์ถามคำถามนี้ เพราะว่าศิษย์หลายต่อหลายคน เมื่อถึงคราวป่วย เป็นโรค
มีเคราะห์กรรม หมอสั่งคำเดียวว่าถ้าอยากหาย อยากรอด ให้ไปกินเนื้อสัตว์ แล้วศิษย์กินไหม
(ไม่กิน) แน่นะ ฉะนั้นศิษย์จำไว้นะ
สิ่งที่สำคัญที่สุด คือมนุษย์ประเสริฐที่ธรรม
เพราะมงคลสูงสุดแห่งชีวิตการเป็นคน คือ สละชีวิตเพื่อรักษาธรรม มงคลสูงสุดของความเป็นคนที่ประเสริฐ
คือ ยอมสละชีวิตเพื่อรักษาซึ่งคุณธรรม และคุณธรรมนั้นเป็นคุณธรรมที่ตัวศิษย์เองทุกคนตั้งสัตย์ ไว้ว่าจะทำให้ได้ และทำให้ถึงที่สุด ฉะนั้นถ้าเจอข้อทดสอบว่าไม่กินเนื้อสัตว์แล้วจะตาย
ศิษย์จะกินเขาไหม ถ้าโดนเคราะห์กรรมเข้ามาแล้วจะพลาดผิดไหม
อาจารย์บอกไว้อีกอย่างหนึ่งนะ
ถ้าใครที่กินเจคนเดียวในบ้าน จงเป็นคนที่เลี้ยงง่าย อย่าเรื่องมาก และจงทำตัวให้เป็นที่รักของคนในบ้าน
อย่าเป็นคนจู้จี้จุกจิก ไม่อย่างนั้นเวลาตอนที่เรากินเจแล้ว เขาเกิดรำคาญขึ้นมา
แล้วเอาอาหารเนื้อสัตว์ยัดเข้าปาก แล้วเราจะเป็นอย่างไร และยิ่งถ้าใครเป็นพ่อแม่พี่น้อง
พูดให้ที่บ้านเข้าใจไว้เลย อยากให้หนูได้ถึงที่สุดของความดีที่หนูตั้งเป้าหมายไว้ไหม
อยากให้แม่ถึงที่สุดของความดีที่แม่ตั้งความมุ่งหมายไหม อยากให้แม่ได้เป็นพุทธะไหม
อยากให้แม่ได้ฝึกฝนการเป็นพุทธะถึงที่สุดไหม ถ้าลูกอยากให้แม่เป็น ไม่ว่าแม่จะเจ็บป่วยอย่างไร
จำไว้นะลูก ต้องให้แม่กินเจจนลมหายใจสุดท้าย ต้องบอกให้ลูกรู้ไว้
บอกให้คนในครอบครัวรู้ไว้ ตายไปก็ไม่ต้องห่วง ป่วยก็ไม่ต้องห่วง เพราะศิษย์ทำดีจนถึงที่สุดแล้ว
ถูกไหม (ถูก) ฉะนั้นอย่ากลัวตาย
อย่ากลัวทุกข์ เพราะมนุษย์ประเสริฐที่คุณธรรม มงคลสูงสุดของการเป็นคนก็คือ
ยอมทิ้งชีวิตได้เพื่อรักษาธรรม เพราะธรรมมีค่าใหญ่กว่าสังขาร เพราะธรรมมีคุณค่าหนักแน่น ยิ่งกว่าการยึดมั่นถือมั่นในตัวตน ฉะนั้นถ้าอยากจะเดินหนทางนี้ก็ต้องทำให้ถึงที่สุด
อาจารย์จะพยายามรีบมารีบไป
เดี๋ยวจะให้โอกาสศิษย์ได้ถามตอบกับอาจารย์ถ่ายทอดเบิกธรรมดีไหม (ดี) มีคำถามมากมายในหัวใจใช่หรือไม่ บางทีบางคำถามไม่ต้องรอคนอื่นตอบ ถามจิตใจตัวเราเอง
เรามุ่งมั่นบำเพ็ญสิ่งสำคัญคืออะไร เรามุ่งมั่นบำเพ็ญสิ่งที่สำคัญ คือ ไม่ยึดมั่นถือมั่นในตัวตน
สิ่งใดที่กระทำแล้วกลายเป็นกิเลส กลายเป็นบาป กลายเป็นกรรม เราอย่ากระทำดีกว่าไหม ฉะนั้นถ้าเกิดทำไปแล้วก่อเกิดเป็นกรรม
ทำไปแล้วก่อเกิดเป็นกิเลส ทำไปแล้วก่อเกิดเป็นความยึดมั่นถือมั่นหลงผิด
ก่อเกิดเป็นอวิชชาหลงถือมั่นยึดมั่นในตัวตน อย่างนั้นคิดให้ดี
ไตร่ตรองให้ดีก่อนที่จะทำลงไป ใช่หรือไม่ (ใช่)
เหมือนแม้กระทั่งยึดตัวอาจารย์ ถ้ายึดแล้วต้องเจออาจารย์ทุกครั้ง
อาจารย์ก็ไม่อยากมา เพราะถ้ามาเจออาจารย์แล้วศิษย์ยึด มาแล้วศิษย์หลงอย่างนี้ก็ไม่ถูกต้อง ไม่ยึดอาจารย์ ได้ไหม
ไม่เจออาจารย์ก็เข้มแข็งได้ใช่ไหม ไม่เจออาจารย์ ก็มุ่งมั่นได้ใช่ไหม แม้เจ็บป่วย ก็ไม่เรียกอาจารย์ใช่ไหม
แม้ท้อแม้ทุกข์ ก็ไม่เรียกอาจารย์ช่วยได้ไหม
เริ่มต้นเข้าใจทำให้ได้นะ
จำที่อาจารย์พูดได้ไหม อาจารย์บอกว่ามนุษย์ประเสริฐที่คุณธรรม ฉะนั้นอุดมคติสูงสุดของการเป็นมนุษย์ผู้ประเสริฐก็คือ
ชีวิตก็สละได้เพื่อรักษาซึ่งคุณธรรม และคุณธรรมที่ศิษย์ตั้งคือ ตราบจนตัวตายก็จะไม่ผิดต่อปณิธานที่ตัวเองตั้งไว้ และคุณธรรมที่ศิษย์ตั้งไว้ หรือปณิธานที่ศิษย์ตั้งไว้มีคุณธรรมที่สูงส่งนั่นคือความเมตตาถูกไหม แต่ก็มีบางคนบอกว่า “อาจารย์ศิษย์แย่แล้ว
บางทีมันต้องกินเนื้อสัตว์นิดหน่อย ต้องมีนิดหน่อยผสมไปบ้าง ไม่เห็นเป็นไรเลยอาจารย์” ถ้าอย่างนั้นอาจารย์ถามศิษย์นะต่อเคราะห์กรรม
ความเจ็บปวดของเขา เรายืนมองแล้วบอกว่า เธออดทนหน่อยนะ ไม่เป็นไร ฉันหาย
เดี๋ยวฉันทำบุญคืนให้ มันถูกต้องไหม นี่หรือคนที่จะเป็นว่าที่พุทธะสิ่งศักดิ์สิทธิ์
นี่หรือคนที่มีเมตตาจิตในใจ ฉะนั้นต่อความเจ็บปวด
ต่อเคราะห์กรรมของเขา เรายืนดูเฉยๆ แล้วบอกว่าแกต้องเสียสละชีวิตให้ฉัน ได้หรือ
(ไม่ได้) เราก็รักชีวิต เขาก็รักชีวิต ฉะนั้นต่อเคราะห์กรรม ต่อความทุกข์ยากของคนอื่น เราจะไม่นิ่ง ดูดาย เราจะไม่ยืนเฉย
แต่เราจะพยายามช่วยเขาให้พ้นทุกข์ โดยที่แม้แต่ตัวเองทุกข์ก็ไม่เป็นไร
พระพุทธะยอมถึงขนาดไหนรู้ไหมศิษย์
หัวใจของพุทธะที่ถือธรรมเป็นที่หนึ่ง
ถือธรรมเป็นที่ตั้งมากกว่าความเป็นตัวตน มากกว่าอารมณ์ความรู้สึก ก็คือ แม้ตัวเองทุกข์
ทุกข์จนกระทั่งตัวเองถูกเขาเฉือนเนื้อ แล่เนื้อเป็นชิ้นๆ ทำให้เจ็บ ทำให้ปวด ขนาดไหน
ท่านยังเอาความทุกข์นั้นมาแปรเปลี่ยนเป็นความเบิกบาน และสามารถแผ่เมตตาจิตอันยิ่งใหญ่ให้กับเขาได้
นั่นแหละที่สุดของคำว่าเข้าถึงหัวใจพุทธะ ต่อให้ โดนด่า โดนเคราะห์กรรม โดนทำร้าย โดนเบียดเบียน ในหัวใจขณะนั้น
ท่านกลับเกิดความเบิกบาน ไม่โกรธ ดีใจที่ได้ชำระหนี้บาปเวรกรรมในอดีต
และได้เปิดหัวใจอันเมตตาที่ยิ่งใหญ่ให้กับเขา
อย่าเป็นคนที่บำเพ็ญแล้วยังเป็นคน อย่าเป็นคนที่บำเพ็ญแล้วได้แค่ใจของความเป็นคน
แค่นั้นไม่พอ เราต้องเข้าถึงหัวใจของพุทธะที่เจริญรอยคุณธรรมที่สูงที่สุด
ศิษย์อย่าเป็นแค่คนดี แค่นั้นอาจารย์ไม่เอา ศิษย์ต้องดีให้ถึงที่สุด ใครจะร้าย
ใครจะยังไง คิดแต่ว่า ดี ฉันได้ใช้กรรม ดี ฉันได้จบกรรม ดี ฉันจะได้ทิ้งความเป็นตัวตนให้กับเขาไป
ให้เหลือแต่คุณธรรมในใจ ให้เหลือแต่ความเมตตางดงามในใจ แม้ใครมาทำให้เราเจ็บที่สุด
แม้ใครจะมาด่าเราให้ปวดที่สุด แต่เราสามารถแปรเปลี่ยนความรู้สึกของความเป็นคนให้เป็นหัวใจแห่งพุทธะที่เมตตาได้
เบิกบานได้ เข้มแข็งได้ ไม่จองเวรจองกรรมได้ ไม่เป็นคนช่างจดช่างจำ
ไม่เป็นคนถือโทษ ไม่เป็นคนมักโกรธ เป็นคนที่มีแต่ให้ ให้ได้แม้หัวใจแห่งความเป็นคน
ให้แล้วเหลือแต่ความเป็นพุทธะ เหลือแต่ความเป็นธรรม ให้ไปเลยศิษย์ กลัวทำไม กายเจ็บแล้วมันก็ตาย
แต่การเข้าถึงธรรม ไม่มีเจ็บ ไม่ต้องตาย ไม่ต้องทุกข์ เพราะเมื่อศิษย์เข้าถึงภาวะที่ทุกข์ที่สุดแล้ว
และศิษย์สามารถแปรเปลี่ยนทุกข์ที่สุดให้กลายเป็นความเบิกบาน และเมตตาที่ยิ่งใหญ่ได้ ทำให้ถึงนะศิษย์ อย่าแค่ฟัง ทำไมฟังมาเป็นปี ฟังมาเป็นสิบๆ
ปี ทำไมเราได้แค่ฟัง แต่ไม่เคยเข้าถึงธรรมสักที เพราะอะไร เพราะเราไม่เคยลงแรงที่ใจเรา
อาจารย์รู้ว่าศิษย์เก่งในการอุทิศเสียสละเวลาช่วยคน แต่ใจนี้เคยลงแรงบ้างไหม เคยขูด เคยขัดเกลา เคยทิ้งความเป็นตัวตนบ้างไหม เคยทิ้งนิสัยบ้างไหม
ฉะนั้นเคราะห์ภัย ความทุกข์
ความเจ็บปวด ไม่ใช่เรื่องโหดร้าย ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว ไม่ใช่อุปสรรค อุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ไม่ได้อยู่ที่คนอื่น ไม่ได้อยู่ที่เจ้ากรรมนายเวร แต่อยู่ที่หัวใจเราเอง
รับได้ไหม ถ้ารับได้อุปสรรคก็เป็นบารมีหนุนให้เราสูงขึ้น รับไม่ได้อุปสรรคมันก็ดึงใจให้ศิษย์ตกต่ำลง
และอยู่ในกรงขังแห่งความเป็นคนไปตลอดตราบจนลมหายใจสุดท้าย เมื่อตายไปแล้วก็หนีไม่พ้นเวียนว่ายตายเกิด
เพราะยังยึดมั่นถือมั่นในตัวตน ทำไมพระพุทธะจึงสอนว่า ให้รู้จักไม่ครองเรือน
ไม่บริโภคกาม คำว่าไม่ครองเรือน ไม่ได้หมายความว่าไม่มีครอบครัว
แต่มีความหมายโดยนัยอีกอย่างหนึ่งก็คือ เรือนกายที่กำลังถูกไฟไหม้อยู่ตลอดเวลา ที่มันมีความตายคืบคลานอยู่ตลอดเวลา
สังขารนี้อย่าไปปรนเปรอ อย่าไปหลงใหลกับมันมาก มันมาเพียงแค่ให้เราอาศัยยืมใช้ สร้างคุณธรรมให้ถึงที่สุด ถ้าปัญญาไม่ถึง
ก็ใช้คุณธรรมไปให้ถึง
ชีวิตนี้ฉันจะมีเมตตาให้ถึงที่สุด
ชีวิตนี้ฉันจะมีคุณธรรมแห่งความเสียสละให้ถึงที่สุด ยากไหม ศิษย์เอย ไม่ยากนะ อย่าพูดว่าทำไม่ได้
ต้องทำให้ได้ อย่ารอให้ตายแล้วค่อยได้ มันต้องตอนนี้ศิษย์ ใครจะเป็นอย่างไร ฉันไม่รู้
รู้แต่เพียงอย่างเดียว ฉันต้องทำให้ได้ ฉันต้องดีให้ได้ ได้ไหมศิษย์ (ได้) อาจารย์อยากเห็นศิษย์ไปให้ถึง ไม่ใช่เป็นแค่คนดี
แต่ต้องเป็นคนที่เข้าถึงธรรม และทำได้จริงๆ ศิษย์เป็นมากกว่าผู้ปฏิบัติงานธรรม แต่ศิษย์กำลังเดินอยู่บนหนทางแห่งความเป็นพุทธะ
ถูกไหม (ถูก)
แล้วมีอะไรเหมือนพระพุทธะบ้าง มีอะไรที่เหมาะสมกับการเป็นพระพุทธะบนแดนดินบ้าง
ถ้านิสัยยังไม่วาง อารมณ์ยังไม่ผ่อนปรน ให้ลดเหลือน้อยที่สุด
แล้วศิษย์จะเป็นพุทธะได้อย่างไร ฉะนั้นก็ต้องมีคุณธรรม ถ้าปัญญาศิษย์ยังเข้าไม่ถึงสภาวธรรม
ยังไม่เข้าถึงความรู้แจ้งเห็นจริงในสภาวธรรม สิ่งที่จะนำพาให้ศิษย์ไปให้ถึงปัญญาธรรม
นั่นก็คือเริ่มต้นที่คุณธรรมก่อน มีจิตสำนึกอยู่ในคุณธรรมแห่งความเป็นคนอันประเสริฐ
ทำแล้วสมควรไหมกับความเป็นคนอันประเสริฐ
คิดอย่างนี้สมควรไหมที่ควรคิด พูดแบบนี้สมควรไหมที่ควรพูด ทุกขณะพินิจไตร่ตรองอยู่ตลอดเวลาว่ามีคุณธรรมสมควรแก่ความเป็นคนมากเพียงใด
สำรวมระมัดระวังอยู่เสมอ
ไม่ให้การพูดการกระทำของเราก่อเกิดกรรม ที่จะต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีก
แต่ให้การพูดการกระทำ หรือแม้กระทั่งความคิดเที่ยงตรง และคงอยู่ในความเป็นผู้มีธรรม
ใช่หรือไม่ (ใช่)
อายุมากหรืออายุน้อย
ไม่ใช่สิ่งสำคัญ แต่สิ่งสำคัญคือความมุ่งมั่นในปณิธานของตัวศิษย์เอง เมื่อตั้งปณิธานแล้วต้องไปให้ถึงที่สุด
เมื่อเดินแล้วถอยไม่ได้ มีแต่ก้าวหน้าอย่างเดียว ใช่หรือไม่ (ใช่) ปณิธานนี้ศิษย์ตั้งแล้วเลิกไม่ได้ ถอนไม่ได้
ทิ้งไม่ได้ จำไว้นะศิษย์ มีแต่มุ่งมั่นเดินให้ถึงที่สุด เพราะศิษย์ตั้งใจไว้แล้ว อาจารย์เศร้าใจจริงๆ กับคนที่มาพูดกับอาจารย์
หรือแม้อยากมาพูดกับใครก็ตามว่าถอนทิ้งได้ไหมอาจารย์ ศิษย์เอ๋ยถ้าศิษย์เป็นอาจารย์จะตอบเขาว่าอย่างไร
ถอนทิ้งเท่าก็กับตกนรกแล้วนะ เลิกแล้วไม่เอาแล้วก็เท่ากับก้าวลงไปในนรกแล้วนะ ศิษย์ตั้งปณิธานเองแล้วศิษย์จะถอนได้อย่างไร แล้วศิษย์จะให้ใครถอนปณิธานหรือ
ตอนที่ตั้งปณิธานก็ไม่ได้หน้ามืด ไม่ได้มีใครบังคับ แล้วทำไมพอลำบาก ศิษย์จะถอนปณิธานทิ้งเล่า
แล้วทำไมศิษย์ลืมหัวใจแห่งความเสียสละ หัวใจแห่งเมตตาตรงนั้นไป ฉะนั้นไปก็ไปให้ถึงที่สุด ถอนไม่ได้
ทิ้งไม่ได้ เลิกไม่ได้ จำไว้นะศิษย์ อย่าทำลายตัวเอง ไม่มีใครฉุดเราลงนรกได้
ถ้าเราไม่ดึงตัวเองให้ตกต่ำ ไม่มีใครเอาเราขึ้นฟ้าได้
ถ้าเราไม่รู้จักดึงใจเราให้ขึ้นฟ้า แล้วทำไมจึงทำกับตัวเองอย่างนี้
อาจารย์ว่าบางครั้งมันก็จุกนะศิษย์
จุกตรงที่พูดอะไรไม่ออก เพราะอะไรรู้ไหม เหมือนคนเป็นพ่อแม่อยากให้ลูกดี
แต่ยังไงเขาก็ไม่เอา เขาได้แค่นี้ มันก็เลยจุกตรงที่ว่าศิษย์ทำได้แค่นี้ ทั้งที่จริงๆ มันได้มากกว่านี้ ดีกว่านี้
และถึงที่สุดกว่านี้ได้ แต่ศิษย์พูดว่าศิษย์ได้แค่นี้ อาจารย์ก็เลยจุก
จุกจนพูดไม่ออก ฉะนั้นถามตัวเองจริงๆ นะศิษย์ว่าได้แค่นี้จริงๆ หรือ ศิษย์บำเพ็ญสูงที่สุดได้แค่นี้
มากกว่านี้ไม่ได้แล้วจริงหรือ ฉะนั้นอย่ายึดมั่นถือมั่นในตัวตน บำเพ็ญต้องไปให้ถึงซึ่งธรรม
อันแท้จริง ธรรมอันบริสุทธิ์ ธรรมที่ไม่มีคำว่าตัว ไม่มีคำว่าตนให้ยึดถือ ไปให้ถึงนะศิษย์
หนทางแห่งพุทธะอยู่ที่เราเลือกเดิน เมื่อเลือกแล้วต้องให้ถึงที่สุด ตราบจนดินกลบหน้า
ตราบจนลมหายใจสุดท้าย ก็ไม่ทิ้งซึ่งความถูกต้องที่ดีงามและคุณธรรมในใจตน ถามตัวเองว่า วันนี้ถ้าต้องตาย คุณธรรมแห่งความเป็นคนถึงพร้อมไหม
ชีวิตนี้ทำได้ดีที่สุดแล้วใช่ไหม ถ้าคุณธรรมความเป็นคนถึงพร้อม เมตตาจิตถึงที่สุด บำเพ็ญเต็มที่แล้ว
แม้วันนี้ตายก็ไม่เสียดาย นั่นแหละสุดยอด แต่ถ้าวันนี้สิ่งที่อาจารย์พูด
ศิษย์ยังทำได้ไม่ถึงที่สุด ยังไม่ถึงดี อย่าเพิ่งตาย เพราะมันจะไม่คุ้มเลยใช่ไหม
(ใช่) ฉะนั้นทำให้ได้นะศิษย์ ถ้าอาจารย์มีแขนที่กว้างใหญ่ อาจารย์ก็อยากจะกอดปลอบใจศิษย์ทุกคนนะ
ลุกขึ้นมาสู้ทำให้ได้ ทำให้ดีที่สุด เพื่อธรรมในใจของศิษย์เอง