วันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2552

2552-08-29 สถานธรรมฉือเหริน จ.นครศรีธรรมราช


西元二○○ 歲次己丑 七月初十日 仙佛慈悲訓
วันเสาร์ที่ ๒๙ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๕๒ สถานธรรมฉือเหริน จ.นครศรีธรรมราช
พระโอวาทศิษย์พี่พระนาจา

ปล่อยตนเองออกจากปรากฏการณ์ ถึงที่สุดเวลาผ่านเหลือใดหนา
อย่าหลงตนอย่าสำคัญตนผิดไปนา แม้ขาดตนทุกสิ่งหนายังก้าวไป
เราคือ
ศิษย์พี่นาจา   รับบัญชาจาก
พระอนุตตรธรรมมารดาผู้เมตตา  ลงสู่พุทธสถานฉือเหริน  แฝงกายกราบ
องค์มารดา   ถามศิษย์น้องทุกคนง่วงนอนไหม

โทสะไหนแค่ผ่านเหตุล้วนปะทุ ยกด้านแข็งทะลุการณ์ล้วนอลหม่าน
ทำใจแค่นั้นผันซึ่งอุปาทาน ทางตรงเมื่อจิตญาณสงบลง
ของต้องใจหัวหมอคิดวิธี ธรรมย้ำบอกเมธีไม่วายหลง
กิเลสรุกใจถูกความทิฐิชง เตือนอย่าหลงต่อเจ็บช้ำทั้งหลาย
คนเมื่อธรรมชาติมาคือความดี บริสุทธิ์นี้ได้เกิดพบเมื่อใฝ่
ดีก็จงทำอยู่รักษาใจ ชีวิตดูกันให้ใกล้ไร้เวลา
บำเพ็ญสุดที่ดีนักคือปฏิบัติ กฎระวังยากอาจพลาดขาดศึกษา
กะเทาะเปลือกมักกระทบกฎคนว่า พิจารณาสุขใจทุกข์มาหลอนละเมอ
คนมีใจใจมีอะไรหนอ เกียจคร้านล้มผู้ฉุดหน่อพุทธะเสมอ
คนว่าซ้ำรำคาญเอาแต่เอ้อ มองข้ามเติมไม่เจอปรารถนาดี
ธรรมอยู่ใกล้ก็ไกลไร้อบรม ไม่ควรสมยิ่งหลายเวลานี้
เมื่อใจใหญ่ยิ่งลืมสำรวมดี คนหลากมีชีวิตวันวันไป
เคยแล้วที่วานไหว้ผู้อื่น ไม่ให้อภัยกันยื่นสงครามให้
พึ่งตนเองมาตนพ้นงมงาย ไม่แค่ไม่ทะเลาะทั้งยังช่วยคน
ฮิ ฮิ  หยุด


คุณเป็นเพราะว่าคนตื่นจากทุกข์ทั้งสิ้นเอย
เป็นเพราะว่าคนตื่นจากทุกข์ทั้งสิ้นเอย

พระโอวาทศิษย์พี่พระนาจา
วันนี้มีใครบ้างที่อยากอยู่ห้องพระหรืออยากกลับบ้าน (อยู่ห้องพระ) อย่างนั้นชีวิตนี้เราเลือกได้ไหม (ได้)
(ศิษย์พี่นาจาเมตตาให้ผู้ปฏิบัติงานเขียนคำว่า “ดี-ร้าย, ทุกข์-สุข, ได้-เสีย, ผู้เฒ่า-หนุ่มสาว” บนกระดาน)
ท่านว่าชีวิตเราเลือกได้ไหม เราเลือกได้ แต่บางครั้งเราก็ไม่เลือกใช่หรือไม่ จริงๆ แล้วในชีวิตก็มีความเลือกไม่ได้อยู่ด้วย ใช่หรือไม่ (ใช่)  ระหว่างดีกับร้ายท่านเลือกอะไร (ดี)  ระหว่างได้กับเสีย ท่านจะเลือกอะไร (ได้)  ระหว่างทุกข์กับสุขท่านจะเลือกอะไร (สุข)  ระหว่างเป็นผู้เฒ่ากับ  หนุ่มสาวท่านจะเลือกอะไร (หนุ่มสาว)  แล้วชีวิตนี้เราเลือกแล้วได้อย่างที่เลือกไหม (ไม่ได้)  บางครั้งก็ต้องยอมรับในสิ่งที่เราไม่ได้เลือก  นั่นเรียกว่า “ชีวิต”  เราเลือกที่จะอยู่ได้ แต่บางครั้งก็อาจจะไม่ได้ เราเลือกที่จะร้ายได้ แต่บางครั้งเราก็ไม่ควรที่จะร้ายจนไม่มีดี บางครั้งเราเลือกที่จะเป็นผู้ได้ แต่บางครั้งก็ต้องเลือกที่จะเป็นผู้เสีย ในชีวิตนี้ไม่มีใครได้ตลอดเวลาโดยที่ไม่รู้จักเสีย  วันนี้เสียเวลาไหม (ไม่เสีย)  แล้วได้อะไรไหม (ได้)  อย่ายึดมั่นกับชีวิต บางครั้งเลือกไม่ได้ นั่นก็เรียกว่า “ชีวิต”
เฉกเช่นเดียวกันจริงไหม เหมือนวันนี้เราเลือกมานั่งฟังธรรมแล้ว เราน่าจะมีความสุขใช่หรือไม่ (ใช่)  แต่ทำไมมานั่งฟังธรรมแล้วเรากลับง่วงนอน เพราะอะไร เพราะว่าชีวิตเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราเลือกที่จะเป็นได้ใช่หรือไม่ (ใช่)  ท่านเคยได้ยินไหมว่า  “ทางแม้จะตรงแต่ทำไมคนเดินจึงเดินคด ทางแม้จะคดแต่ทำไมคนจึงไปได้ตรงทาง”  ใช่หรือไม่ (ใช่)  ฉะนั้นถึงแม้ชีวิตเรากำหนดมาอย่างไร แต่ถ้าหัวใจเรา ความคิดเรามันไม่เที่ยง มันไม่ยอม มันดื้อ ทางที่ตรงก็กลายเป็นทางที่คด แต่ถ้าหัวใจเราดื้อที่จะเป็น หรือดื้อที่จะดี แม้ทางมันจะคดเป็นร้อยเป็นพัน แต่เราก็จะทำให้มันตรงจริงหรือไม่ (จริง)  ฉะนั้นทุกข์ สุข อยู่ที่ใคร ใช่คนที่ยืนพูดเป็นชั่วโมงไหม เมื่อไรถึงจะลง  เมื่อไรถึงจะจบ
ถ้าสมมติว่ามีคนที่หน้าตาสวยแต่ขาเป๋ กับอีกคนหนึ่งขาตรงแต่ปากเบี้ยว กับอีกคนหนึ่งหน้าก็สวยขาก็ตรงแต่ใจคด ท่านเลือกใคร ฉะนั้นในโลกนี้เราคิดว่าเราเลือกสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว เราเดินถูกทางแล้ว แต่ทำไมต้องมีเหตุอะไรที่ไม่ใช่ ไม่จริง ทำไมต้องเป็นอย่างนี้เสมอๆ ด้วย แล้วเราควรทำอย่างไร ถ้าชีวิตเราต้องเจอแบบนี้ ก็ต้องอดทนไว้ แต่ความอดทนของคนมันก็มีขีดจำกัด ใช่หรือไม่ (ใช่)  ฉะนั้นเราควรจะมองหาว่าเราควรจะทำอย่างไร ยิ่งชีวิตนี้ใครๆ ก็ปรารถนาความสุข ปรารถนาคนดี ปรารถนาคนจริงใจ ไม่ปรารถนาคนคด ไม่ปรารถนาคนหลอกลวง ใช่หรือไม่ (ใช่)  แล้วเราจะอยู่บนโลกนี้อย่างไรถ้าเรายังดำเนินชีวิตได้ไม่เป็นใช่หรือไม่
เคยไหม เราบอกว่าบ้านนี้จะมีความสุขได้ต้องมีเราอยู่ แต่บางทีเราออกจากบ้าน บ้านก็เงียบดี ใช่ไหม ลูกจะดีได้ต้องฟังแม่บ่น แต่บางทีแม่หยุดบ่น ลูกก็อาจจะดีก็ได้ ถูกหรือไม่ เพราะฉะนั้นเป็นเพราะเราสำคัญผิดหรือเปล่า เป็นเพราะความคิดเรากำลังวางผิดหรือเปล่า ใช่หรือไม่ (ใช่)  ที่เขาตรง เขาอาจจะตรงอยู่แล้วก็ได้ แต่ใจเราคดหรือเปล่า เลยทำให้สิ่งที่ตรงอยู่มันกลายเป็นคด  แม้ที่คดๆ แต่ถ้าใจเราตรง เราก็สามารถเดินได้ตรง  แม้คนจะเลวร้ายขนาดไหน แต่ถ้าเรามุ่งมั่นที่จะเป็นคนดี เราก็ดีได้โดยที่ไม่พ่ายแพ้คำพูด เขาชมว่าเราดี เราเลยดีใหญ่ แต่พอเขาว่าเราร้าย เราก็เลิกดีเลย แปลว่าเราดีเราร้ายอยู่ที่ปากเขา ใช่ไหม (ไม่ใช่)  คนดีที่แท้จริงต้องดีด้วยตัวเอง ไม่ได้ดีเพราะหวังคำชมและผลพลอยได้ ถึงจะเรียกว่าเป็นผู้ดีโดยแท้ มีคนบอกว่าถ้ามีเราอยู่โลกจะสูงขึ้น แต่ไม่แน่ถ้าไม่มีเราอยู่โลกอาจจะยิ่งสูงขึ้น เชื่อไม่เชื่อก็ไม่เป็นไรไม่ว่ากัน เป็นธรรมดาใช่หรือไม่ เราอยู่ในโลกนี้มีคนรักก็ต้องมีคนเกลียด  มีคนเชื่อก็ต้องมีคนไม่เชื่อ  เพราะเรียกว่าชีวิต และชีวิตก็คือความจริงที่เราต้องยอมรับ ใช่หรือไม่ (ใช่)  
ฉะนั้นการศึกษาธรรม ก็คือการกล้าที่จะยอมรับความเป็นจริงในโลกด้วยใจที่เข้มแข็ง และพร้อมจะตรวจสอบตัวเองไม่ตรวจสอบผู้อื่น จึงเรียกว่า “บำเพ็ญธรรม” ยากไหม ทำได้ไหม (ทำได้)  บำเพ็ญธรรมต้องยอมรับได้ทั้งหนุ่มและแก่ บำเพ็ญธรรมต้องยอมรับได้ทั้งคนชมและคนเกลียด บำเพ็ญธรรมต้องยอมรับได้ทั้งคนยิ้มและคนหน้าบึ้ง ใช่หรือเปล่า  เพราะบำเพ็ญธรรมสอนให้เรารู้แจ้งความเป็นจริงแห่งชีวิต ไม่ใช่สอนให้มนุษย์หลอกลวงอยู่กับหวย ลอตเตอรี่ เลขเด็ด ใช่หรือไม่ (ใช่) ฉะนั้นบำเพ็ญธรรมสอนให้เราสู้ด้วยตนเอง ไม่ได้สู้ด้วยการหลอกลวงตัวเองอย่างนี้      ไม่ถูกต้อง  ถ้าวันนี้ได้เพื่อพรุ่งนี้จะเสียเอาไหม รู้จักเสียจะได้ไม่ต้องได้เอาไหม เอาไปเถอะ เพราะบางครั้งเสียมันมาบ่อยกว่าได้นะ ใช่หรือไม่ (ใช่)  
เราก็เหมือนท่าน แต่เราต่างจากท่านตรงที่ภาวะพุทธจิต จิตของท่านยังไม่รู้ตื่น แต่จิตของเรารู้ตื่น รู้ดับแล้ว พุทธะกับมนุษย์ต่างกันแค่ภาวะจิตเท่านั้น จิตของพุทธะรู้ตื่นรู้ดับแล้ว แต่จิตของมนุษย์รู้ตื่นแต่ยังรู้ดับ    ไม่เป็นเลย ใช่ไหม (ใช่)  
(ศิษย์พี่นาจาเมตตาให้นักเรียนในชั้นปรบมือตามคำสั่ง)
เวลาปรบมือท่านสามารถควบคุมได้ ว่าอย่างไรเรียกว่าแรงสุด อย่างไรเรียกว่ากลาง อย่างไรเรียกว่าเบา และอย่างไรเรียกว่าหยุด แล้วชีวิตเรา เราเคยรู้ไหมว่าสิ่งที่เรากำลังทำอยู่นี้มันมากไปหรือมันน้อยไป และมันต้องหยุดได้แล้วนะ เรารู้บ้างไหม ถ้ารู้ท่านคงควบคุมไม่ให้โกรธจนเกินไปได้ ถ้ารู้ท่านคงควบคุมไม่ขี้เกียจสันหลังยาว ใช่หรือไม่ (ใช่)  
อย่าลืมนะชีวิตไม่ใช่จะมีแต่ทางตรงแล้วให้เราแก้ตลอด บางครั้งชีวิตก็พลิกกลับด้านให้เราคาดไม่ถึง นึกไม่ถึงได้ตลอดเวลาใช่หรือไม่ (ใช่)  ฉะนั้นสิ่งที่ท่านไม่ควรลืมในชีวิตและเป็นสิ่งที่ดีสำหรับตัวเรา และมีอยู่ในตัวทุกๆ คน คอยควบคุมให้เราสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างถูกทาง ดำเนินชีวิตได้อย่างเป็นผู้เป็นคนไม่หลงจนเกินไป ไม่ทำทางตรงให้คด
แปลกนะ มนุษย์เราพอหาทางแก้ไม่ได้ คิดไม่ออก ปลงไม่ตกก็   ดื่มเหล้า อกหัก ผิดหวังทำใจไม่ได้ ฆ่าตัวตาย อย่างนี้คือการแก้ทางคดให้เป็นคด หรือแก้ทางคดให้เป็นตรง (แก้ทางคดให้เป็นคด)
มนุษย์เรามีสิ่งหนึ่งที่แม้คดก็สามารถทำให้ตรง แม้ตรงก็สามารถยิ่งทำให้ตรงได้นั้นคือ “สติปัญญา” สติปัญญามีอยู่ในทุกคน ถ้าพูดทางธรรมะ สติปัญญาสามารถทำให้มนุษย์เดินจากมืดไปสู่สว่าง จากสว่างยิ่งสว่างและบนสุด จากสกปรกให้กลายเป็นบริสุทธิ์ได้  สติปัญญาสามารถทำให้มนุษย์ตัดภพตัดชาติไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดได้ แต่เพราะอะไรเวลาอารมณ์มันครอบงำใจเราแล้ว เราต้องตกเป็นทาสของมันอยู่ร่ำไป จนทำให้เรามองไม่เห็นอะไรดีอะไรชอบ จนทำให้เรามองทางที่ตรงเป็นทางที่คด เพราะความโลภ ความหลง ความโกรธ ใช่หรือไม่ (ใช่)  เพราะเราขาดสติปัญญาไป จึงปล่อยให้อารมณ์ครอบงำ เกิดมาชีวิตหนึ่งฉันตายเพราะความรัก ภูมิใจไหม (ไม่ภูมิใจ)  ฉันตายเพราะดื่มเหล้า คุ้มไหม (ไม่คุ้ม)  แล้วทำไมจึงปล่อยให้อารมณ์ครอบงำจนเราฆ่าตัวเองทั้งชีวิตได้  
ฉะนั้นขอให้เวลาดำเนินชีวิตจงมีสติปัญญา แม้กระทั่งฟังเราก็ต้องรู้จักใช้สติปัญญาไตร่ตรองด้วย สติปัญญาทำให้เรามองเห็นสิ่งต่างๆ ได้อย่างแจ่มชัด เคยเห็นไหม น้ำถ้านิ่งจะสะท้อนสิ่งต่างๆ ได้อย่างชัดเจน ภาพแจ่มชัด ถ้าจิตนิ่งอะไรมากระทบก็ย่อมยากจะบิดเบือนได้ ถูกหรือไม่ (ถูก)  ความนิ่งจึงเป็นรากฐานของการเข้าใจและประจักษ์แจ้งในชีวิต ความนิ่งจะทำให้มนุษย์รู้จักเข้มแข็ง ความนิ่งคือการนิ่งเฉยๆ ไม่ต้องพูด จริงหรือไม่ (ไม่จริง)  ความนิ่งคือจิตนิ่ง แต่สติเคลื่อนไหว ความนิ่งคือการนั่งสมาธิเฉยๆ และให้จิตนิ่งใช่ไหม (ไม่ใช่)  ขึ้นชื่อว่ามนุษย์ต้องมีการเคลื่อนไหว แต่เอาแต่นั่งนิ่งๆ ไม่เรียกว่ามนุษย์ เรียกว่าวัตถุ คนที่นิ่งแท้จริง แม้จะเคลื่อนไหวใจก็ยังนิ่งได้ ความนิ่งของเราในที่นี้หมายความว่า มีสติเท่าทันสิ่งที่มากระทบหู กระทบตา กระทบใจ แล้วเรานิ่งได้ไหม
วิธีนิ่งทำอย่างไร เมื่ออะไรมากระทบตาให้มองก่อนว่าสวยจริงไหม หูสวยไหม ตาสวยไหม ถ้าหูกับตาแยกกันสวยไหม (ไม่สวย)  ฉะนั้นที่หลงว่าสวยให้มองให้ดีๆ และคนทุกคนที่บอกว่าสวยแท้จริงมีความอัปลักษณ์อยู่ไหม (มี)  ถ้าเราคิดว่าในสวยมีความอัปลักษณ์เราจะหลงเกินไปไหม (ไม่หลง)  ถ้าเรารู้จักนิ่ง มีสติปัญญายั้งคิดตามเท่าทัน สิ่งที่มากระทบก็จะไม่สามารถทำอะไรเราได้ ใช่หรือไม่ (ใช่)
ถามท่านว่า อะไรคือสิ่งที่ท่านกลัวมากที่สุด ท่านก็คงกลัวความทุกข์และก็กลัวความตาย ใช่หรือไม่ (ใช่)  แต่ถ้าถามพุทธะ พุทธะก็จะบอกว่า พุทธะไม่กลัวทุกข์ พุทธะไม่กลัวตาย แต่พุทธะกลัวการเกิด เพราะการเกิดก็ทำให้มีปัญหาตามมาเรื่อยๆ แต่การดับแล้วคือการจบสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง     ใช่หรือไม่ (ใช่)
เมื่อครู่เราถามว่าระหว่างคนที่หน้าสวยแต่ขาเป๋ กับหน้าเบี้ยวแต่ขาตรง แล้วอีกคนหนึ่งหน้าสวยขาตรงแต่ใจคด ท่านว่าอย่างใดดีกว่ากัน (มีทั้งส่วนที่ดีและส่วนที่ไม่ดี) ถ้าอย่างนั้นเอาดีหรือไม่เอาดี แต่ละคนก็มีคำตอบไม่เหมือนกันใช่ไหม (เลือกสวยทุกอย่างแต่ใจคด) ทุกคนมีสิทธิ์เลือก เหตุผลของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน แต่เมื่อเลือกแล้วต้องยอมรับเขาให้ได้ด้วย เพราะตนเลือกเองก็ต้องรับผลของการเลือกนั้น
ขอถามว่าระหว่างใน ๑๐ อย่าง มีดีแค่ ๑ อย่าง กับใน ๑๐ อย่างมีร้าย ๙ อย่าง อย่างไหนดีกว่ากัน บางคนขยันทำมาหากิน แต่เหล้าก็ดื่ม บุหรี่ก็สูบ หรือในทางตรงกันข้าม บางคนดีทั้ง ๙ อย่าง แต่ร้าย ๑ อย่าง เหล้า  ไม่ดื่ม บุหรี่ไม่สูบ แต่ขี้เกียจมาก เราอยากให้เป็นผู้นำก็ไม่ยอมเอาแต่เดินตามเราอย่างเดียว  ฉะนั้นเราจึงบอกท่านว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราพูดมานี้จงยอมรับเสียเถิด เพราะสิ่งเหล่านี้ทุกคนเมื่อขึ้นชื่อว่าชีวิตท่านต้องเจอ ไม่เจอกับคนใกล้ตัวก็ต้องเจอกับคนไกลตัว ฉะนั้นขอให้มีสติรับให้ได้ การรับให้ได้ ไม่ใช่รับเพื่อไปมองเขา ไปต่อว่าเขา แต่การมีสติรับให้ได้ ก็คือการหันกลับมามองตัวเราว่าทนได้ไหม รับไหวไหม
เชื่อไหมว่าคนอื่นเขาทำร้ายท่านแค่ครั้งเดียว แต่ความคิดที่รับไม่ได้ทนไม่ได้ คิดอย่างนั้นเป็นสิบหนจริงไหม (จริง) เขาว่าเราแค่ครั้งเดียว แต่ความโกรธของเราทำให้เรารู้สึกว่า เขาด่าเรา ยิ่งเราพูดเหมือนยิ่งเสียบตัวเอง ทำให้ตัวเองเจ็บเป็นร้อยเป็นพันหนเพราะเรารับไม่ได้ ทนไม่ได้ ฉะนั้นถ้าอยากให้เขาทำร้ายเราแค่เพียงครั้งเดียว หากมีคนเอามีดมาแทงเรา คิดว่าเจ็บไหม รับไหวไหม ทนได้ไหม ถ้าเรารับได้ทนได้ท่านเชื่อไหมว่ามีดมันจะหล่นไปเองโดยที่ไม่ได้ต้องดึงมันออกมาเลย
คนในโลกก็เป็นเช่นนี้ มีใครบ้างที่ตั้งแต่หัวจรดเท้าไม่มีที่ติ (ไม่มี)  ฉะนั้นสิ่งที่ท่านคิดว่าท่านเลือกมาดีแล้ว แต่พอเปิดเข้าไปข้างในกลับมีที่ไม่ดีเยอะแยะเลย ฉะนั้นการศึกษาบำเพ็ญธรรม ก็คือกล้ายอมรับความเป็นจริงของโลกใบนี้ ด้วยการมีสติ ไม่ใช่แก้ที่เขา แต่หันกลับมาแก้ที่ตัวเรา เมื่อเกิดมีอะไรมากระทบตา กระทบหู กระทบใจ เรารับได้ไหม ทนไหวไหม แล้วถอยได้ไหม กำแพงนั้นไม่มีหรอก แต่เรามักจะชนกำแพง ถ้าเราถอยได้มันก็มีทางให้ถอยใช่ไหม ขึ้นอยู่กับว่าเราจะยอมหลบยอมหลีกหรือเปล่า ถ้ายอมรับได้ ถอยได้เราก็จะมองเห็นได้ชัด มีที่ว่างให้ไตร่ตรองว่าสิ่งที่เราเกลียด สิ่งที่เราไม่ชอบ สิ่งที่เราเรียกว่าทุกข์ จริงๆ แล้วมันก็มีดี ผลไม้ที่หอมหวานก็พร้อมจะเป็นปฏิกูลได้เฉกเช่นเดียวกัน เมื่อไรที่กินเนื้อจนหมด เราก็ต้องทิ้งเปลือก แล้วเปลือกนั้นถ้าทิ้งไป มันก็คือขยะดีๆ นี่เอง แต่ทำไมชาวสวน ชาวนา ชาวไร่ถึงรู้จักเอาขยะกลับมาทำให้เกิดประโยชน์ขึ้นใหม่ได้ แล้วชีวิตของเราทำไมไม่รู้จักแปรสิ่งเลวร้าย มองเห็นคุณค่าในความทุกข์และแปรเปลี่ยนทำให้เป็นความสุข จริงไหม (จริง) ไม่เช่นนั้นเราก็จะสู้ชาวสวนชาวไร่ไม่ได้เลย
ใครปลูกต้นไม้ไม่ขึ้นยกมือขึ้น แม้แต่ต้นกระบองเพชรก็ยังตายได้ในมือเรา นั่นเป็นเพราะเราไม่มีเวลาดูต่างหาก  จึงปลูกต้นอะไรก็ไม่ขึ้นสักต้น ธรรมชาติของจิตใจ ใจเราถ้าชอบเมื่อไหร่ต้นก็เติบโต ถ้าใจเราไม่ชอบเมื่อไหร่ต้นก็เหี่ยวแห้ง แล้วตอนนี้เรากำลังเพาะอะไรในตัวเรา เพาะความดีหรือเพาะความเหี่ยวเฉา
ฟังเราแล้วยังง่วงนอนอีกไหม  ศิษย์น้องจะเชื่อหรือไม่เชื่อ เราไม่ว่านะ สิ่งที่พูดนั้นไม่ใช่เรื่องของคนอื่น แต่เป็นเรื่องของเราเองล้วนๆ       ใช่หรือไม่ (ใช่)  เราอยู่ในโลกนี้ นินทาคนอื่นแล้วก็เมื่อยปาก พอพูดมากๆ ก็ปวดใจด้วย จริงหรือไม่ (จริง)  เราต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดียิ่งขึ้น บำเพ็ญธรรมไม่ได้มุ่งให้เปลี่ยนแปลงผู้อื่น แต่มุ่งให้เปลี่ยนแปลงตัวเอง ไม่ใช่ไปแก้ไขผู้อื่น แต่มุ่งให้แก้ไขตัวเอง ใช่หรือไม่ เพราะว่าตัวเองนั้นถ้าเผลอจิตใจก็จะ ลงต่ำมากกว่าขึ้นสูง
ฉะนั้นชีวิตของคนก็เป็นธรรมดามีขึ้นมีลง แต่สิ่งที่ควรรักษาไว้ไม่ให้ขึ้นไม่ให้ลง นั่นก็คือ “จิตใจอันประเสริฐ” มนุษย์ทุกคนมักจะบ่มเพาะ     เมล็ดพันธุ์แห่งความโกรธ  เกลียด ริษยา อิจฉา ไม่ชอบ ความเชื่อมั่น ทิฐิ อัตตา เต็มไปหมดในหัวใจ แต่สิ่งหนึ่งที่ท่านไม่ควรลืมไปจากใจและชีวิตนั่นก็คือ “เมล็ดพันธุ์แห่งสติปัญญา” เพราะสติปัญญาทำให้เรารู้แจ้ง และตระหนักเห็นจริงในชีวิตแห่งตัวเอง เมื่อเราเห็นตนแล้วก็จะเห็นคนใช่หรือไม่ ถ้าเราเห็นตนไม่ชัด เราจะไปเห็นคนอื่นชัดหรือ เหมือนผีย่อมเห็นผี ว่าเขาเป็นอย่างไรเราก็เป็นอย่างนั้น ก็เห็นเหมือนกัน ขี้บ่น ขี้นินทา เหมือนกันเลยใช่หรือไม่ (ใช่)  ฉะนั้นอย่าไปว่าเขาเลย หันกลับมามองเรา แก้ที่เรา ทำให้ดีที่สุด
นอกจากตัวของเราเอง และสิ่งที่จะนำพาให้เราพ้นทุกข์นั่นก็คือ สติปัญญาที่รู้เท่าทัน สิ่งที่มากระทบตา หู หัวใจ รับได้ไหม ยอมได้ไหม ถอยได้ไหม แค่นั้นเอง รับได้ ทนได้ ถอยได้ อัตตาตัวตนที่จะทำให้ทุกข์ก็น้อยลง  แต่ถ้ารับไม่ได้ก็ต้องบุก ต้องลุย เราก็ยิ่งเจ็บมากเท่านั้น เขาด่ามาก็ด่าไป เขาแรงมาก็แรงไป  แล้วใครละเจ็บ เจ็บทั้งกายและใจ ฉะนั้นผู้อื่นทำร้ายท่านหนเดียว แต่ความคิดที่ไม่ยอมนั่นแหละ ทิ่มแทงท่านเป็นร้อยๆ พันๆ ครั้ง ถ้าเรารู้ทันเราก็ไม่อยากไปทิ่มแทงใครหรอก เรารักใจของเราจังเลย แต่ใจเรามีแต่นิสัยเน่าๆ เหม็นๆ ทั้งนั้นเลย จริงไหม (จริง)  
วันนี้มาฟังธรรมะ ท่านว่าตัวท่านมีอะไรดีบ้าง ตอบเราได้ไหม เดี๋ยวขอไปค้นในใจก่อนนะ หาไม่เจอเลยอย่างนั้นหรือเปล่า แต่ถ้าถามว่าตัวท่านมีอะไรไม่ดีบ้าง ไม่ต้องนึกมันก็ออกมาทันทีจริงไหม (จริง)  อย่างนั้นแปลว่ามนุษย์ถนัดเพาะเลี้ยงสิ่งที่ไม่ดี มากกว่าสิ่งดี ฉะนั้นจิตใจเราจึงเหมือนพื้นนา เรากำลังบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์อะไรให้กับจิตใจ
ฟังธรรมะเปลี่ยนจากสองวัน เพิ่มเป็นสามวันดีไหม  ถ้ากำลังดูทีวีสนุกอยู่ยังจะมาฟังธรรมะไหม  ดีไม่ดีบางครั้งแค่ทนได้ แต่ทนไม่ได้ก็มี ใช่หรือไม่  (ใช่)  เขาบอกว่าให้ท่านอย่างนี้ๆ ท่านทนได้ไหม ถ้าทนได้ก็บอกครับ ถ้าทนไม่ได้ก็เออๆ  ดีก็กลายเป็นไม่ดีทันที แค่คำว่า เออ กับ ครับ แค่นั้นเอง จริงไหม รับได้ไม่ได้เท่านั้นเองจริงไหม ใช่หรือเปล่า (ใช่)  
ฉะนั้นอยู่ร่วมกันมีคนว่าเรามากหน่อย อย่าเพิ่งไปโกรธ ตั้งสติแล้วฟังให้ดี เขาว่าเรานั้นมีอารมณ์ไหม แล้วเราจะได้ไม่เกลียดคนที่ว่าคนที่เตือน ใช่ไหม  มนุษย์ชอบคนชมมากกว่าชอบคนติ แต่จริงๆ  แล้วคนติหรือคนชมที่ทำให้เรามองเห็นตัวเองชัด  (คนติ)  
บางทีความมีเกียรติ ความมีหน้ามีตา ก็ทำให้เรานั้นเป็นคนที่ฟังคนได้ยาก  ความเป็นผู้ใหญ่นั้นก็ทำให้เราไม่ค่อยฟังใครง่ายๆ ใช่ไหม (ใช่)  คิดว่าฉันอาบน้ำร้อนมาก่อนแล้ว แต่เรื่องความรู้นั้นเรียนทันกันเร็ว และบางครั้งคลื่นลูกหลัง ก็มักจะแซงคลื่นลูกหน้า สิ่งที่เรารู้วันนี้ พรุ่งนี้เราอาจจะกลายเป็นคนไม่รู้ก็ได้ ใช่หรือไม่ (ใช่)  เกิดเป็นคนต้องรู้จักน้อมรับฟังคำพูดของผู้อื่น แล้วเราจะได้เป็นคนที่น่ารักของใครๆ  อยากเป็นที่รัก หรือที่รังเกียจ (ที่รัก)  
(ศิษย์พี่เมตตาให้นักเรียนในชั้นเล่นเกมยืนขึ้น- นั่งลง)
ถ้าใครนั่งช้าเราจะทำโทษ ในโลกนี้ต้องมีทั้งคนผิดและคนถูกเสมอ ใช่หรือเปล่า บางครั้งเราก็ถูก บางครั้งเราก็ผิดได้เหมือนกัน บางครั้งเราก็ชนะ บางครั้งเราก็แพ้ ใช่หรือไม่ (ใช่)  อย่าคิดว่ามีเงินแล้วชีวิตจะมีความสุข มีเงินแล้วใช้ไม่เป็นทำให้ทุกข์ได้ อย่าคิดว่าทุกคนรักแล้วจะมีความสุข ถ้ารักไม่เป็นความรักก็ฆ่าเราตายได้ อย่าคิดว่าถ้ามีบ้านแล้วจะทำให้อยู่ร่มเย็น ถ้าเกิดปล่อยวางไม่เป็น บ้านก็จะร้อนเป็นไฟได้เหมือนกัน แล้วทำอย่างไรเราถึงจะรู้จักควบคุมใจเราได้  ถ้าไม่ใช่ธรรมะ  แล้วอะไรที่ทำให้เรารู้จักควบคุมชีวิตให้เดินไปในทางที่ดี ถ้าไม่ใช่สติปัญญา ถูกไหม (ถูก)  
ฉะนั้นในโลกนี้ ไม่มีใครดีไปหมด และไม่มีใครร้ายไปเสีย  ฉะนั้นถ้าเราอยู่ร่วมกันก็จงยอมรับกันให้ได้ เขาขี้คุยมากไป เค็มกับเรามากไป ก็ยอมไปเถอะ แม้เราจะโดนเขาข่ม โดนเขาว่าก็ไม่เป็นไร ฉะนั้นจงยิ้มรับให้ได้ไม่ว่าจะเป็นเช่นไร  เพราะทุกชีวิตไม่ใช่แค่ฟ้าเป็นผู้กำหนด แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นจากตัวเรา ล้วนแต่ตัวท่านเองกำหนดทั้งสิ้น พรุ่งนี้จะเป็นเช่นไร อนาคตจะเป็นเช่นไร ก็ขึ้นอยู่ที่ตัวท่านเอง อย่าไปโทษฟ้า โทษดิน โทษผู้อื่นเลย
ฉะนั้นเราจึงบอกว่าแม้ทางจะคด ถ้าเรามุ่งมั่นจะเดินให้ตรงเสียอย่าง ใครจะทำอะไรเราได้  แม้ทางจะตรงแต่ถ้าใจเราคิดร้ายคิดคด ใครก็ช่วยท่านไม่ได้  บางครั้งเราก็คาดหวังว่าจะดีกว่านี้ เขาน่าจะดีกว่านี้ แต่บางครั้งเราก็อยากจะบอกท่านว่า  ปล่อยวางความคาดหวังบ้าง แล้วยอมรับสิ่งที่เป็นจริง ปล่อยชีวิตให้มีที่ว่างบ้าง อย่าปล่อยชีวิตให้เต็มไปด้วยความคิด ความยึดมั่น ความถือมั่น เพราะความยึดมั่นถือมั่นทำให้เราทุกข์ทั้งนั้น แต่การรู้จักปล่อยวางและยอมรับ ทำให้เรามีสุขยิ่งขึ้น ใช่หรือไม่ (ใช่)  
ถึงเวลาที่เราจะกลับแล้ว  บำเพ็ญธรรมช่วยผู้อื่น แล้วอย่าลืมช่วยใจตัวเองด้วยนะ อย่าให้ความคิดฆ่าตัวเอง ทำร้ายตัวเอง อย่าให้ความเป็นตัวของตัวนั้นทำเราเจ็บ เราเจ็บเพราะความชัง และเราทุกข์เพราะความรัก  จริงหรือไม่ (จริง)  ฉะนั้นถ้าความชังกับความทุกข์เราไม่มี เราก็จะไม่เจ็บ เพราะว่าเรายอมรับได้ทุกอย่าง ไม่ว่าทุกข์หรือสุขก็ตาม นั่นเรียกว่า “ชีวิต”  และนั่นเรียกว่า “ความจริง”  ฉะนั้นเมื่อเราทุกข์พึงรักษาตัวเองให้ดีด้วยสติปัญญา ศีลธรรมก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะใฝ่หาใช่หรือไม่ (ใช่)
ถ้าทำอะไรไร้สติปัญญาก็จะรักษาศีลธรรมไม่ได้  คุณสมบัติอีกอย่างหนึ่งของสติปัญญาคือ ช่วยหนุนเยียวยาหัวใจ สติปัญญาทำให้มองโลกชัด มองตัวเราชัด แล้วยังช่วยเยียวยาเราได้แจ่มชัดที่สุด  ชีวิตก็แค่นี้เอง ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป จะยื้อจะยุดอะไรไว้หนักหนา ถึงเวลาก็ต้องปล่อยวาง วันนี้ไม่ปล่อย แล้วเมื่อไรจะปล่อย ถ้าไม่ปล่อยก็จะกลายเป็นจิ้งจกเฝ้าสุสาน ไปแล้วนะ  
(ศิษย์พี่นาจาเมตตาส่งเสริมผู้ร่วมฟัง)
เมื่อยหรือเปล่า ตั้งใจฟังเราพูดไหม ฟังรู้เรื่องไหม บำเพ็ญธรรมคืออะไร บำเพ็ญธรรม คือกล้ารับความเป็นจริงไม่ว่าจะทุกข์จะสุข แล้วมุ่งที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยจิตใจที่เข้มแข็ง  ไม่ใช่ไปเปลี่ยนแปลงผู้อื่น คนเราเกิดมาก็ต้องตาย ต้องเจ็บ ต้องทุกข์ แต่ต้องเข้มแข็งเข้าไว้นะ
วันอาทิตย์ที่ ๓๐ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๕๒
พระโอวาทพระอาจารย์จี้กง
แค่เพียงรู้น้อมรับฟังคำคน ต่างเหตุผลก็อาจพลันอยู่ร่วมได้
ลองเป็นเขาอาจเข้าใจว่าทำไม ผิดพลาดไปไม่มีใครอยากให้มี
เราคือ
จี้กงสงฆ์วิปลาส รับบัญชาจาก
พระอนุตตรธรรมมารดาผู้เมตตา ลงสู่แดนโลก  แฝงกายกราบ
องค์มารดา ถามศิษย์รักทุกคนเหนื่อยไหม
หากอยู่ใกล้ใกล้ไม่ดีสักคน  จะให้ทนอย่างไรยืดยาว  รู้ทันรู้ไส้รู้พุงกันยุ่งเสียเปล่า ทางชีวิตที่ไม่รู้ตน มีเหตุผลแบบไหนไม่บรรเทา  เห็นธรรมตามจริงแล้ว หยุดแม้โทษใครในใจ
* ผ่านแค่ไหนแข็งใจแค่นั้น  เหตุการณ์ผันหัวใจต้องตรง  เมื่อถูกรุกบอกใจอย่าหลงต่อความเจ็บช้ำ  
** เมื่อชาตินี้ได้เกิดมาพบกัน ก็จงทำให้ดีที่สุด  อยู่ใกล้นักมักระวังยาก  อาจกระทบทุกข์ใจสุขใจ ฉุดผู้ล้มไม่ข้ามซ้ำเติม อยู่ใกล้ก็ยิ่งสมควรใหญ่   ชีวิตมีหลากหลาย ลืมวันวานที่แล้วมาให้อภัยกัน
ความทุกข์ได้เห็นทุกวัน คาดไม่ถึงยิ่งมีมากกว่า คนเมื่อเหนื่อยก็ช้า คั่งค้างกันอยู่ ให้ความรักทำความเข้าใจ คนไม่ใช่เอาใจของตน คลำความจริงไม่พบ รบเดียวกรำจนตาย (ซ้ำ *,**)
ชื่อเพลง : ให้อภัยกัน
ทำนองเพลง : ยอมจำนนฟ้าดิน
พระโอวาทพระอาจารย์จี้กง
ดีใจจังเลยที่เห็นศิษย์ทุกคนมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า เห็นศิษย์บางคนมาสถานธรรม มาฟังธรรมะ เกือบสองวันแทบจะยิ้มไม่ออก จะยิ้มออกก็ตอนร้องเพลงเท่านั้นเองใช่หรือไม่  (ใช่)  เวลากินอาหารก็แทบจะยิ้มไม่ออก หรือว่าไม่มีเนื้อสัตว์เลยกินไม่ค่อยลง อย่างนั้นไหม
อาจารย์ถามคำถามง่ายๆ  ศิษย์คิดว่าศิษย์เป็นคนดีไหม (ดี)  ดีแค่ไหน (ดีมาก)   ดีมากใช่ไหม งั้นอาจารย์ถามว่าถ้าวันหนึ่งเขาย้ายโรงฆ่าสัตว์มาอยู่ใกล้ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อศิษย์กินลงไหม (ไม่ลง)   เขาย้ายโรงฆ่าหมูมาอยู่ใกล้ร้านหมูปิ้ง ศิษย์กินลงไหม (ไม่ลง)  ทำไมล่ะ (สงสาร)   คนดีเวลาเขาสงสารมีสงสารเป็นเวลาด้วยหรือ
อาจารย์ถามจริงๆ ว่า  ถ้าศิษย์คิดว่าศิษย์เป็นคนดีมาก งั้นแปลว่าไม่ว่าอยู่ที่ไหนศิษย์ก็ต้องดีได้ตลอดใช่หรือไม่ (ใช่)  ไม่ว่าจะขึ้นเหนือ ล่องใต้ ศิษย์ก็ต้องมีดีตลอด และคนดีควรจะมีความเมตตาไหม (มี)  คนดีควรสงสารสัตว์ไหม  ถ้าเกิดสัตว์ตัวเล็กนิดหน่อย ศิษย์ไม่สงสารแล้วคน  ศิษย์จะสงสารไหม (สงสารมากกว่า)  เออศิษย์ก็ยังบอกว่าสงสารมากกว่า แล้วถ้าอาจารย์ถามว่าโรงฆ่าสัตว์อยู่ใกล้ร้านก๋วยเตี๋ยวศิษย์ยังจะกินไหม
อาจารย์อยากถาม  ทำไมความสงสาร ต้องได้เห็น ต้องได้ยิน ต้องรับรู้ศิษย์ถึงจะทำไม่ลงหรือ  แล้วจริงๆ  ศิษย์กำลังปิดหู ปิดตาตัวเองไม่เห็นไม่ได้ยินไม่ใช่หรือ วันนี้ที่ศิษย์กินก๋วยเตี๋ยวเนื้อ กินหมูปิ้ง วันนี้ที่กินไก่ทอด ไก่ย่าง แค่อาจารย์พูดน้ำลายก็ไหลแล้ว จริงไหม แต่ถามซิว่าเคยนึกถึงภาพที่มันถูกฆ่าไหม (ไม่เคย)  แล้วพออะไรล่ะ แค่ลิ้นสามคืบ สามนิ้วเองแค่นี้ ทำให้ศิษย์ลืมความเมตตา ลืมเสียงที่เขาร้องคร่ำครวญหรือ จริงไหม (จริง)  ถ้าไม่มีลิ้นรับรสแล้วถามซิว่า กินอะไรอร่อย อยากกินอะไรไหม ถ้าไม่มีลิ้นศิษย์อยากกินอะไรไหม  งั้นชีวิตนี้ศิษย์ตามลิ้นอย่างเดียวใช่หรือไม่ (ไม่)
ฉะนั้นวันไหนเดินไปกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อ วันไหนคิดจะซื้อหมูปิ้ง วันไหนคิดจะซื้อไก่ทอด ลองคิดซิว่าถ้ามีโรงงานเชือดไก่อยู่ข้างๆ โรงงานฆ่าหมูอยู่ข้างๆ กินลงไหม (ไม่ลง)  
ศิษย์เกลียดไหม คนที่แอบว่าศิษย์ลับหลังแล้วมีคนเอามาเล่าให้ศิษย์ฟัง รักกันดีๆ แต่ก็แอบแทงลับหลัง ชอบไหม (ไม่ชอบ)  แล้วศิษย์ทำกับผู้อื่นไหม (ทำ, ไม่ทำ)  แน่ใจนะว่าไม่ยืมคนอื่นฆ่า ฉันไม่ฆ่าสัตว์แต่สั่งเอาปลาตัวนี้ทำให้เสร็จด้วยนะ ถูกไหม (ถูก)  กฎหมายของคนบนโลกนี้ คนฆ่ากับคนสั่งฆ่ามีโทษ (เท่ากัน)  ใช่ไหม (ใช่)  แล้วกรรมล่ะเท่ากันไหม (เท่ากัน)  ใช่หรือเปล่า (ใช่)  
ถ้าอย่างนั้นอาจารย์ถามว่าคนดีที่บอกว่าดีมาก ดีจริงๆ ไหม ทำไมไม่กล้ารับแล้วล่ะ ตอนนี้ใครที่กล้าบอกว่ายังดีร้อยเปอร์เซ็นต์ยกมือขึ้น ใครว่าตัวเองดีสามสิบเปอร์เซ็นต์ ยกมือขึ้น อาจารย์ถามจริงๆ ถ้ามีโรงงานฆ่าสัตว์อยู่ใกล้ๆ ศิษย์รักวัวศิษย์ไหม (รัก)  รักเขาเพื่ออะไร เพื่อหาเงินใช่ไหม รักนกไหม(รัก)  รักใช่ไหม แล้วทำไมฆ่าเขาลง พอเขา ทำศิษย์ผิดหวัง ทำไมศิษย์ฆ่าเขาได้ลง ถ้าวันหนึ่งคนที่เขารักศิษย์มากๆ เขาทำให้ศิษย์ผิดหวัง เขาฆ่าศิษย์ลง ศิษย์ก็ไม่ควร (โกรธเขา)  ถูกไหม (ถูก)  
วัวเป็นสัตว์ มันมาขวิดศิษย์ทีหนึ่ง ศิษย์โกรธมันและฆ่ามันตาย แต่ศิษย์โกรธคนๆ หนึ่ง ศิษย์ทำร้ายเขา เขาฆ่าศิษย์ตายไหม (ตาย)  บางคนเขาไม่ฆ่าศิษย์ตาย ใช่หรือไม่ (ใช่)  แต่สัตว์บางตัวแค่กัดศิษย์นิดเดียว ศิษย์ฆ่าเขาตายเลย ศิษย์ว่าศิษย์เมตตาไหม ศิษย์ว่าศิษย์เป็นคนที่นับถือพุทธไหม (นับถือ)  ถ้านับถือพุทธแล้วทำแบบนี้ลงหรือ จริงไหม (จริง)  
อาจารย์ถามถึงหัวอกของคนที่เป็นคนดี บางที่เราผิดพลาดไปนิดหนึ่ง สิ่งที่เราอยากได้ที่สุดก็คือ (อภัย)  จริงไหม (จริง)  อยากได้คำที่ร้ายมาร้ายตอบไหม (ไม่อยากได้)  เพราะบางครั้งศิษย์ไม่ได้ตั้งใจ อารมณ์ชั่ววูบ อารมณ์ชั่วแล่น ในเมื่อศิษย์ไม่อยากได้อย่างไรตอบ ทำไมถึงทำอย่างนั้นตอบกับผู้อื่น เขาพลาดผิดกับศิษย์ครั้งเดียวแต่ศิษย์จำไม่ลืม แค้น โกรธ เกลียด เจ็บแล้วไง จำจนตายเลยใช่ไหม (ใช่)  หัวใจลึกๆ ของศิษย์ทุกคนอาจารย์เชื่อ ไม่ว่าศิษย์จะผิดโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ แต่สิ่งที่ศิษย์อยากได้จากคนอื่นก็คือ ให้อภัยฉันเถอะ  อย่าโกรธฉันเลย ฉันผิดไปแล้ว ถูกหรือเปล่า (ถูก)  ถ้ามนุษย์ทุกคนคิดได้อย่างนี้ เราก็คงไม่ทำร้ายกันให้เจ็บปวดจริงหรือเปล่า (จริง)
“แค่เพียงรู้น้อมรับฟังคำคน   ตามเหตุผลก็อาจฟังอยู่ร่วมได้”
ในโลกนี้ทุกคนต่างมีเหตุมีผล ทุกคนต่างมีความคิดเป็นของตัวเอง  แล้วใครถูกใครผิดละ  ว่ากันให้ถึงที่สุดไม่มีใครถูกไปตลอด  แล้วก็ไม่มีใครผิดไปตลอดจริงหรือไม่ (จริง)  ถ้ามีคนหนึ่งรู้จักยอมบ้างโลกนี้ก็คงจะสันติสุขไม่น้อย แต่ปัจจุบันนี้ไม่มีใครยอมใคร โลกเลยวุ่นวายไม่จบไม่สิ้นใช่หรือเปล่า
ฉะนั้นวันนี้ศิษย์มาศึกษาบำเพ็ญธรรม  แค่ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี  มีเวลาเสียสละตัวเองช่วยผู้อื่น ยากไหม  หน้าที่ของมนุษย์มีอะไรบ้าง  อย่าพึ่งมองไกล เอาใกล้ๆ ก่อน  ถ้าเราเป็นพ่อแม่ เรามีลูกเราควรทำอะไร  ถ้าเราเป็นลูกเราควรปฏิบัติอย่างไรต่อพ่อแม่  ถ้าเป็นพี่เป็นน้อง เราควรทำอย่างไรต่อน้อง และต่อพี่ ถ้าเราทำหน้าที่เป็นชาวสวนชาวไร่เราควรทำอย่างไรต่อความเป็นชาวสวนชาวไร่ใช่หรือไม่ (ใช่)  ถ้าทุกคนรู้จักรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตัวเอง มีความซื่อตรง มีความจริงใจ โลกนี้ก็คงไม่มีใครทำร้ายกันได้ลงเพียงเพราะผลประโยชน์ของตัวเองใช่หรือไม่ (ใช่)  โลกนี้ก็คงไม่มีพ่อแม่ที่ถูกทิ้งขว้าง ถ้ามนุษย์รู้จักหน้าที่ของตัวเองใช่หรือไม่ (ใช่)
จำไว้นะศิษย์ หน้าที่ของศิษย์ไม่ใช่จะมีอย่างเดียวไปตลอดชีวิต บางครั้งศิษย์เป็นลูก บางครั้งศิษย์เป็นพ่อแม่ บางครั้งศิษย์เป็นผู้นำ และบางครั้งศิษย์ต้องเป็นผู้ตามใช่หรือไม่ (ใช่)  เมื่อเป็นผู้นำเขา ศิษย์ไม่ควรห่างจากคำว่า “เมตตา” เมื่อเป็นผู้ตาม ศิษย์ก็ไม่ควรห่างจากคำว่า “เคารพและซื่อตรง” ถูกหรือไม่ (ถูก)  เมื่อเป็นสามี ศิษย์ก็ไม่ควรจากห่างคำว่าอะไร  เมื่อเป็นภรรยา ศิษย์ไม่ควรห่างจากคำว่าอะไร  เมื่อเป็นลูกเป็นหลานเขา ศิษย์ไม่ควรห่างคุณธรรมข้อไหน (กตัญญู)
กตัญญูคือทำอย่างไร ถ้ามนุษย์รู้จักพึงสังวรว่าตัวเองเป็นอะไร มีหน้าที่อะไรและไม่ลืมหน้าที่ที่ตัวเองเป็น โลกใบนี้ก็คงไม่มีใครถูกทอดทิ้ง โลกใบนี้ก็คงไม่มีใครทำร้ายใครได้ ใช่หรือไม่ (ใช่)  เพราะทุกคนต่างปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด
ถามว่าถ้าเป็นคนดีได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ทุกๆ คนก็อยากเป็น  ใช่หรือไม่ (ใช่)  แต่เพราะอะไรถึงพลาดผิดไป เพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบ  เพียงเพราะความเห็นแก่ตัว เพียงเพราะรักตัวเองจนลืมรักใครใช่ไหม (ใช่)  ถ้ามนุษย์เราบำเพ็ญธรรมรู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา รู้จักเคารพผู้อื่นเยี่ยงเคารพตัวเอง คนในโลกก็ทำร้ายกันไม่ลงหรอก ใช่หรือไม่ (ใช่)  ศิษย์อยากเป็นที่รักของทุกคนไหม  ศิษย์อยากเป็นที่เคารพของทุกคนไหม (อยาก)  ศิษย์อยากเป็นที่เชื่อถือศรัทธาของทุกๆ คนไหม  ถ้าอยากเป็นแล้วเราควรว่าเขาไหมที่เขาไม่รักเรา (ไม่ควร)  เราควรว่าเขาไหมที่เขาไม่เคารพเรา (ไม่ควร)  แต่ควรหันกลับมาถามตัวเองว่าเราทำอะไรให้น่ารักหรือยัง ใช่หรือไม่ (ใช่)  เขาไม่รักศิษย์ ศิษย์ทำอะไรให้เขาไม่รัก  ควรไหมที่จะไปโกรธเขา ควรที่จะโกรธตัวเอง ที่ทำอะไรหรือถึงไม่น่ารักพอที่จะทำให้เขารักลง ใช่หรือไม่ (ใช่)  
ฉะนั้นอาจารย์อยากพูดเหมือนที่มนุษย์ในโลกนี้ชอบพูด “เมื่ออยู่ก็จงให้เขารัก เมื่อจากไปก็จงให้เขาคิดถึง” ด้วยการทำหน้าที่ที่ตัวเองมี ที่ตัวเองเป็นให้ดีที่สุด อยู่ต่อหน้าเขาตอนนี้เรามีสถานะเป็นอะไร แก่กว่าหรือเปล่า ถ้าแก่กว่าก็จงรู้จักเมตตาต่อคนผู้น้อย ถ้าเกิดวัยเท่ากันศิษย์ควรจะซื่อตรงจริงใจ ให้เกียรติเขาเหมือนให้เกียรติตัวเองใช่หรือไม่ (ใช่)  ถ้าทุกขณะมนุษย์รู้จักพึงสังวรว่าตัวเองเป็นอะไร และควรจะทำอะไร คุณธรรมจะเป็นโซ่คล้องใจคนได้ใช่หรือไม่ (ใช่)  แล้วคุณธรรมอันนี้เป็นคุณธรรมของความเป็นคนถูกหรือไม่ (ถูก)
อายุมากแล้วหน้าบึ้ง ขี้บ่น ไม่มีเมตตา ใครจะรักไหม (ไม่มี)  กวักมือมาเรียกเขามาแล้ว ให้เงินเขาหนึ่งร้อยบาท พอเขาได้เงินเขาก็หนีท่านแล้วใช่หรือไม่ (ใช่)  แล้วอะไรที่จะทำให้เขารัก (ความดี ความเมตตา)  จิตใจที่เมตตา จิตใจที่รู้จักรักใช่หรือไม่ (ใช่)  ต้องรู้จักรักอย่างเท่าเทียม เคยไหมรักลูกในบ้านมากกว่ารักผู้อื่น แล้วถึงเวลาลูกมาดูแลเราไหม (ไม่ดูแล)  กลายเป็นคนนอกบ้านมาดูแลเราอีกใช่หรือไม่ (ใช่)  ฉะนั้นถ้าเรารักได้เท่าๆ กันลูกเราไม่อยู่ เราก็มีลูกคนอื่นให้รักได้ใช่หรือไม่ (ใช่)  เพราะเรารักได้เท่ากัน ไม่ลำเอียงถูกหรือไม่ (ถูก)  ถามใจตัวเองลึกๆ ศิษย์ชอบไหมคนลำเอียง (ไม่ชอบ)  ไม่ชอบใช่หรือไม่ (ใช่)  แล้วศิษย์ชอบไหมคนไม่ยุติธรรม (ไม่ชอบ)  แต่เมื่อไรที่มีลูกของศิษย์มา ครอบครัวของศิษย์มา ศิษย์ไม่ยุติธรรมทันที  ฉะนั้นเมื่อผิดถูกมาศิษย์ต้องยุติธรรม ไม่ว่าจะเป็นลูกหรือไม่ใช่ลูกเรา ศิษย์ก็ต้องซื่อตรง เพราะเมื่อถึงเวลาศิษย์ก็จะได้รับความยุติธรรมและความซื่อตรงตอบกลับมาถูกไหม (ถูก)  อยากให้คนอื่นปฏิบัติอย่างไร ตัวเองต้องปฏิบัติอย่างนั้นด้วย  
มนุษย์เสียความเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ เสียความเป็นคนที่ศักดิ์สิทธิ์ก็เพราะพูดพล่อยๆ  ถ้าพูดแล้วไม่คิดก็จะต้องคิดหนักในภายหลัง ฉะนั้นก่อนจะทำอะไร ก่อนจะพูดอะไรขอให้นึกถึงสภาพตัวเองด้วย ไม่เช่นนั้นแล้วจะลำบากใจ เพราะต้องรับผิดชอบกับคำพูดที่ตัวเองพูดไว้ ใช่หรือไม่ (ใช่)
มารยาทในสังคมอาจารย์เหมือนแขก ศิษย์เหมือนเจ้าบ้านใช่ไหม (ใช่)  ถ้าแขกมาถึงบ้านเรา เราต้องให้นั่ง แต่ถ้าแขกไม่นั่งเจ้าบ้านจะนั่งได้ไหม (ไม่ได้)  ฉะนั้นถ้าอาจารย์ยืน ศิษย์ก็ยืน ตกลงขอยืนหรือขอนั่ง ความคิดเริ่มต่อสู้กันเองแล้วใช่ไหม  ว่าจะรักตัวเองดีหรือรู้จักรักผู้อื่นดีใช่หรือเปล่า
ศิษย์เคยได้ยินไหมว่า ถ้ารู้จักรักผู้อื่นแล้วคิดถึงผู้อื่นก่อน ผลของการคิดถึงผู้อื่นและรักผู้อื่นก่อน ก็จะได้รับผลตอบแทนเอง  แต่ถ้าทุกครั้งคิดถึงตัวเอง  ห่วงตัวเองไม่เคยห่วงใคร แล้วใครจะมาห่วงเรา จริงหรือไม่ (จริง) ฉะนั้น ถ้าอาจารย์นั่งศิษย์จะ (ยืน,นั่ง)  แล้วอาจารย์ล่ะ (ถ้าเรานั่งพระอาจารย์ก็นั่งด้วย)  ถ้าเรานั่งอาจารย์ก็ต้องนั่งด้วยใช่ไหม  แต่ศิษย์อย่าลืมว่าถึงความหวังดีเราจะดีขนาดไหน แต่ใช่ว่าทุกคนอยากจะทำตาม และเห็นว่าการกระทำนั้นดีตามด้วย ถูกไหม (ถูก)  ศิษย์ว่าการนั่งเป็นสิ่งที่ดีใช่หรือไม่ (ใช่)  แต่คนบางคนเขาไม่อยากรับการนั่งล่ะ แล้วเราจะบังคับเขาได้ตลอดชีวิตไหมล่ะ (ไม่ได้)  
ฉะนั้นแม้สิ่งที่เราคิดว่าดีที่สุดแล้วเราให้เขา ก็ใช่ว่าเขาจะรู้สึกดีตามเราด้วย ตอนนี้ศิษย์คิดว่าการนั่งคือสิ่งที่ดี แต่ถ้าอาจารย์บอกว่าการนั่งอาจจะไม่ดีก็ได้ล่ะ  นั่งไม่นั่ง (นั่ง)  เอ้าเชิญศิษย์รักนั่งลงได้  
เรื่องง่ายๆ จะให้เข้าใจกันทั้งหมดและรู้เรื่องทั้งหมดเป็นไปได้ไหม (ไม่ได้)  ฉะนั้นเราอยู่ในโลกแค่คุยกันสองคนหรือคุยกับคนหนึ่งใช่ว่าเขาจะเข้าใจศิษย์ทั้งหมด ศิษย์คิดว่าศิษย์พูดชัดแล้ว ย้ำแน่ๆ แล้ว แต่ก็ใช่ว่าคนรับฟังเขาจะเข้าใจชัดกับศิษย์ ฉะนั้นการพูดคุยกับใครก็ตามยิ่งถ้าเป็นคำเตือนคำว่า ศิษย์จะต้องระมัดระวังและคิดไตร่ตรองให้จงหนัก จะเตือนใครจะว่าใครไม่รู้ว่าเขาจะเข้าใจศิษย์หรือเปล่า รับฟังดีก็ดีไป แต่ถ้ารับฟังไม่ดีก็เสียไป เป็นเรื่องธรรมดาใช่หรือเปล่า (ใช่)  ในโลกนี้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ศิษย์เจอนั้นล้วนเป็นเรื่องธรรมดา แต่ศิษย์มักจะชอบมองเรื่องธรรมดาให้ (ไม่ธรรมดา)  จริงหรือไม่ (จริง)
เราอยู่ในโลกนี้จริงๆ แล้วเรื่องราวในโลกนี้มีคนเข้าใจถูกก็มีคนเข้าใจผิดเป็นธรรมดา มีคนชอบก็มีคนว่าเป็น (ธรรมดา)  ใช่หรือไม่ (ใช่)  แต่เรามักมองเรื่องพวกนี้ให้ไม่ธรรมดาเพราะอะไร อย่างเช่นถามศิษย์ว่าหิวข้าวไหม กระหายไหม (ไม่กระหาย)  แต่ถ้าถามศิษย์ว่าตอนศิษย์หิวศิษย์นึกถึงอะไร (อาหาร, ข้าว)  บางคนนึกถึงข้าวมันไก่ บางคนนึกถึงก๋วยเตี๋ยว บางคนนึกถึงขนมจีน ใช่หรือไม่ (ใช่)  คิดถึงขนมจีนแล้วต้องบอกว่าต้องเป็นเจ้านั้นเจ้านี้นะ ต้องเป็นขนมจีนน้ำยานะ ต้องเป็นขนมจีนแกงป่านะ แกงไตปลานะ ใช่หรือไม่ (ใช่)  เราเคยคิดว่าหิวแล้วได้กินข้าวก็พอไหม (ไม่)  เรามักคิดว่าให้เรื่องหิวเป็นเรื่องไม่ธรรมดาได้ อย่างเช่นถ้าหิวข้าว ไม่กินข้าวที่บ้านต้องกินที่ร้านใช่ไหม (ใช่)  ไม่เดินไปต้องนั่งรถไป ร้านธรรมดาไม่นั่งต้องนั่งร้านดีๆ วันนี้มีเงินขอนั่งร้านดี เรื่องหิวก็กลายเป็นเรื่องไม่ธรรมดา ใช่หรือไม่ (ใช่)  เหมือนง่ายๆ เวลาศิษย์มองเด็กสักคนหนึ่ง ถ้าศิษย์มองคนนี้เป็นลูกของศิษย์ ศิษย์มองลูกเป็นลูกธรรมดาไหม (ไม่ธรรมดา)  ศิษย์มองอะไรในตัวเขาอีก มองอนาคต มองความคาดหวัง ใช่หรือไม่ (ใช่)  มองความแข็งแรง การเป็นเสาเป็นหลักให้กับพ่อแม่ ใช่หรือไม่ (ใช่)  มองว่าเขาจะต้องเติบโตเข้มแข็งเป็นที่ยึดเหนี่ยวให้กับเราเมื่อยามแก่เฒ่า ใช่หรือไม่ (ใช่)  ศิษย์มองเขาจากคนธรรมดาเป็นคนที่ไม่ธรรมดา จริงหรือไม่ (จริง)  แล้วเราจะเป็นอย่างไรเมื่อคนธรรมดากลายเป็นคนไม่ธรรมดาแล้ว (เป็นทุกข์) ใช่หรือไม่  เพราะเรามีแต่ความคาดหวัง และในความคาดหวังนั้นเต็มไปด้วยความยึดมั่นถือมั่นว่าเขาจะต้องเป็นอย่างนี้  แต่ศิษย์อย่าลืมนะว่า ความคาดหวังที่ศิษย์ปรุงแต่งจากธรรมดาที่ไม่ธรรมดานั้น กลายเป็นทำให้ศิษย์ลืมความเป็นจริงและตั้งตัวเองอยู่ในความประมาท เพราะในความธรรมดานี้เขาย่อมมีความเจ็บ ความตาย ความพลัดพราก ความล้มเหลว ความไม่แน่ไม่นอน ใช่ไหม (ใช่)  
ถ้าศิษย์ยึดมั่นกับความคาดหวัง ศิษย์ก็เตรียมทุกข์ได้เลย ถ้ายึดมั่นกับความเข้มแข็งก็เตรียมทุกข์ได้เลย ถ้ายึดมั่นกับความเป็นเสาหลักของเขา ก็เตรียมช้ำใจได้เลย อาจารย์ไม่ได้ดูถูกเขานะ อย่าลืมว่าผมดำไปก่อนผมหงอกก็มี จริงไหม (จริง)  คนที่วันนี้ศิษย์เลี้ยงมาแต่อ้อนแต่ออก ศิษย์ว่าเป็นคนดี แต่อนาคต ใครเป็นคนขีดเส้นให้เขาดีได้ตลอด ใช่ไหม ฉะนั้นมองคนธรรมดาไม่ธรรมดา ด้วยความยึดมั่นถือมั่นเมื่อไหร่ ด้วยความประมาทเมื่อไหร่ ศิษย์ก็กำลังปูทางทุกข์ให้กับตัวเอง
แล้วแค่ลูกไหม ที่ศิษย์มองไม่ธรรมดา บางครั้งศิษย์มองภรรยาตัวเอง ใช่ไหม  เหมือนตัวลูกมองแม่ แม่ฉันต้องไม่ขี้บ่น ภรรยาฉันต้องใจกว้างไม่จู้จี้ รับฉันได้ทุกอย่าง เราอยู่ร่วมกันอย่างคาดหวังและปรุงแต่ง มองสิ่งเป็นธรรมดาให้เป็นสิ่งไม่ธรรมดา ด้วยความประมาท ฉะนั้นทุกข์มาจากใดล่ะ (ใจ)  ดูง่ายๆ  ศิษย์มองสามีศิษย์ ว่าจะต้องเป็นผู้นำ ต้องหาเงินให้ใช่ไหม แต่ถ้าเกิดวันนี้หามาแล้วไม่ให้ท่านล่ะ ทุกข์ไหม ต้องซื่อสัตย์ใช่ไหม (ใช่)
ฝ่ายชายไม่ว่าผมดำผมหงอก อาจารย์ถามจริงๆ ใครเห็นคนสวยแล้วไม่มอง (ไม่มี)  ฉะนั้นคาดหวังเมื่อไหร่ คนที่เป็นผู้หญิงก็ต้องทุกข์  ถามศิษย์ฝ่ายหญิงก็ได้ ศิษย์เจอคนหล่อๆ ปากหวานกว่าสามีที่บ้าน ศิษย์ไม่เคลิ้มหรือ (เคลิ้ม)  ฉะนั้นเราอยู่ร่วมกัน ถ้าศิษย์รู้จักเข้าใจตัวเอง ศิษย์ก็จะรู้จักเข้าใจผู้อื่น ถ้าศิษย์มองเห็นตัวเองได้ชัดว่าเรามีความเป็นคนอย่างไร ศิษย์ก็จะมองเห็นความเป็นคนของผู้อื่นได้ชัด  แต่มนุษย์ในโลกนี้ทุกข์เพราะความยึดมั่นถือมั่นในตัวตน อาจารย์จึงอยากบอกว่าเมื่อไหร่ที่ศิษย์ยึดมั่นถือมั่นในตัวตน ในความคิดตน เมื่อนั้นศิษย์กำลังปูทางแห่งความบาปและความทุกข์ให้กับตัวเองทั้งนั้น
เหมือนอาจารย์แค่หยิบแอปเปิ้ล ใครบ้างไม่คาดหวังว่าหล่นมาตรงนี้ก็ดี ใช่ไหม (ใช่)  ศิษย์เคยมองแอปเปิ้ลเป็นแอปเปิ้ลไหม บางครั้งมองว่ามันต้องหวาน มันต้องอร่อย ใช่หรือไม่ (ใช่)  ถ้ากัดแล้วไม่หวานใครทุกข์ คนที่คิดคาดหวังใช่หรือไม่  ฉะนั้นจงมองทุกสิ่งเป็นธรรมดา มีหวาน มีเปรี้ยว มีสมหวัง มีผิดหวัง  
แล้วเมื่อศิษย์ไม่ยกอะไรจนสูงเกินไป ศิษย์ก็จะไม่เห็นอะไรต่ำเตี้ยเกินไป ถูกไหม (ถูก) แต่ศิษย์มักจะยกว่าเงินคือสิ่งที่ยิ่งใหญ่  ไม่มีเงินคือสิ่งที่ต่ำต้อย  จริงหรือ แต่อาจารย์เห็นออกบ่อยว่าคนมีเงินล้นฟ้าแต่ทำตัว (ต่ำต้อย) เพราะการได้เงินล้นฟ้าของเขา ทำให้ชีวิตเขาดูไร้คุณค่าใช่ไหม  อย่างนั้นอาจารย์อยากให้ศิษย์มีเงินน้อยๆ  แต่เป็นผู้ที่มีความเป็นคนประเสริฐ ไม่ดีกว่าหรือ
เหมือนถ้าอาจารย์ชูใบร้อยมาหนึ่งใบ ศิษย์คิดว่าอะไร เหมือนศิษย์ได้เงินมาห้าร้อย ศิษย์คิดว่าอะไร ศิษย์คิดว่าศิษย์ซื้อเสื้อใหม่ จะซื้อรถ ไม่เคยมองเงินเป็นเงิน ทำงานเพราะอะไร ไม่ใช่ทำงานเพราะอยากทำงาน แต่ทำงานเพราะว่าหวังเงิน ใช่หรือไม่ (ใช่) เราเลยทุกข์ที่ไม่ได้เงิน เราทำงานเพราะอยากได้ตำแหน่งเยอะๆ สูงๆ  ใครที่ปูทางทุกข์ให้กับตัวเอง แล้วอยากได้แอปเปิ้ลไหม (อยากได้)  แล้วจะสมหวังทุกคนไหม (ไม่) ฉะนั้นอยากดีไหม (ไม่ดี)
อย่างนั้นอาจารย์ถามต่อว่าแล้วมนุษย์เราทุกข์เพราะอะไร  (ทุกข์เพราะยึดติดกับสิ่งเหล่านั้น)  อย่าเอาแต่คิดไม่ลงมือทำ บางสิ่งบางอย่างก็ต้องกล้าที่จะไขว่คว้า สำเร็จไม่สำเร็จค่อยว่ากัน  ทุกข์เพราะอะไรคำถามง่ายๆ นะ (ใจ, อยากได้, ไม่ปล่อยวาง, โลภ โกรธ หลง, เจ็บไข้, ไม่รู้จักพอ, ไม่เข้าใจ, มีธรรมะในหัวใจไม่มั่น, ครอบครัวแตกแยก, ทำใจไม่ได้, รัก, คาดหวังมากเกินไป, ไม่สบายใจ,ใจยึดมั่น, สูญเสีย, ใจที่อยากได้ไม่ได้ดั่งที่หวังเอาไว้, โรค, เกลียด, ไม่สมหวัง, มีโรคอยู่ในตัว)
อยากให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วย ศิษย์ต้องช่วยตัวเองก่อน อย่าเอาแต่ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่ตัวเองไม่ทำอะไร ไม่มีทางได้หรอกนะใช่หรือไม่ (ใช่)  อยากรวยแต่ไม่เคยขยันทำมาหากิน สิ่งศักดิ์สิทธิ์จะให้รวยไหม
อาจารย์มาหรืออาจารย์แจกแอปเปิ้ล ไม่ใช่ให้ศิษย์มางมงายนะ การศึกษาหลักธรรมเพื่อเชื่อธรรมในหัวใจตัวเองใช่หรือไม่ (ใช่)  และก็ให้นำไปปฏิบัติไม่ให้เชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างงมงายโดยที่ไม่ลงมือปฏิบัติ
(ทุกข์เพราะไม่สบายใจ, ทุกข์เพราะเสียใจในสิ่งที่คาดหวัง, ไม่รู้จักปล่อยวาง, เพราะคิดมาก, ทุกข์เพราะต้องแบกความรับผิดชอบทุกอย่าง, เพราะหมดกำลังใจ, เพราะผิดหวัง)  มนุษย์ทุกข์เพราะสาเหตุอะไรอีกรู้ไหม (ทุกข์เพราะการเมือง)  ไม่ต้องไปยุ่งกับเขาหรอกนะ (ทุกข์เพราะไม่สวย, ทุกข์เพราะเจ็บ, ทุกข์เพราะพูดกับลูกไม่ค่อยรู้ฟัง) บางครั้งใช้การเงียบดีไหม ถ้าพูดเยอะแล้วเขาไม่ฟังก็ใช้เงียบดีกว่า (ไม่อยากให้เขากินเหล้า)  ยากหน่อยนะศิษย์นะ ยอมรับเขาดีกว่า แต่บอกเขาไปตรงๆ ว่ากินเหล้าแม่ไม่ว่า แต่ขอให้เป็น (คนดี)  เพราะเขาติดไปแล้วใช่หรือไม่ ทุกข์เพราะ (ทิฐิมากเกินไป, พลัดพรากจากสิ่งที่เรารัก)  แล้วในโลกมีใครไม่พลัดพรากบ้างใช่หรือไม่ (ทุกข์เพราะไม่ปล่อยวาง)  ทุกข์อีกอย่างหนึ่งที่มนุษย์ชอบเป็นกันนั่นก็คืออะไรรู้ไหม (ทุกข์เพราะไม่ได้ดั่งใจ)  ถ้าศิษย์มองเห็นว่าเรื่องเกิดขึ้น เรื่องตั้งอยู่ เรื่องดับไปเป็นเรื่องธรรมดา เรื่องแข็งแรงเรื่องเจ็บป่วยเป็นเรื่องธรรมดา เรื่องได้เรื่องเสียเป็นเรื่องธรรมดา เรื่องสุขเรื่องทุกข์มองเป็นเรื่องธรรมดา เหมือนกัน จิตศิษย์ก็คงราบเรียบไม่มีอะไรมากระทบกระทั่งใจของศิษย์ได้ใช่หรือไม่ (ใช่)  แต่เรามักจะมองว่าความสุขคือสิ่งที่สูง ความทุกข์คือสิ่งที่ต่ำ เมื่อเราแบ่งแยกอย่างเด่นชัด เรานั่นแหละคือผู้ที่ต้องเจ็บช้ำเพราะความแบ่งแยกจนเกินไป จริงหรือไม่ (จริง)
ฉะนั้นบางครั้งศิษย์จงอยู่กับปัจจุบัน ชีวิตมีแค่วันนี้ เดี๋ยวนี้ ใช่ไหม (ใช่)  ถ้าวันนี้ทุกข์ก็จงคิดเสียว่าทุกข์ให้ถึงที่สุดแค่วันนี้ พรุ่งนี้ไม่ใช่วันนี้แล้ว จริงไหม (จริง)  เราก็จะไม่ยึดติด เราก็จะไม่ลากทุกข์ไปจนถึงพรุ่งนี้ ใช่หรือไม่ (ใช่)  ศิษย์รู้ได้อย่างไรว่าศิษย์จะมีวันพรุ่งนี้ ใครกล้ารับประกัน ยกมือให้อาจารย์ดูหน่อย ใครคิดว่าตัวเองมีวันพรุ่งนี้บ้าง แน่ใจหรือ ใช่หรือไม่ (ใช่)  จริงๆ แล้วเรามีแค่วันนี้และเดี๋ยวนี้เท่านั้น อีกชั่วโมงหนึ่งศิษย์แน่ใจหรือว่าจะอยู่รอด แน่ใจไหม (ไม่แน่)  ถ้าเกิดมีระเบิดตกมาทีหนึ่งศิษย์กับอาจารย์ก็คงไปด้วยกัน แต่จะเดินทางเดียวกันหรือเปล่าก็ต้องขึ้นอยู่กับจิตขณะนั้นของศิษย์ด้วย และกรรมเวรของศิษย์ที่ทำมาด้วย ใช่หรือไม่ (ใช่)  เกิดเป็นคนถ้าไม่อยากทุกข์ก็จงอยู่กับปัจจุบัน แต่ศิษย์หลายคนมักจะบอกอาจารย์ว่าเมื่อก่อนเขาไม่ได้เป็นแบบนี้ ทำไมเดี๋ยวนี้เขาไม่เป็นแบบนั้น ทุกข์ไหม (ทุกข์)  ทุกข์เพราะอะไร เพราะเรายึดติดกับอดีตของเขา เมื่อก่อนเขาหวานกว่านี้ใช่หรือไม่ (ใช่)  แต่เดี๋ยวนี้ทำไมเขาเปรี้ยว เขาเค็มเหลือเกินถูกหรือไม่ (ถูก)  ลูกของศิษย์เอยตอนนี้เขาโตแล้วเขาไม่ใช่เด็กแล้ว เขาจะฟังเราเหมือนเมื่อก่อนไหม (ไม่เหมือน) ใช่หรือไม่ (ใช่)  เพื่อนศิษย์เอย เมื่อวานเขายิ้มให้ แต่วันนี้ทำไมเขาหน้าบึ้งให้ ใช่หรือไม่ (ใช่)  เมื่อวานเขายังพูดดีๆ กับศิษย์แต่ทำไมตอนนี้เขาแอบคดโกงศิษย์ ฉะนั้นจงอยู่กับปัจจุบัน อดีตผ่านไปแล้วใช่หรือไม่ (ใช่)  เพราะโลกแห่งความเป็นจริงล้วนเปลี่ยนแปลงทุกขณะ จิตใจของศิษย์เองก็ยังเปลี่ยนเลยใช่หรือไม่ (ใช่)  วันนี้นั่งแต่สักพักก็ต้องยืน ยืนเสร็จแล้วนั่งไหม (นั่ง)  ไม่แน่หรอก มั่นใจหรือว่าจะได้นั่ง อาจจะไม่ได้นั่งเลยก็ได้ ใช่ไหม (ใช่)
(พระอาจารย์เมตตาประทานเพลงพระโอวาท ชื่อเพลง “ให้อภัยกัน”)  อยู่ร่วมกันเคืองกันบ้าง ทะเลาะกันบ้างถึงที่สุดก็จงให้อภัยกันดีไหม แม้เราจะไม่เข้าใจว่าคนบางคนในโลกทำไมถึงเป็นคนไม่ดี แต่สักวันหนึ่งถ้าศิษย์มองด้วยจิตใจที่เป็นธรรม ศิษย์ก็จะรู้เหตุผลของความผิดพลาดของเขาได้ใช่หรือไม่ (ใช่)
(พระอาจารย์เมตตาประทานพระโอวาทซ้อนโอวาท คำว่า “พึงมีสติตามทัน”)  การบำเพ็ญธรรมของศิษย์นั้นสามารถบำเพ็ญได้ทุกขณะทุกเวลา ขอเพียงมีสติ รู้ตัวตนว่าจะทำอะไร ก็ยากที่จะมีอารมณ์มาครอบงำ เมื่ออารมณ์ไม่ครอบงำ จิตของศิษย์ก็สามารถที่จะรักษาความบริสุทธิ์และเที่ยงตรงได้ใช่หรือไม่ (ใช่)  โลกนี้สวยงามมากแค่ไหน น่าปรารถนาเพียงใด แต่ถึงที่สุดแล้วอาจารย์ว่ามันก็ล้วนเป็นธรรมดาใช่หรือไม่ (ใช่)  ของไม่ว่าจะดีจะสวยขนาดไหนถึงที่สุดแล้วก็ไม่พ้นวัฎฎะของการเกิดตาย  แม้แต่ตัวศิษย์เองถูกหรือเปล่า (ถูก)  หวังความแข็งแรงไปเพื่ออะไร หวังความมั่งมีไปเพื่ออะไร เพราะถึงที่สุดแล้วคนแข็งแรงหรือไม่แข็งแรงก็ต้องตายเหมือนกันใช่หรือไม่ (ใช่)  ความตาย ความเจ็บป่วย การพลัดพราก เป็นเรื่องธรรมดาของทุกชีวิตที่จะต้องเจอใช่หรือไม่ (ใช่)  ฉะนั้นขอให้ศิษย์มีสติตามทัน รู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่มากระทบจิตกระทบใจหรือมากระทบชีวิต ล้วนเป็นธรรมดาที่ใครๆ ก็ต้องเจอใช่หรือไม่ (ใช่)  มีใครในโลกบ้างที่ไม่ต้องสูญเสีย มีใครในโลกบ้างที่ไม่ต้องพลัดพราก มีใครในโลกบ้างที่ไม่ต้องเจ็บป่วย ทุกคนล้วนต้องเจอ แต่จิตใจที่รับสภาพกับความเจ็บป่วย ความพลัดพราก ความสูญเสียต่างหากที่ศิษย์ต้องรักษาให้ดี อย่าให้สูญเสียความเป็นคนไปจริงไหม (จริง)  อย่าปล่อยให้ความอยากทำร้ายความเป็นคน อย่าปล่อยให้ความโมโหทำให้สูญเสีย ความเป็นผู้ประเสริฐ อย่าปล่อยให้ความพลัดพรากมาทำให้เราสกัดกั้นอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ เสียใจจนเป็นบ้าเป็นหลัง อย่างนี้ไม่เรียกว่าผู้บำเพ็ญ
ผู้บำเพ็ญคือต้องมีสติตามเท่าทันอารมณ์ที่มากระทบจิตกระทบใจ สามารถมองออกได้ว่าเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปเป็นเรื่องธรรมดา ใครๆ ก็ต้องเจอใช่หรือไม่ (ใช่)  เมื่อมองเป็นสิ่งเดียวกัน อะไรก็มากระทบจิตกระทบใจให้เราทุกข์ไม่ได้ ฉะนั้นขอให้ศิษย์รู้จักบำเพ็ญให้เป็น มีสติตามเท่าทัน รู้จักปล่อยวางตัวตน ถ้าไม่ฆ่าตัวตนศิษย์ก็จะเป็นผู้ที่ทุกข์เพราะตัวตนจนวันตายจริงไหม (จริง)  ฉะนั้นรู้จักฆ่าตัวตนด้วยการปล่อยวางบ้าง คนที่รู้จักปล่อยวางตัวตนได้จะสามารถสร้างทานที่ยิ่งใหญ่ได้  คนที่ไม่สามารถปล่อยวางตัวตนได้จะไม่สามารถสละทานที่ยิ่งใหญ่ได้เลยใช่หรือไม่ (ใช่)  เพราะมีตัวมีตนจึงทุกข์ เมื่อไร้ตัวไร้ตนทุกข์ก็ไม่มีจริงไหม (จริง)
อาจารย์อยากบอกศิษย์เป็นเรื่องสุดท้าย อาจารย์ไม่ให้ศิษย์มาศรัทธาในตัวอาจารย์ มาเชื่อมั่นในตัวอาจารย์ แต่อาจารย์อยากให้ศิษย์ศรัทธาในความดีของตัวศิษย์เอง ถึงจะเลวร้ายขนาดไหน อาจารย์ก็เชื่อว่าลึกๆ ก็มีดี ถึงจะขี้โมโหขนาดไหน แต่ลึกๆ ก็อยากใจเย็น จริงไหม (จริง)  คนที่เกิดมาแล้วนิ่งไม่ได้คนนั้นก็จะเย็นไม่เป็นหรอก ใช่หรือไม่ (ใช่)  ถ้าไม่รู้จักยอม ก็เป็นสุขไม่ได้ ถูกหรือไม่ (ถูก)  ฉะนั้นอะไรที่ทำให้เราเป็นคนใจเย็น มีสติตามทัน มีความเมตตา มีจิตใจที่รู้จักผิดชอบชั่วดี มีความละอายเกรงกลัวต่อบาป มีจิตใจที่รู้จักเห็นอกเห็นใจผู้อื่น สิ่งเหล่านี้มีอยู่ในตัวศิษย์ไหม (มี)
ถามลึกๆ ศิษย์ที่นั่งอยู่ในที่นี้สงสารคนอื่นเป็นไหม (เป็น)  แล้วถ้าเรารู้จักแผ่ความสงสารให้มากๆ เราจะทำร้ายคนอื่นได้ลงไหม (ไม่ลง)  รู้จักละอายเกรงกลัวต่อบาป เราจะทำผิดกฎหมายไหม (ไม่ทำ)  แล้วเราจะกลายเป็นคนอกตัญญู ไม่ดูแลพ่อแม่ไหม (ไม่)  ขอเพียงอย่าปล่อยให้อารมณ์ครอบงำ อย่ารักตัวเองจนรักคนอื่นไม่เป็นเท่านั้นก็พอ ใช่หรือไม่ (ใช่) คนที่ทำเพื่อตัวเองมีเยอะแล้ว แต่คนที่ทำเพื่อผู้อื่นมีน้อยเหลือเกินในโลกใบนี้ ฉะนั้นเราศึกษาบำเพ็ญธรรมเพื่อรู้จักสละตัวตนเพื่อช่วยผู้อื่น และสร้างทานอันยิ่งใหญ่ด้วยการปล่อยวางตัวตนและไปช่วยผู้อื่น เพราะมีตัวตนจึงมีทุกข์ เมื่อไรลืมตัวตน ปล่อยวางตัวตนได้ ทุกข์ก็ไม่ค่อยมี จริงไหม (จริง)  สิ่งที่อาจารย์ควรพูดก็พูดไปแล้วในระดับหนึ่ง แต่จะได้หรือไม่ได้ก็ขึ้นอยู่กับศิษย์แล้ว อาจารย์เป็นเพียงผู้ชี้ทาง จะเดินหรือไม่เดิน จะทำหรือไม่ทำ ขึ้นอยู่ที่ตัวศิษย์เอง อาจารย์ไม่สามารถพาศิษย์ข้ามไปถึงฝั่งนิพพานได้ ถ้าศิษย์ไม่เอาสิ่งที่อาจารย์พูดไปกระทำ ถูกไหม (ถูก)  ทุกข์กับสุขล้วนอยู่ระนาบเดียวกัน คือจุดๆ เดียวกัน ถ้าผู้มองเห็นทุกข์แล้วสามารถพลิกเป็นสุขได้ ในโลกนี้ก็ไม่มีอะไรเรียกว่าทุกข์อีกต่อไป ใช่หรือไม่ (ใช่)
วันนี้อาจารย์ก็คงมาเพียงแค่นี้  ถึงเวลาอาจารย์ก็ต้องไปแล้ว มีโอกาสก็จะได้พบกันอีก ต้องศึกษาเรื่อยๆ  จะได้เข้าใจสิ่งที่อาจารย์พูด ศิษย์ยังเป็นศิษย์ของอาจารย์ แล้วก็ยังจะเป็นต่อไป ฟังรู้เรื่องหรือเปล่า  เชื่อไม่เชื่อไม่เป็นไร ขอเราทำแต่ความดี มีโอกาสจะมาพบอาจารย์อีกไหม  อย่าจากแล้วจากเลย
(พระอาจารย์เมตตาเดินไปจับมือกับนักเรียนในชั้นเรียน)  รักอาจารย์ก็ต้องรักตัวเอง และรักผู้อื่นด้วย วันนี้จากไปแล้ว แต่คงไม่ใช่จากกันตลอดไป ขอให้จากวันนี้ เพื่อวันหน้าจะได้กลับมาพบกันอีก

พระโอวาทซ้อนพระโอวาท  “พึงมีสติตามทัน
ผ่านแค่ไหนแข็งใจแค่นั้น  เหตุการณ์ผันหัวใจต้องตรง  เมื่อถูกรุกบอกใจอย่าหลงต่อความเจ็บช้ำ  เมื่อชาตินี้ได้เกิดมาพบกัน ก็จงทำให้ดีที่สุด  อยู่ใกล้นักมักระวังยาก  อาจกระทบทุกข์ใจสุขใจ  ฉุดผู้ล้มไม่ข้ามซ้ำเติม อยู่ใกล้ก็ยิ่งสมควรใหญ่   ชีวิตมีหลากหลาย ลืมวันวานที่แล้วมาให้อภัยกัน


พระอาจารย์เมตตาแก้ไขพระโอวาทที่จัดทำผิดพลาด ของชั้นประชุมธรรม ณ สถานธรรมอิ๋งเซียน ดอนเมือง กทม. เมื่อวันที่ ๑๕-๑๖ สิงหาคม ๒๕๕๒
หน้า ๑ บรรทัดสุดท้าย วรรคแรก
จาก จิตตื่นเป็นคุณกว่าแห่งวิชา
แก้เป็น จิตตื่นเป็นกว่าคุณแห่งวิชา
หน้า ๑๖ บรรทัดที่ ๑๒ เพลง
จาก รู้สึกว่าว่างเปล่าเพราะว่าลืมตัวแท้ไป
แก้เป็น รู้สึกว่าว่างเปล่าก็เพราะลืมตัวแท้ไป
พระโอวาทครอบ บรรทัดที่ ๖ จากล่างของพระโอวาทครอบ
จาก จิต   ตื่น   เป็น   คุณ   กว่า   แห่ง   วิชา
แก้เป็น จิต   ตื่น   เป็น   กว่า   คุณ   แห่ง   วิชา
พระโอวาทซ้อน กลอนบรรทัดสุดท้าย
จาก แม้ชอบสุขแต่ว่าทุกข์มากมีกว่า
แก้เป็น แม้ชอบสุขแต่ว่าทุกข์มากมีคุณกว่า

อ่านต่อ...

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

ค้นหา