วันอาทิตย์ที่ 17กันยายน 2000 สถานธรรมหยูซื่อ ไมอามี่
พระโอวาทท่านหนันผิงเซียนถง
ต่อกรกับศัตรูที่ไร้รูปลักษณ์ ต้องตระหนักจิตตนเข้มแข็งพอไหม
ความเจ็บป่วยยากจนคนไม่พอใจ กิเลสร้ายโลภโกรธหลงจิตฉันทา
เราคือ
หนันผิงเซียนถง รับบัญชาจาก
พระอนุตตรธรรมมารดาผู้เมตตา ลงสู่สถานธรรมหยูซื่อ แฝงกายกราบ
องค์มารดา ถามเซียนถงน้อยน้อยมีความสุขหรือเปล่า
โปรดสนใจสละเวลามาสถานธรรม และไม่ย่ำอยู่กับที่ไม่ก้าวหน้า
มีปัญหาต้องแก้ไขด้วยปัญญา อันเมตตาหมั่นแสดงออกทั้งนอกใน
ศึกษาแล้วต้องฝึกหัดปฏิบัติเป็น ความลำเค็ญทำให้คนนั้นยิ่งใหญ่
อย่าได้กลัวอุปสรรคที่สอนใจ หัดครวญใคร่อย่างกล้าหาญผ่านแน่เอย
ตั้งจุดหมายแห่งชีวิตกันดีไหม ต่อความหลงมากมายให้เพิกเฉย
ต่อความคิดดีงามให้ยาวเอย อย่าละเลยชีวิตตนสักนาที
กายอันนี้เป็นกายปลอมไม่ยาวนาน กลับคืนบ้านหลุดพ้นด้วยไม่คิดหนี
หันหน้าสู้ความจริงทั้งชีวี เพราะเวลาวารีไม่คอยใคร
มีโอกาสวันหน้ามาเจอกันอีก ดังติดปีกสู่ฟ้าที่สว่างใส
ไม่กลัวยากกลัวแต่ท่านไม่มีใจ บำเพ็ญยุคปลายต้องไร้จิตอวิชชา
ฮิ ฮิ หยุด
หมายเหตุ : กลอนที่ขีดเส้นใต้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เมตตาให้นักเรียนในชั้นร่วมแต่ง
พระโอวาทท่านหนันผิงเซียนถง
มีคนคิดถึงเราหรือเปล่า(คิดถึง) แล้วเราเป็นใครล่ะ (ไม่ทราบ) ไม่ทราบแล้วมาคิดถึงเราได้อย่างไร เวลาคิดถึงคนต้องรู้จักชื่อคนที่เรา คิดถึง ไม่อย่างนั้นคิดถึงไม่ถูก ที่นี้ท่านก็คิดถึงแต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่สนใจว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์องค์ไหน ขอให้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ใช้ได้ แสดงว่าทุกท่านก็ติดรูปลักษณ์ใช่หรือเปล่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่ตรงนี้เต็มไปหมด ท่านก็มองไม่เห็น ท่านก็ไม่รู้ ท่านก็อยากจะดูใช่หรือเปล่า (ใช่) อย่างนี้ดีหรือไม่ (ไม่ดี) ไม่ดีเลย ถ้าวันนี้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่มาเป็นยังไง (เสียใจ)ทำไมเสียใจง่ายจัง เวลาสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาท่านก็ยึดแต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เวลาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไปแล้วท่านจะยึดอะไรล่ะ ต้องหัดยึดสัจธรรม สัจธรรมแปลว่าอะไรล่ะ
ในวันนี้ทุกท่านมาสถานธรรมไม่ใช่เป็นครั้งแรก อาจจะเป็น ครั้งที่เท่าไรก็ได้ แล้วแต่???•บ่อย เรามาสถานธรรม ก็เพื่อจะศึกษาธรรมะ ธรรมะนั้นอาจจะแปลว่าเป็นความดี ในภาษาจีน อาจจะแปลว่าทาง ส่วนสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็นรูปลักษณ์ ถ้าท่านยึดแล้ว ก็จะมีแต่การเข้าไม่ถึงธรรมะที่แท้จริง การศึกษาสัจธรรมก็เพื่อที่จะเอา มาใช้ สัจธรรมแปลว่าธรรมะที่เป็นความจริง แปลง่ายๆ ตรงตัว แต่ที่เราให้ทุกท่านแปล เพื่อให้พวกท่านรู้ว่าท่านยังเข้าไม่ถึงสัจธรรมเลย ทุกวันนี้ก็ยังมีทุกข์อยู่ ทุกวันนี้ก็ยังมีสุขอยู่ ทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้นำธรรมะมาใช้ ในชีวิตจริงๆ จึงยังมีสุขและทุกข์ เวียนว่ายตายเกิด ทั้งๆที่ยังไม่ได้ ตายลงเลย ถ้าอยากพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด ก็ต้องศึกษาสัจธรรม และนำมาใช้ นำมาปฏิบัติ ทุกท่านจะเข้าถึงคำว่าสัจธรรมคำนี้ได้ ต่อเมื่อทุกท่านได้ลงมือบำเพ็ญแล้วเท่านั้น หากไม่ลงมือบำเพ็ญก็ไม่ได้ เข้าถึงคำว่าสัจธรรม แม้จะมีคนที่อธิบายได้ดีกว่าทุกท่านตรงนี้ อธิบายได้ดีกว่าคนที่ยืนเมื่อสักครู่นี้ทั้งหมด แต่หากว่ากระทำไม่ได้ นำไปใช้ไม่ได้ ปฏิบัติไม่ได้ ก็ถือว่าเข้าไม่ถึงเหมือนกัน เพราะฉะนั้น ไม่ว่าคำแปลของท่านจะดีหรือไม่ดีอย่างไร ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องไปกลุ้มใจ จะกลุ้มมากๆ ก็ตรงที่ทุกท่านรู้แล้วแต่นำไปปฏิบัติไม่ได้ ในเมื่อรู้ว่าการที่ เราโกรธนั้นเป็นเรื่องไม่ดี ก็ต้องโกรธน้อยๆ เพราะว่าทำใจได้ จึงโกรธน้อยลง แต่หากว่าท่านหายโกรธไม่ได้ ระงับอารมณ์โกรธของ ตัวเองไม่ได้ ก็แสดงว่าท่านยังเข้าไม่ถึงสัจธรรม
ต่อกรกับศัตรูที่ไร้รูปลักษณ์
มีอะไรบ้างที่เป็นศัตรูที่ไร้รูปลักษณ์ของพวกท่านความที่คนไม่พอใจเรา กิเลสรัก โลภ โก?? หลง ทั้งหลายนี้เป็นสิ่งที่ไม่มีรูปลักษณ์ เราต้องต่อสู้กับสิ่งเหล่านี้ให้ชนะให้ได้ สิ่งที่ไม่มีรูปลักษณ์เหล่านี้ท่านจะต่อสู้กับเขา??????(ด้วยจิตใจ,ใช้ธรร?)(????????ร้องเพลงต้อนรับ เพื่อต้อนรับสิ่งศักดิ์สิทธิ์) คนที่ร้องไม่ได้แสดงว่าไม่เก่าจริง วันนี้ชั้นเรียนญาติธรรมอะไร (ญาติธรรมเก่า) เก่าอะไร อะไรเก่า (เก่าเพราะอยู่นาน)เก่าเพราะ บำเพ็ญเท่าไหร่ก็เหมือนเก่า ไม่มีอะไรก้าวหน้าขึ้นเลยใช่หรือเปล่า คำว่าเก่านี้อะไรเก่า เก่าอายุเยอะหรือเปล่า เก่าเพราะว่าแก่แล้ว ใช่ไหม(ไม่ใช่) คำว่าเก่านี้แสดงว่าเรามีอายุทางธรรมมากขึ้นใช่หรือไม่ (ใช่) อายุทางธรรมของเรามากขึ้น อายุทางโลกของเราก็มากขึ้น เราจะปล่อยให้อายุมากขึ้น อายุทางธรรมก็มากขึ้น แต่ไม่มีอะไร เปลี่ยนแปลงเลยไม่ไ?? เพราะว่าการบำเพ็ญธรรมก็คือการเปลี่ยนแปลง ตัวเราเองไปในทางที่ดี ถ้าหากว่าเปลี่ยนแปลงตัวเองแล้วไม่ยอมดีขึ้นสักที ก็เรียกว่าไม่ได้เปลี่ยนแปลง เรียกว่าเป็นคนที่พยายามแล้วยังไม่ได้ลงมือ ก็จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ฉะนั้นต้องยอมลงมือสักทีดีหรือไม่ (ดี) กินเจหรือยัง(กินแล้ว) มีเวลาว่างมาสถานธรรมหรือเปล่า(มา) เวลา คนเขายั่วโมโหโกรธไหม(ไม่โกรธ) เวลาคนเขาขโมยเงินไปโมโหไหม
คำว่าญาติธรรมเก่านั้น จะต้องมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปได้บ้าง จากกิเลสหยาบที่ท่านได้รู้จักดี จากกิเลสที่ท่านมีอยู่ ทุกวันจะต้องดีขึ้น เรื่อยๆ คนที่ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ คนที่เล่นการพนัน ก็ต้องเลิกให้ได้ นี่เรียกว่าการเลิกกิเลสหยาบเฉพาะตัวของเรา
เดี๋ยวร้องเพลงอีกรอบหนึ่ง เอาแบบยิ้มหวานๆ แต่ว่าเวลาเรายิ้ม เราต้องยิ้มออกมาจากความจริงใจ ถ้าหากว่าไม่จริงใจ ยิ้มออกมา เราก็รู้สึกแย่เองใช่ไหม เพราะฉะนั้นต้องยิ้มออกมาแบบจริงใจ ปรบมือให้ประสานกับเสียงเพลง ?????แสดงถึงความสามัคคีและมีพลังของ พวกเรา เอาออกมาจากใจของเราเลย เพราะว่าคนถ้าหากว่ามีใจ ก็ทำได้ทุกอย่าง เหมือนคนตกใจ เวลาไฟไหม้บ้านก็ยกโอ่งออกมาทั้ง?ล? เพราะว่าใจมีพลัง ???ร่างกายยังเจ็บป่วยเหมือนเดิม แต่ไฟไหม้บ้าน ตกใจก็เลยอุ้มออกมาเลย เพราะฉะนั้นเวลาเรามีใจจะบำเพ็ญธรรมะ เราก็มีแรงยกโอ่งเหมือนกัน เชื่อตัวเองไหม (เชื่อ)
วันนี้มาฟังธรรมะแล้วก็ต้องเก็บไปปฏิบัติให้หมด ถ้ามีเวลาว่างก็ต้อง มาสถานธรรมบ่อยๆ ถึงแม้ว่าจะไม่มีคนที่สามารถจะสอนธรรมะ ให้พวกท่านได้ แต่พวกท่านรู้ไหมว่า ถ้าหากพวกท่านขยันมาสถานธรรม แม้แต่พวกท่านกัน??ท่านก็สามารถที่จะแลกเปลี่ยนข้อธรรมะต่อกันไ?? ไม่แน่คนที่อยู่ที่นี่ อาจจะมีใครที่เก่งยิ่งกว่าอาจารย์บรรยายธรรม ???? เก่งยิ่งกว่าอาจารย์ถ่ายทอดเบิกธรรมก็ไม่แน่ เราก็ยังสามารถที่จะ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่อกันได้ เวลาท่านมาสถานธรรมท่านก็เหมือนกับ ก้อนหินก้อนหนึ่ง ????ลี่ยมมีมุมเยอะ เวลาท่านเข้ามาถึงสถานธรรม ในสถานธรรมก็เหมือนตระแกรงร่อนอันหนึ่ง ???ร่อนท่าน เวลา•?? เหลี่ยมขัดกันเป็นยังไง เจ็บไหม (เจ็บ) นิดหน่อยนะ ไม่มากหรอก แต่ว่าก็ต้องโดนกันบ้าง ในที่สุดแล้วขัดกันมากๆ เป็นยังไง ก็จะไม่มีคม จิตของพวกท่านก็คือก้อนหินที่เราเปรียบเทียบนี้ จิตของท่านก็จะกลมใ? ฉะนั้นเราอยากให้พวกท่านมาสถานธรรมบ่อยๆ เพื่อที่จะมาขัดเกลา จิตของตัวเอง แม้ว่าจะไม่มีใครสามารถที่จะสอนพวกท่านได้ ท่านเองเมื่อเข้ามาในสถานธรรม พบผู้ร่วมบำเพ็ญธรรมด้วยกัน ถ้าหากว่าคนนั้นเขาติท่านหน่อย คนนี้เขาชมท่านหน่อย ท่านจะเลือกชอบ แต่คนที่ชมท่าน แล้วก็ไม่ชอบคนที่ติท่านได้หรือไม่ (ไม่ได้) เราก็ต้องชอบทั้งหมดใช่หรือไม่ เมื่อมีคนติ เราก็ยิ้มให้ ยิ้มแล้วก็ขอบคุณ การยิ้มต้องยิ้มออกมาจากใจจริงๆ เวลาคนยิ้มแล้วไม่ได้ออกมาจากใจ ท่านดูออกไหม(ดูออก)ชอบไ?ม(ไม่ชอบ) ฉะนั้นเวลา•??ยิ้มให้ใคร ก็ต้องยิ้มออกมาจากใจจริ ดีใจก็ดีใจออกมาจากจิตใจ หากท่านโกรธ ก็อย่าโกรธไปทั้งวัน เวลาเราโกรธใคร ส่วนใหญ่เราจะโกรธ ข้ามวันเลยใช่ไหม (ใช่) ไม่ใช่โกรธแค่วันเดียว แต่โกรธสองวัน สามวัน คนที่ท่านโกรธ เขารู้ไหม (ไม่รู้) เขาไปไหนแล้วก็ไม่รู้ เหลือแต่ใครโกรธ (ตัวเราเอง) เหลือแต่ตัวเรา จุดไฟใส่เชื้อ เป็นไงเผาตัวเองจนไม่เหลือแล้ว เพราะฉะนั้นถ้าหากว่ามีความโกรธ ก็อย่าโกรธไปทั้งวัน ขอแค่ชั่วโมงหนึ่งพอไหม แต่ชั่วโมงนี้ห้ามออกไป เจอหน้าใคร ไม่อย่างนั้นคนนั้นก็จะโดนเราพาลใส่ใช่หรือไม่ (ใช่) โกรธได้สัชั่วโมงนี่น่าจะพอแล้วนะ เยอะไหม (เยอะ) สมมติว่าในหนึ่งสัปดาห์ ท่านต้องเจอคนที่ทำให้โกรธหนึ่งครั้ง เดือนหนึ่งท่านต้องโกรธ?ี่ครั้ง (4 ครั้ง) ปีหนึ่งท่านต้องโกรธกี่ครั้ง ตั้งหลายครั้ง กิเลสไม่ได้มีแค่ความโกรธอันเดียว ยังมีโลภ ยังมีหลงอีก พอหนึ่งปีผ่านไปท่านก็ย่ำอยู่ที่เดิม ฉะนั้นต้องให้เป็นคนที่มีความโกรธน้อยๆ ถ้าหากว่าไม่โกรธได้ยิ่งดี ไม่จำเป็นว่าต้องสองชั่วโมง ถ้าไม่โกรธได้ ก็เป็นผลดีต่อใคร (ตัวเราเอง)
(สิ่งศักดิ์สิทธิ์เมตตาให้นำโต๊ะออกมา • กลุ่ม, ฝ่ายหญิง??ตัวแทน??กลุ่ แต่ละกลุ่มให้จัด แอ๊ปเปิ้ลใส่พาน จัดให้สูงที่สุด ยิ่งสูงยิ่งชนะ) คนที่มา สถานธรรมที่นี่??่อให้ท่านเป็นคนเก่าจริง????ไม่จริง ท่านก็ต้องเป็นคนที่มา จัดผลไม้ ท่านจะรอให้คนอื่นจัดก็ไม่ได้ ที่นี้ก็จัดให้สูงที่สุดเลย
(นักเรียนจัดผลไม้เสร็จ โดยมีฐาน???ลูก และซ้อนขึ้นไปอีก???ลูก) เวลาให้จัดสูงๆ แล้วจัดยากไหม (ยาก) ถ้าหากว่าเราจัดแบบนี้ เวลามีคนมาชนโต๊ะ(ผลไม้หล่นจากพานๆหนึ่ง) มีอีกพานที่อยู่ได้ใช่ไหม พานนี้หล่นไปแล้ว แล้วทำยังไง (สิ่งศักดิ์สิทธิ์เคาะโต๊ะ) หล่นหมดเลย แสดงว่า คน???เวลายิ่งขึ้นไปสูงเท่าไหร่ ยิ่งปลอดภัยหรือไม่ปลอดภัย(ไม่) ถ้า???เมื่อสักครู่จัดแบบเตี้ยที่สุด (สิ่งศักดิ์สิทธิ์จัดผลไม้แบบฐาน???ลูก แล้วซ้อนขึ้นไปอีกลูก และอีกลูกวางไว้ข้างนอก แล้วเคาะโต๊ะ) ล้มไ?ม(ไม่ล้ม) คนๆนี้ดูเหมือน เตี้ยและต่ำต้อยที่สุด แต่เขามั่นคงที่สุด ก็คือสูงที่สุดนั่นเอง เพราะว่ามีฐานอยู่??? แต่คนที่นี้มีฐานอยู่??? แม้จะมองอย่างนี้ก็คือเตี้ยและต่ำต้อย แต่ในความเป็นจริงแล้วก็คือสูงที่สุด ฐาน??? ถึงแม้ว่าจะดี แต่เอาเข้าจริงๆ เขาก็ยังไม่มั่นคงพอ ฉะนั้นแม้ว่า ท่านจะเป็นคนที่มีคนอื่นเขาดีกว่าเรา เหนือกว่าเรา มีเงินมากกว่า มีความสามารถมากกว่า นั่นไม่สำคัญ แต่สำคัญที่ว่าท่านสามารถตั้งตัวเอง ให้มั่นคงอย่างนี้ได้หรือไม่ เวลาท่านโดนใครกระทบ คำพูดกระทบ เวลาท่านโดนเศรษฐกิจกระทบ ล้มไม่ล้ม (สิ่งศักดิ์สิทธิ์เคาะโต๊ะ) แต่คน???•นี้หล่นหมดเลย คนที่บำเพ็ญธรรมจึงต้องรู้จักที่จะวอนขอ ให้ตัวเองนั้นสูงและมั่นคง อย่าสูงด้วยการเปรียบเทียบกับตรงนี้และตรงนั้น ถ้าหากท่านอยากได้ที่????,ที่??,หรือที่??? ท่านจะเดือดร้อนไม่มีวันสิ้นสุด
ที่นี้จัดให้สูงใหม่ กลุ่มเดิม (จัดผลไม้เสร็จ) มั่นคงไ?ม (มั่นคง) จัดล้นออกมาเท่านี้ยังบอกมั่นคงอีก ถ้าหากว่าท่านจะจัดเหมือนกับที่เราจัด เมื่อสักครู่นี้ แล้วมีอีกผลหนึ่งตั้งอยู่ข้างนอกก็ไม่เห็นเป็นไรนะ ทำไมต้อง ยึดติดว่าทุกอย่างจะต้องลงไปให้หมด แสดงว่าท่านมีอะไร ท่านจะทุ่มไป ทั้งใ? ไม่เผื่อใจเอาไว้ข้างนอกเผื่อใจไว้ผิดหวัง นี่คือการทุ่มลงไป ให้หมด (สิ่งศักดิ์สิทธิ์ชี้ไปที่พานที่นักเรียนจัด) เหมือนคนลงทุน ทำการค้า มีเท่าไหร่ก็ทุ่มลงไปหมด พอถึงเวลาพังก็พังหมด ไม่เผื่อใจไว้ผิดหวัง
ในสถานธรรมนั้นคนที่จัดผลไม้ก็นิยมจัดให้สูงๆอย่างนี้ ถ้าหากท่าน จะจัดสูงอยู่บนโต๊ะพระก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าท่านจัดชีวิตของท่านให้สูงก็จะมี อันตราย ที่ยกผลไม้ตรงนี้ขึ้นมาก็เพื่อสอนให้ท่านเห็นชีวิต นี่คือสัจธรรมชีวิต คือความเป็นจริงของชีวิตที่ทุกท่านสามารถมองเห็นได้ เป็นรูปลักษณ์ ถ้าหากท่านจะรู้จักเปรียบเทียบในทางที่ถูกต้อง ก็จะทำให้ พวกเรามองเห็นความเป็นจริงของชีวิตหรือสัจธรรมชีวิตได้ แต่หากท่าน ไม่รู้จักมอง มาสถานธรรมก็มาแค่ไหว้พระ ถึงเวลามีอุปสรรคหน่อย ก็ขอๆๆๆ ท่านก็จะไม่มีชีวิตที่รุ่งเรืองได้ แต่ว่าชีวิตที่รุ่งเรืองจริงๆ ก็คือการอยู่บนฐานที่มั่นคงที่สุด จัดชีวิตของท่านให้ดีๆนะ เพราะว่า ชีวิตของคนมีอย่างมากก็เพียงไม่กี่ปี หากท่านไม่รู้จักวาง ชีวิตของท่านให้ดีๆ ท่านก็จะประสบความล้มเหลวในอนาคต แต่บางคนถ้าหากว่าเราจัดๆๆ แต่ว่าไม่รู้จักที่จะเอาชีวิตของเรานั้น ดำเนินไปตามที่เราจัด ได้แต่นั่งคิด ได้แต่นอนคิด ได้แต่มัวคิด ชีวิตก็ไม่สามารถจะประสบความสำเร็จได้เช่นเดียวกัน
ท่านคิดว่าในชีวิตนี้อะไรที่มีความสำคัญกับท่านมากที่สุด (ความ??, ไม่วุ่นวายในชีวิต, ความที่ไม่มีอารมณ์โกรธ, ไม่มีความโลภโกรธหลง, ความสุขในครอบครัว) แล้วก่อนมีครอบครัว อะไรที่สำคัญที่สุดในชีวิตล่ะ เวลาที่ท่านอยู่ในโลกนี้ ท่านก็มักจะเอาปัญหาของท่านที่อยู่เฉพาะหน้า ตอนนี้มาตอบเราว่าอะไรเป็นสิ่งที่สำคัญในชีวิตของท่าน อย่างเช่นตอนนี้ ถ้าครอบครัวไม่สงบสุข ท่านก็คงจะบอกว่าขอให้ครอบครัวมีความสุขนะ ถ้าหากว่าร่างกายเจ็บป่วย ก็คงจะบอกว่าขอให้ร่างกายของเราดี นั่นแหละเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต แต่ท่านไม่คิดหรือว่า จริงๆแล้วก่อนที่ ท่านจะโตขึ้นมา หรือต่อไปท่านจะมีปัญหาในชีวิตอีกมากมาย ก่อนที่ท่านจะ แก่เฒ่า ก่อนที่ท่านจะตายไป ยังมีสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตอีกมากมาย แต่ว่าให้ดูให้ดีๆ ก่อนที่ท่านจะมีครอบครัวล่ะ ก่อนที่ท่านจะเกิดมา อะไรที่ท่านปรารถนาที่สุด ถ้าหากว่าการเป็นคนอยู่ทำให้เราวุ่นวายกายใจ ทำไมเราไม่หลุดพ้นไปจากการเวียนว่ายตายเกิดนี้ล่ะ
การที่มานั่งอยู่เฉยๆนี้ไม่ทำให้ท่านได้สิ่งเหล่านี้ ท่านจะต้องลงมือ •?เอง ทำอย่างไรให้ได้ความสงบอย่างที่ท่านอยากจะได้ ถ้าหากว่า พาตัวเราไปอยู่ในที่ๆวุ่นวาย หรือทำให้จิตใจของเราวุ่นวาย เราก็คง จะไม่สงบ ก็คงต้องห้ามปรามจิตใจของเราให้สงบลงก่อน ถ้าหากว่า การเป็นคนอยู่ทำให้มีปัญหาวุ่นวาย ก็ขอให้ท่านตั้งความตั้งใจ ???ความ มุ่งมั่นที่จะหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดนี้ ได้????ไม่ แต่ที่ฟังๆมานี่ ยังไม่มีใครตอบเราว่าขอให้หลุดพ้นเลยนะ แสดงว่ายังเป็นปุถุชนอยู่มาก ยังเป็นคนสามัญธรรมดาอยู่มากใช่ไหม ขอให้ท่านเป็นบุคคลสามัญธรรมดา ที่ยิ่งใหญ่ ให้มีความคิดที่เหนือกว่าคนทั่วๆไป แล้วสักวันหนึ่งขอให้ท่าน คิดว่าท่านอยากที่จะหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด ท่านจะได้ไม่ต้อง วนๆๆ อยู่อย่างนี้
อยู่กับท่านยิ้มจนแก้มเมื่อยเลย เพราะท่านเป็นคนน่ารักใช่ไหม
(มีนักเรียนในชั้นแต่งกลอน...ชีวิตพลีสู้เพื่อสุขไกลทุกข์เอย) ให้ท่านคิด ดีๆนะ ถ้าหากท่านสู้เพื่อความสุข ท่านจะไกลทุกข์ได้ไหม ได้หรือเปล่า (ไม่ได้) ความทุกข์กับความสุขเหมือนปกหน้ากับปกหลัง ของหนังสือเล่มหนึ่ง ข้างหนึ่งเป็นความสุข อีกข้างหนึ่งเป็นความทุกข์ มันอยู่เล่มเดียวกัน ถ้าหากว่าท่านสู้เพื่อความสุข ก็จะทุกข์ ถ้าหากท่านสู้เพื่อความทุกข์ (ก็จะทุกข์) ในโลกที่จะสู้เพื่อความทุกข์ ไม่ยอมคิดเลยใช่ไหม
พระอาจารย์เคยสอนไว้แล้วเราจำได้ ท่านบอกว่าความสุขกับ ความทุกข์เป็นเส้นตรงเส้นเดียวกัน ถ้าหากท่านเริ่มที่ความสุข ก็จะไปจบ ท้ายที่ความทุกข์ ถ้าหากท่านเริ่มที่ความทุกข์ ท่านก็จะจบท้ายที่ความสุข แสดงว่าความทุกข์กับความสุขเป็นสิ่งเดียวกัน ที่แยกกันไม่ออก ฉะนั้นถ้า หากว่าท่านหวังที่จะสุข ท่านก็ต้องมีความทุกข์ตามมาไม่มากก็น้อย ไม่ใช่ ว่าให้ท่านสุขไม่ได้ แต่ให้ท่านสุขอย่างคนที่มีสติ และสุขในทำนองคลองธรรม ที่ถูกต้อง ถ้าหากว่าไม่สุขอยู่บนทำนองคลองธรรมที่ถูกต้อง ท่านก็จะไม่ได้ รับความสุขอันแท้จริง เพราะว่าจะสุขอยู่ปนๆ ไปกับความทุกข์ใจ
ในวันนี้มาที่นี่ดีใจที่ได้เจอพวกท่านทุกคน พวกท่านแต่ละคนก็มีข้อดี กันคนละข้อ แล้วเราอยู่กับพระอาจารย์ เราฟังพระอาจารย์พูดเรื่องท่าน บ?อย? แต่ละคนท่านเล่าให้ฟังว่าดีก็มี ท่านเศร้าใจลึกๆอยู่ก็มี เราอยากให้ พวกท่านทุกคนทำตนให้ดีที่สุดเท่าที่ท่านจะทำได้ เพราะว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เบื้องบนก็คอยมองอยู่ว่ามนุษย์นั้นเป็นยังไง และมนุษย์ทำยังไง คนไหนที่ จะพอฝากความหวังไว้ได้บ้าง เพราะว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สำเร็จขึ้นไปก็เคย อยู่ในสภาวะเช่นเดียวกับที่พวกท่านเป็นอยู่ตอนนี้ และพุทธะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ ไม่ได้มาช่วยท่าน ตอนนี้ท่านมาบำเพ็ญธรรม พุทธะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ช่วยท่าน มากไม่ได้ ยังต้องปล่อยให้ท่านเคี่ยวกรำ ยังต้องปล่อยให้ท่าน เจออุปสรรค เพื่อที่ท่านจะได้ขัดเกลาตัวเอง มีโอกาสที่จะชำระกรรม ล้างกรรมที่ท่านเคยสร้างไว้ และยืนหยัดอยู่ด้วยขาของตัวเอง และหลุดพ้นไปได้ด้วยตัวเอง ถึงเวลานั้นท่านก็จะภูมิใจที่สุด แต่เมื่อท่าน เป็นศิษย์ของพระอาจารย์ท่าน พระอาจารย์ก็คอยที่จะช่วยท่านอยู่เสมอ ขอเพียงแต่ท่านมีใจที่จะบำเพ็ญและก็ลงมือทำจริงๆ แต่ไม่รู้ว่าท่านทำได้ หรือเปล่า เพราะเรารู้สึกว่าแต่ละคนนั้นพอมีปัญหาหรือมีอุปสรรคอะไร ก็ไม่ค่อยอยากจะบำเพ็ญธรรมแล้ว คิดว่าตนเองไม่มีเวลา มีเวลาน้อย ก็เลยไม่อยากจะให้เวลากับการบำเพ็ญ ฉะนั้นท่านต้องทำให้ได้ ถ้าหากว่าท่านทำไม่ได้ ชาตินี้ก็จะไม่ใช่ชาติสุดท้ายของท่าน ท่านก็จะไม่สามารถหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดได้ เข้าใจไหม
ก่อนเรากลับลุกขึ้นยืน เซียนถังทั้งหลายจับไม้พายเร็ว ร้องเพลง และทำท่าประกอบเพลง เซี่ยวเซิ่งโจ่วอี้หุย)
ดังติดปีก ไม่ใช่เราติดปีก แต่ให้ท่านติดปีก เราบอกว่าถ้า มีโอกาส วันหน้าเรามาเจอกันอีก แล้วให้ท่านสู้เหมือนคนที่ติดปีก ติดปีกบินไปสู่ท้องฟ้าที่สว่างใส เราไม่กลัวว่าท่านจะไปเจออุปสรรค แต่เรากลัวว่าท่านไม่มีใจจะสู้
ขอให้ทุกท่านขยันบำเพ็ญได้ไหม ลิ้นกับฟันก็กระทบกันเป็นธรรมดา อยู่ร่วมกันถ้าหากว่าจะทะเลาะกันแล้ว ก็ให้เปิดใจให้กว้างๆ ยิ่งขยัน หมั่นเพียรให้กำลังใจกันทุกวัน ยิ่งรู้สึกดีขึ้น การบำเพ็ญธรรมยิ่งราบรื่นขึ้น หนทางข้างหน้าอีกยาวไกล เวลาทุกคนก็มีเท่าๆกัน มีเหมือนๆกัน ขอให้ทุกคนเจียดเวลาที่จะมาสถานธรรมบ้าง บำเพ็ญตนก็ไม่ใช่ว่าจะต้อง อยู่ในสถานธรรมเท่านั้น อยู่ที่ไหนก็บำเพ็ญได้ อยู่ที่บ้านก็บำเพ็ญได้ อยู่ในห้องครัว อยู่ในห้องนอน อยู่ริมถนนท่านก็บำเพ็ญธรรมได้ทุกๆที่ ขอให้ทุกท่านรู้จักที่จะขัดเกลาจิตใจของตัวเองมากๆ แล้วก็ยิ้มให้กว้างๆ ออกมาจากความจริงใจ
ร้องเพลงอะไรส่งล่ะ จะมาส่งเงียบๆไม่ได้นะ ต้องส่งแบบสนุกสนาน ร้องเพลง ระฆังใ? ทำนองเพลง Merry Christmas)
สถานธรรมเปรียบเหมือนบ้านของท่าน ขยันเข้ามาให้มาก ขยันร่วมมือกันให้มาก สามัคคีให้มาก เราเชื่อว่าสถานธรรมสามารถ ที่จะต้อนรับทุกท่านตลอดไป ตราบ?•??ที่ท่านมีใจ ไปแล้วนะ เจอกันใหม่นะ
เพลง : ระฆังใจ ทำนองเพลง : Merry Christmas
กะเทาะมาเคาะใจเป็นทำนอง จะร้องเพลงครื้นเครงบรรเลงจิต หากคิดมองย้อนตนเป็นคนใหม่ ฝ่าตาข่ายร้ายแห่งตน
แอบคิดความลับในใจใดใด หากร้ายเป็นพิษมาทำลายจิต หมั่นลิดใบไม้ใบโรยใบกรอบ หมั่นตรวจสอบทุกหมู่ชน