วันที่ 24 กันยายน ค.ศ.2000 สถานธรรมสกุลอู๋ Cypress, California
พระโอวาทพระนาจา
สถานการณ์สรรสร้างวีรบุรุษ สิ่งสมมุติในโลกมีมากมายเหลือ
ขอให้ท่านบำเพ็ญธรรมอย่าได้เบื่อ อย่าใกล้เกลือกินด่างก็แล้วกัน
เราคือถ
นาจาน้อย รับบัญชาจาก
พระอนุตตรธรรมมารดาผู้เมตตา ลงสู่สถานธรรมสกุลอู๋ แฝงกายเคียมคัล
องค์มารดา ถามศิษย์น้องทุกคนเข้าใจธรรมะมากขึ้นหรือเปล่า
อย่าเป็นแมลงเม่าที่บินเข้ากองไฟ ระวังไว้เหล่ากิเลสและตัณหา
อยู่ในโลกอย่ามัวติดภาพลวงตา ใช้ปัญญามองทะลุปรุโปร่งเอย
โอกาสเปิดรอพุทธบุตรบำเพ็ญไป ทั้งนอกในสละเวลาอย่าทำเฉย
อย่าได้กลัวคำครหาว่าเปรียบเปรย คำเยาะเย้ยติฉินหรือนินทา
บำเพ็ญธรรมยุคท้ายต้องศึกษาจริง อย่าประวิงเพราะจิตใจยังกังขา
จงยอมโง่เพื่อเรียนรู้ถ่องแท้นา อย่าเป็นทาสมารนอนหลับหนาน้องคนดี
สามัคคีคือพลังนะศิษย์น้อง ความปรองดองพาถึงฝั่งสมศักดิ์ศรี
อย่าเกียจคร้านสักทิวาหรือราตรี ใครไม่มีกำลังใจอย่าลืมให้กัน
น้องทุกท่านขอให้เสมอต้นและปลาย ปีนี้ทำได้ดีแล้่วอย่าแปรผัน
ยังจะต้องลงแรงจริงยิ่งเพียรหมั่น รู้จักตนเองนั่นประเสริฐเอย
ฮิ ฮิ
พระโอวาทพระนาจา
เมื่อสักครู่นี้เล่าเรื่องอะไรไป เรื่องมารนอนหลับเขาให้เรานอนเยอะๆถ
นอนมากๆ แล้วเราก็จะได้ไปนิพพานไม่ได้ใช่ไหม อยากไปนิพพานหรือเปล่าถ
ชอบนอนไหม คนชอบนอนๆไม่หลับ คนไม่ชอบนอนๆไม่ตื่น แปลกดีนะ บนโลกนี้ ไม่มีอะไรลงตัวสำหรับเราเลยใช่ไหม แล้วอยู่ในโลกนี้ มีความสุขไหมล่ะถ
เล่านิทานให้ฟังดีกว่านะ ฟังไหม มีภูเขาอยู่สองลูก ลูกหนึ่งชื่อภูเขาแห่งถ
ความสุข อีกลูกหนึ่งชื่อภูเขาแห่งความทุกข์ สมมุติว่าท่านเป็นคนๆหนี่งที่จะเดินถ
ขึ้นไป ท่านจะเดินขึ้นภูเขาลูกไหน ใครอยากขึ้นภูเขาแห่งความทุกข์ยกมือขึ้น (นักเรียนชายคนหนึ่งยกมือแล้วพูดว่ารู้จักทุกข์จึงจะรู้ว่าสุขเป็นอย่างไร) แต่พอ ขึ้นภูเขาแห่งความทุกข์แล้วไม่ได้ลงมาอีกเลยนะ ไหนใครอยากขึ้นภูเขาแห่ง ความสุข ยกมือขึ้น แสดงว่าอยากมืความสุขกันทุกคนเลยใช่ไหม คนดีกับคนไม่ดีถ
ท่านอยากเป็นคนไหน(คนดี) พูดดีกับพูดไม่ดีท่านอยากเป็นคนไหน(คนพูดดี) แล้วระหว่างคนดีกับคนไม่ดี ท่านทำตัวเหมือนคนดีหรือคนไม่ดีมากกว่ากัน ลองถ
นับคะแนนในใจไว้นะ ถ้าท่านบอกว่า ท่านเหมือนคนดีมากกว่าก็นับหนึ่งคะแนนถ
ให้ตัวเอง ถ้าบอกว่าเหมือนคนไม่ดีมากกว่าก็ติดลบหนึ่งคะแนน ปกติเป็นคนถ
พูดดีหรือพูดไม่ดี แล้วเวลาให้ทำดีกับทำไม่ดี ท่านทำดีหรือทำไม่ดีมากกว่ากันถ
(ทำดีมากกว่า) แน่ใจหรือ ถ้าหากลูกดื้อล่ะ ทำดีไว้ในใจ ทำไม่ดีอยู่ข้างนอกถ
ใช่ไหม ระหว่างให้ช่วยเหลือตัวเองกับช่วยเหลือคนอื่นล่ะ ช่วยใครมากกว่าถ
กัน(ตัวเอง) คนที่เป็นคนดีมีความสุข หรือคนที่ไม่ดีมีความสุข คนพูดดีกับคนพูดถ
ไม่ดีคนไหนมีความสุข(พูดดี) คนดิดดีกับคนคิดไม่ดีคนไหนมีความสุข(คิดดี)ถ
สรุปแล้วท่านจะต้องทั้งคิดดี พูดดี ทำดี ท่านถึงมีความสุขได้ ท่านต้องช่วยเหลือถ
ผู้อื่นท่านถึงมีความสุขได้ใช่หรือไม่ หากท่านทำอะไรทั้งๆที่รู้ว่ามันผิด แต่ท่านถ
ก็ยังทำ ท่านก็จะทุกข์ใจไปเองใช่หรือไม่ เพราะฉะนั้น ภูเขาสองลูกนี้ก็อยู่ถ
ภายในใจของท่านเอง ปกติท่านเลือกเดินไปลูกไหนล่ะ ตอนนี้ได้คะแนนสรุป หรือยังว่าท่านเดินขึ้นภูเขาลูกไหน (ไม่เดิน) ไม่เดินแล้วหรือ มนุษย์นี่เปลี่ยนถ
ใจง่ายจริงๆเลยนะ เรียกว่าไปตามเหตุการณ์ ไปเรื่อยๆ พอถูกใจก็เดิน ไม่ถ
ถูกใจก็ไม่เดิน แล้วปกติถูกใจหรือไม่ถูกใจ ปกติเจอเรื่องถูกใจหรือไม่ถูกใจถ
ปกติสมหวังหรือผิดหวัง ตอนเด็กๆเราอาจจะแยกแยะไม่ออกว่าสิ่งนี้ทำไป จะถ
ถูกหรือผิด แต่พอเราโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาเรื่อยๆ เราก็รู้สึกว่าเราพอจะแยกแยะถ
ออกบ้างว่าอะไรคือถูก อะไรคือผิด ตอนนี้ท่านบอกว่า ท่านไม่มีความสมหวังถ
อย่างสุดๆ และไม่มีทั้งความผิดหวังอย่างสุดๆ ท่านจึงต้องรู้จักที่จะแยกแยะว่าถ
ตอนนี้แหละท่ี่ท่านควรจะต้องบำเพ็ญธรรม หรึอว่าท่านจะปล่อยให้ชีวิตดำเนินไปถ
เรื่อยๆ ภูเขาแห่งความสุข วงเล็บก็คือสวรรค์ ภูเขาแห่งความทุกข์ วงเล็บก็ถ
คือนรก เพราะว่าเราจะมีความสุขได้ ต่อเมื่อเราคิดดี พูดดี ทำดี และทำเพื่อ ผู้อื่น ถ้าเราทำเพื่อผู้อื่นมากๆก็มีบุญ ท่านก็เดินเรื่อยๆๆๆจนถึงภูเขา แต่ถ้าถ
บอกว่าถูกใจก็จะเดิน ไม่ถูกใจก็เลิกเดิน แล้วตกลงท่านจะไปถึงไหน ก็จะยืนถ
อยู่ที่เดิม ลองมองดูที่เดิมของท่าน ดูว่าชีวิตที่ผ่านมาของท่านทั้งหมดมีอะไรบ้างถ
(ไม่มีอะไรเลย) หาเงินตั้งนานไม่มีอะไรเลยหรือ อย่าตอบเราแบบเด็กดื้อถ
ถ้าตอบแบบนี้ก็ไม่มีอะไรคุยกัน กลับดีกว่า (กลับไปไหน) กลับไปที่ที่เรามาถ
พุทธะบอกว่าไม่โปรดคนไม่มีบุญ เราบอกว่าเราไม่คุยกับคนดื้อ ถ
ลองนึกดูว่าท่านมีอะไรบ้าง...ลูก สามีภรรยา ทรัพย์สมบัติ ความเป็นอยู่ถ
สภาพจิตใจ สภาพร่างกาย สภาพทุกอย่างที่มี คิดว่าน่าพอใจไหม(ตอบยาก)ถ
คนที่มีความทุกข์ อยากแนะนำว่าเมื่อมีความทุกข์แล้วต้องรู้จักทำจิตใจให้สบายถ
ท่านต้องเดินไปยังภูเขาแห่งความสุข เดินไปยังสวรรค์แม้ว่าทางไปสวรรค์ของถ
ท่านจะรกสักหน่อย ท่านก็ต้องขยันถาง อย่างเช่น ต้องมีเวลามาบำเพ็ญธรรมถ
ต้องมีเวลามาสถานธรรมบ้าง ไม่ใช่หายต๋อม ถ้าหากว่าคนไหนคิดว่าตนเองถ
มีความสุขดีอยู่แล้ว และคิดว่านำ้หนักแห่งความสุขมีมาก ท่านก็ต้่องรู้ว่าเมื่อมีถ
ความสุขอยู่ก็ดีแล้ว เพราะคนส่วนใหญ่ถ้าทุกข์ก็จะรู้สึกหนักใจและบำเพ็ญไม่ได้ถ
แต่เมื่อท่านมีความสุข แสดงว่าท่านโชคดีกว่าคนอื่น ท่านจะต้องพยายามที่จะถ
มอบความสุขให้กับคนอื่น เหมือนกับเราผู้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เราก็อยากให้ท่านมีถ
ความสุขมากๆ แต่ว่าหัวใจท่านไม่เปิด หรือเปิดกันคนละนิดเดียว ถ้าเราอยากถ
ได้รอยยิ้มก็ต้องยิ้มให้คนอื่น ถ้าบึ้งให้คนอื่นๆก็บึ้งตอบเรา ถ้าเราช่วยคนอื่นๆถ
ก็ช่วยตอบ ถ้าเราเอาธรรมะไปให้คนอื่นล่ะ (เขาก็ดีกับเรา) อยากได้ผลตอบถ
แทนด้วยนะ ถ
แอปเปิ้ลลูกนี้สวยแต่รูปจูบไม่หอม ข้างนอกสวยแต่ข้างในไม่อร่อย ทุกคนถ
ในโลกนี้ก็เหมือนกัน บางทีก็ท่าดีมากเลย แต่ต่อด้วย(ทีเหลว) ตอนที่เรามีใจถ
ที่จะบำเพ็ญธรรมะ เราเคยมีความคิดว่าต่อให้มีอุปสรรคเท่าไหร่เราก็จะสู้ แต่ถ
พออุปสรรคเข้ามาจริงๆ ครั้งแรกท่านยังทนไหว ครั้งที่สองผ่านไป พอเริ่มครั้งถ
ที่สามท่านก็เริ่มทนไม่ไหวแล้วใช่หรือไม่ แล้วท่านก็จะติดธุระเหมือนเดิม ไม่มีถ
เวลาเหมือนเดิม ลงท้ายด้วยท่านยังไม่ทันได้บำเพ็ญ ท่านก็ต้องจากโลกนี้ไปถ
แล้ว เพราะเวลาปีหนึ่งๆผ่านไปเร็วมาก ตอนนี้แต่ละคนอายุเท่าไหร่กันแล้วล่ะ อายุมากแล้ว เทียบกับเราแล้วมากกว่ากันเยอะ แต่เราก็สำเร็จเร็วกว่าท่านถ
เพราะฉะนั้น ท่านจะแพ้เราไหม (ไม่แพ้) ตอบในใจก็แล้วกัน บางคนตอบว่าถ
ไม่แพ้ แต่ในใจกลับคิดว่าแพ้แน่เลย (ยังไม่แพ้) อย่าไปแพ้ตอนใกล้ๆถึงเส้นชัยถ
ก็แล้วกัน น่าเจ็บใจที่สุด ท่านต่้องมีความเชื่อมั่นในตนเอง ต้องมีความมั่นคงถ
ในธรรมะ แล้วตอบตัวเองว่าคนประเภทนี้จะแพ้หรือไม่แพ้ มีคำพูดว่า สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ แล้วทุกท่านในที่นี้ก็มีสถานการณ์ที่รายล้อมท่านอยู่ถ
ทุกอย่างที่เป็นทั้งเรื่องดีและเรื่องไม่ดี ท่านก็มีสถานการณ์ที่จะสร้่างท่านให้เป็นถ
วีรบุรุษ อยู่ที่ท่านเองจะเป็นวีรบุรุษหรือว่าจะหลุดถ
รู้ไหมว่า เวลาที่เราบอกว่าเรามีสถานธรรมที่ไม่ใช่ชั่วคราวอีกต่อไปแล้วถ
หมายความว่าเราพ้นไปจากช่วงของการบุกเบิกแล้ว พอท่านแสดงความจริงใจถ
ออกมา คนก็มากันมากมาย ต่อไปนี้ ท่านต้องเห็นที่นี่เป็นสถานธรรมของท่านถ
เหมือนกัน ถ
พูดถึงพระอาจารย์ ต้องบอกว่าพวกท่านโชคดีมาก เราไม่ค่อยอยากมา แต่พระอาจารย์ก็บอกว่าให้มา เพราะครั้่งนี้คนเยอะแยะเลย จะได้ไปเล่นกับถ
เขาให้สนุกไปเลย แต่ไม่รู้ว่าพวกท่านจะเล่นกับเราสนุกหรือเปล่า สนุกไหมถ
เมื่อกี้ เราบอกว่าช้าๆได้พร้าเล่มงาม เขาก็เลยจะเขียนว่า ถามศิษย์น้องช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม เขาจะให้ท่านช้ากว่านี้อีกนะ ช้ากว่านี้ไม่ไหวแล้วใช่ไหม มีถ
จดหมายเตือนฉบับที่หนึ่ง...เรื่องอายุมากขึ้น จดหมายเตือนฉบับที่สอง...ผมถ
ขาวบนหัวมีหรือยัง จดหมายเตือนฉบับที่สาม...ร่างกายเริ่มเจ็บป่วยหรือยังถ
จตหมายเตือนฉบับที่สี่... ตอนนี้เริ่มมีอาการปวดๆเมื่อยๆขี้เกียจๆหรือยัง ถ
จดหมายเตือนฉบับที่ห้า...ตอนนี้เริ่มรู้สึกว่าจะหาข้ออ้างได้เยอะขึ้นหรือยัง ที่ถ
จริงแล้วฉบับที่สี่และฉบับที่ห้าต้องมาเป็นฉบับแรกๆ เพราะหาข้ออ้างกันเก่ง ถ
ว่างก็บอกว่าไม่ว่างเพราะว่าไม่อยากจะมาถ
บางที การที่ธรรมะลงมาโปรด อาจจะไม่ใช่ว่าพวกท่านเป็นคนไม่ดีหรือถ
เป็นคนชั่ว แต่การช่วยพวกท่านขึ้นมาก็เพื่อให้พวกท่านได้มีโอกาสไปช่วยคนอื่นถ
ที่เขาไม่สามารถจะแยกแยะถูกผิดออกจากกันได้ ที่เขาคิดว่าถูกและผิดนั้นคือสิ่งถ
เดียวกัน นี่เป็นหน้าที่ของคนทุกคนที่ยังมีกายสังขาร มีสติและเรียกตัวเองว่าผู้มีถ
ปัญญา เป็นสิ่งจำเป็นที่ท่านต้องไปทำ พวกท่านบอกว่าท่านเป็นคนดีแล้ว เราก็ถ
คิดว่าเป็นเช่นนั้น แต่ท่านอย่าลืมว่ายังมีคนไม่ดีอีกมาก ที่พวกท่านจะต้องไปช่วยถ
ถ้าหากว่า ท่านไม่ทำอะไรเลย ท่านก็ดีของท่านคนเดียว ดีในบ้านของตัวเองก็ถ
พอ ลูกของท่านก็ดี ท่านรู้ได้อย่างไรว่าลูกของท่านดี เพราะเขาอยู่ในบ้านเขาถ
ดี แต่เวลาที่เขาออกไปนอกบ้านเขาเป็นอย่างไร ท่านก็ไม่สามารถรู้ได้ ถ้าถ
ท่านเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์มองเห็นคนดีมีประปรายอยู่เป็นจุดๆท่านจะทำอย่างไร ในถ
โลกปัจจุบันที่ธรรมชาติถูกทำลายลงก็เริ่มมีการรวมพลังกันอนุรักษ์ธรรมชาติและ ต่อต้านการทำลายที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ เบื้องบนก็เช่นกัน เมื่อมองเห็นคนชั่วมากถ
ขึ้น เบื้องบนก็หาทางรวมคนดีเป็นกลุ่ม หาวิธีการช่วยเหลืออนุรักษ์ความดีให้คงถ
ไว้ เพราะฉะนั้น เมื่อท่านมั่นใจว่าท่านเป็นคนดี จงรักษาความดีไว้ เหมือนกับ เกลือรักษาความเค็ม รักษาความดีของท่านให้เหมือนความเค็มของเกลือ (สิ่งศักดิ์สิทธิ์เมตตาแจกเกลือให้นักเรียนทีละคน) เกลือถ้วยเล็กๆแจกทุกคน แล้วก็ยังมีเหลืออีก ความดีก็เหมือนกับเกลือ คนเอาไปทีละนิดๆก็ยังไม่หมด ถ
กินเกลือแล้วหิวนำ้ใช่ไหม น่าสงสารนะ เป็นมนุษย์นี่พอกินเค็มก็เอาหวานดับถ
พอกินหวานก็เอาเค็มต่อ ถ
(สิ่งศักดิ์สิทธิ์เมตตาให้เอานำ้มาให้นักเรียนดื่ม) รักกันเหมือนพี่น้อง ดื่มนำ้ร่วมถ
สาบานนะ มีน้อยก็ดื่มน้อย เวลาดื่มนำ้ต้องรู้จักแบ่ง แบ่งสัดส่วนของนำ้ว่า ดื่ม เท่าไหร่จึงจะพอไปถึงคนหลังสุด ก็เหมือนกับการแบ่งเวลา การที่เราทำอะไรถ
สักอย่าง เราอาจจะไม่รู้ไปถึงจุดจบ เราก็ต้องแบ่งเวลาทั้งๆที่ไม่รู้ แบ่งให้ดีถ
ที่สุด ให้มากที่สุด ดื่มนำ้แก้วเดียวกัน ตามหลักโภชนาการทางโลกอาจจะไม่ถูก ต้อง แต่ตามหลักสามัคคีก็ถูกต้อง ดื่มนำ้เข้าไปแล้วให้คิดว่าสถาน(เรือ)ธรรม ลำนี้เป็นเหมือนกับบ้านของทุกท่าน ก็ขอให้ทุกท่านสามัคคีคือพลัง ถ
คนเราเมื่อคิดในทางที่ดีจิตใจก็จะสบาย เวลาเราจะเข้ามาบำเพ็ญธรรมถ
ทุกอย่างก็เหมือนกับจะมีระเบียบ มีกฏ บางคนคิดว่ากฏระเบียบมากเกินไป แต่ถ
ว่ากฏระเบียบก็เป็นเหมือนกับทางเดิน จะกว้างหรือจะแคบเท่าไหร่ไม่ใช่อยู่ที่ถ
ว่าท่านเปิดใจกว้างหรือแคบเท่าไหร่ กฏระเบียบก็เหมือนกับอิ""ฐที่วางไว้กั้่นเป็นถ
ทางให้ท่านเดิน ถ้าหากว่าท่านไม่อยากให้มีกฏระเบียบความยุ่งยากนั้นเลยถ
ท่านก็เดินไปในทางที่หญ้าจะขึ้นรก แต่ถ้าท่านมีกฏระเบียบ ตัวท่านเองก็จะมีถ
ระเบียบ คนที่เดินตามหลังท่านมาก็จะมีระเบียบเช่นกัน การฝึกระเบียบวิธีการถ
ไหว้พระ เพื่อช่วยให้ท่านได้รู้ ได้เข้าใจ ได้เรียน เหมือนอย่างที่คนข้างหน้าถ
เรียน และคนที่ต่อจากท่านไป ไม่ว่าจะเป็นคนประเภทไหนเข้ามา จะเป็นคนถ
ประเภทที่รู้จักกฏระเบียบดี หรือเป็นคนไม่ชอบกฏระเบียบ หรือเป็นคนที่ปกติไม่ถ
อยากจะรักษาระเบียบอะไรในชีวิต เขาก็จะต้องมาหัดกฏระเบียบต่างๆเหมือน กับที่ท่านไหว้พระเยอะๆเมื่อเช้านี้ บางคนก็ไหว้เป็น บางคนก็ไหว้ไม่เป็น บางคนก็ว่าเยอะไป บางคนก็ว่าทำได้ ทำไหว ถ้าหากว่าท่านมีระเบียบตลอดถ
การบำเพ็ญก็เหมือนกับท่านมีทางตลอดไปในการบำเพ็ญของท่าน แต่ว่าการจะถ
ทำอะไรสักอย่าง จะต้องรู้จักการพลิกแพลงให้เกิดความพอดี อย่างเช่นเมื่อกี้ถ
ผู้ชายมากราบพระได้หมด ส่วนผู้หญิงกราบรับเราได้หมดทุกคนไหม (ไม่ได้)ถ
เพราะติดเก้าอี้ ท่านจะทำอย่างไร ถ้าท่านจะคุกเข่าลงไปให้ได้ หัวก็จะไปถ
โขกกับเก้าอี้ ท่านก็จะคิดว่า ทำไมต้องทำแบบนี้ เพราะท่านรู้แต่เพียงว่ากฏก็ถ
คือกฏ ระเบียบก็คือระเบียบ ท่านก็จะคุกเข่าลงไปให้ได้ หัวก็จะไปโขกกับถ
เก้าอี้จนเจ็บตัว แต่ถ้าท่านรู้ว่า กฏระเบียบคือสิ่งที่หมายถึงอะไร และมีไว้เพื่อ อะไร ท่านก็จะลุกขึ้นยืนตัวตรง แล้วโค้งอย่างสวยงาม เพราะฉะนั้นในการ บำเพ็ญธรรม ในเรื่องของการมาสถานธรรม และในอีกหลายๆเรื่องนั้น ก่อนที่ จะพลิกแพลงเป็น ท่านต้องศึกษาให้มากพอ เข้าใจให้ถ่องแท้ คนที่เพิ่งประชุมถ
ธรรมไปและมีใจที่จะบำเพ็ญ ท่านต้องตอบคำถามตัวเองก่อนว่าวันนี้ท่านอยาก บำเพ็ญธรรมเพราะอะไร เพื่อการหลุดพ้น หรือเพื่อขอ ถ้ามุ่งหมายเพื่อการ หลุดพ้น นั่นจะเป็นสิ่งที่ทำให้ท่านเดินไปถึงวันสุดท้าย เดินไปถึงจุดหมายปลาย ทาง แม้ว่าอุปสรรคจะขวางหน้าอีกเท่าไหร่ ท่านก็จะยังคงมุ่งมั่นที่จะเดินต่อไป เรื่อยๆๆ แต่ถ้าไม่ใช่ ท่านก็อาจจะเดินๆๆ แล้วพอไม่ได้อย่างที่ขอ ท่านก็จะถ
กู๊ดบาย ซาโยนาระ ใช่ไหม เพราะอะไร เพราะเราไม่ได้อย่างที่เราขอถ
ฉะนั้น การบำเพ็ญธรรมจึงต้องอดทนถ
รู้จักกองไฟไหม ไฟร้อนไหม กองไฟเปรียบเหมือนอะไร (ความทุกข์,ถ
กิเลส, ตัณหา, ความโลภ, ความโกรธ, ความหลง, สิ่งยั่วยวน) สิ่งต่างๆที่ถ
กล่าวมาต้องมีที่ส่งออกมา แต่สำคัญที่สุดไม่ใช่สถานีส่ง แต่คือสถานีรับ และเรา ทุกคนก็ทำตัวเป็นสถานีรับใช่หรือไม่ ถ
ทุกท่านมาอยู่ที่นี่ถึงแม้ว่าตัวท่านอาจจะมีพื้นฐานธรรมกันมาบ้าง แต่ก็ต้องถ
ยอมรับว่ามีบางเรื่องที่ท่านก็ยังไม่รู้ โดยเฉพาะเรื่องการโปรดยุคสามนี้ ท่านถ
ก็ต้องรู้น้อยกว่าคนที่ศึกษามาก่อนอยู่แล้ว โดยเฉพาะเรื่องในสถานธรรม ท่านก็ ต้องรู้น้อยกว่าคนที่คลุกคลีอยู่ในสถานธรรม เพราะฉะนั้น ท่านก็ต้องยอมที่จะโง่ บ้างเพื่อให้ท่านฉลาดมากยิ่งขึ้น ไม่มีใครรู้ตลอดทุกเรื่อง ท่านเองก็เหมือนกันถ
เป็นทาสมารนอนหลับหรือเปล่า ยังมีอีกตั้งหลายมาร เช่นมารในจิตที่ได้ถ
รับหน้าที่ในการทดสอบว่าท่านยังมีกิเลสหนาเท่าไหร่ อย่างเช่น เขาจะเอา สิ่งมายั่วยวนท่าน ดูว่าท่านจะหลงตามไหม ถ้าจิตใจของท่านยังเหลือสิ่งที่เป็นถ
กิเลสทั้งหลาย พอเขาเอากิเลสมาล่อ แล้วท่านเปิดเครื่องรับๆมาปุ๊บ แสดงถ
ว่าในใจของท่านยังมีกิเลสเหลืออยู่ ท่านก็จะโดนสอบตกทันที ทำไมต้องมีการ ทดสอบในยุคสมัยนี้ เพราะการบำเพ็ญเป็นพุทธะในสมัยนี้เป็นเรื่องที่ง่ายกว่าถ
ในสมัยก่อน แต่ท่ามกลางความง่ายก็มีความยากเกิดขึ้น เพราะว่าไม่ได้เรียกถ
ร้องให้ท่านสละอะไรเลย ให้ท่านมีทุกอย่างพร้อมบริบูรณ์เหมือนเดิม แต่ท่านถ
ต้องสละท่ามกลางโลกใบเล็กๆนี้ สละความสุขส่วนตัวเพื่อความสุขส่วนรวมถ
นี่คือการเสียสละ แต่ท่ามกลางความเสียสละนี้ เมื่อเทียบกับสมัยก่อนก็เทียบถ
ไม่ติด แต่ท่านสามารถจะสำเร็จไปเหมือนท่านเหล่านั้นได้เช่นกัน อยู่ที่ว่าถ
ท่านแน่พอหรือไม่ เอาจริงหรือไม่ บำเพ็ญจริงหรือไม่ เพราะว่าทางด้านรูปถ
กายภายนอก ทางด้านสิ่งใดๆอาจจะไม่ต้องพูดถึง แต่ทางด้านจิตใจ ท่านจะถ
ต้องสูงเท่าระดับของเมื่อก่อน ใช่ ยากมาก แต่หากทำทุกวันก็ง่าย ถ้าไม่ทำถ
ทุกวันก็ยาก แค่ทิ้งไปสามวันก็ลืม(ลืมแน่นอน) รู้ว่าแน่นอนแล้วยังไม่ทำตัวถ
ให้แน่เลยถ
ใครอยากกลับบ้านแล้วยกมือขึ้น เดี่๋ยวเราจะได้กลับเหมือนกัน บ้านใครถ
บ้านมัน เรารู้นะว่าท่านอยากกลับไปบ้านเรา เพราะบ้านเราดีนะ แต่พอท่านถ
ขึ้นไปปุ๊บ ท่านก็เด้งลงมาเลย เหมือนติดสปริงเลย (เพราะอะไร)เพราะว่า ดินแดนที่ไม่มีกิเลสนั้น คนมีกิเลสอยู่ไม่ได้ หลายคนคิดว่าตัวเองบำเพ็ญได้ดีถ
จริง แต่พอเอาเข้าจริงๆแล้ว ไม่ใช่ว่าเบื้องบนปฏิเสธไม่ให้ท่านอยู่ แต่ท่านถ
ปฏิเสธตัวเองที่จะอยู่ เพราะว่าท่านอยู่ไม่ได้เอง เบื้องบนไม่ใช่ที่ของท่าน เหมือนมีดกับหินลับมีด ท่านอยู่ในโลกท่านเป็นมีดและก็มีหินลับมีด แต่เบื้องบนถ
ไม่มีหินลับมีด นานๆไปท่าน(มีด)ก็ทื่อ และในที่สุดมีดก็มาหาหินลับมีดเองถ
คนทุกคนนั้นบำเพ็ญก็บำเพ็ญที่ใจ และสิ่งดีๆที่เกิดขึ้นในใจของท่านก็คือถ
จิตที่มีความศรัทธา เพราะว่าจิตที่มีความศรัทธานั้นสามารถทำอีกหลายๆอย่างถ
ให้เกิดขึ้นได้ แต่ว่าท่านอย่าได้ศรัทธาอย่างงมงาย เช่น ศรัทธาในการติดถ
รูปลักษณ์ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นศรัทธาที่งมงาย เพราะว่าเรา(สิ่งศักดิ์สิทธิ์)ก็ ไม่ใช่คนๆนี้ เรามาที่นี่ก็แค่ชั่วคราว หากท่านจะยึดอะไรสักอย่างหนึ่ง ถ้าบอกถ
ว่าไม่ให้ท่านยึดอะไรเลย ท่านก็จะเคว้งคว้างไปมา เดี๋ยวก็ลอยไปชนกำแพงถ
ข้างโน้นที ลอยไปชนข้างนั้นที ก็ให้ท่านยึดหลักสัจธรรม ยึดการศึกษาธรรมะถ
เป็นหลัก ถ
การบำเพ็ญธรรมนั้่นวิธีการทำทานทำได้หลายอย่าง เช่นการพูดถ
ธรรมะก็เป็นทานอย่างหนึ่ง ไม่จำเป็นจะต้องเป็นเงินทอง ใช้กำลังแรงกายถ
อย่างเช่นคนที่กำลังทำอาหารให้เราทานอยู่ข้างในนั้น น่ารักไหม เขาทำไปก็ ยิ้มไป ท่านทำได้ไหม เวลาที่เห็นเขายิ้มแล้วท่านมีความสุขไหม(มี)แล้วเวลาถ
ที่กินอาหารเขาอร่อยไหม(อร่อย) แปลกจริงๆ ทำไมเราทำไม่ได้ ทำไมเขาถ
ทำได้ (เขามีบุญ)ไม่ใช่เพราะเขามีบุญ ท่านทุกคนก็มีบุญ ถ้าไม่มีบุญจะมารับ ธรรมะไม่ได้รู้ไหม ต้องเชื่อมั่นในตัวเองว่าท่านก็เป็นหนึ่ง..คนไทยชอบพูดว่าถ
อะไร..หนึ่งในตองอู ท่านก็เป็นที่หนึ่งเหมือนกัน ท่านต้องเชื่ออย่างนี้ เชื่อถ
ว่าท่านก็มีสิทธิ์ที่จะบำเพ็ญจนบรรลุเป็นพุทธะได้เช่นกัน เพียงแต่ว่าท่านจะทำถ
หรือไม่ทำ จะไปหรือไม่ไป ถ
คนที่ชอบพูดว่าที่ไหนดีฉันก็ไปหมดเลย จะเล่าเรื่องสมมุติให้ฟัง มีคนๆถ
หนึี่ง เป็นคนไทยมาเรียนที่อเมริกา ภาษาไทยไม่ค่อยแตกฉานเท่าไหร่ พอมา เรียนที่นี่ต้องใช้ภาษาอังกฤษๆก็ไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ พอมาบำเพ็ญธรรมแล้วก็ถ
ต้องใช้ภาษาจีนด้วย ทีนี้ภาษาจีนก็ไม่ค่อยเอาไหน สรุปแล้วสามภาษาก็สำคัญถ
ทั้งนั้น สุดท้าย คนๆนี้ก็ไม่ได้ภาษาไหนเลย อยู่ไปนานๆภาษาไทยก็ลืม ภาษาถ
อังกฤษก็ลุ่มๆดอนๆ ภาษาจีนก็ไม่ค่อยกระดิกเลย เปรียบเทียบเหมือนการถ
บำเพ็ญธรรมของเรา ท่านก็พูดถูกที่ว่าที่ไหนดีก็จะไป ถ้าที่ไม่ดีก็ไม่ไป แต่ถ้าถ
จะพูดประโยคนี้ ควรพูดว่า..ที่ไหนดีฉันก็จะไป แต่จะไปศึกษาดูให้รู้จริงในถ
ทุกๆที่ที่ไป เมื่อเจอสิ่งไหนที่ดีกว่าก็จะพยายามบำเพ็ญในทางนั้นให้ดีที่สุด เหมือนอย่างวันนี้ที่มาที่นี่ ถ้าหากพูดกันอย่างยุติธรรม เราไม่บอกท่านว่าที่นี่ดี ถ
ที่สุด แต่ว่าท่านต้องศึกษาที่นี่ให้รู้จริงก่อนที่ท่านจะไปที่อื่น มิฉะนั้นท่านจะถ
เหมือนมีขาอยู่สองขาแต่เหยียบเรืออยู่ห้าแคม จะเหยียบอย่างไรเราก็ยังนึกถ
ไม่ออก อย่างน้อยๆท่านก็ไม่ได้เหยียบอยู่แค่สองแคม บางคนอาจจะเหยียบ มากกว่านั้นอีก เพราะฉะนั้น ท่านต้องพยายามที่จะศึกษาให้เข้าใจมากกว่านี้ถ
รู้จักตัวเองไหม ถ้าใครอยากฟังเรื่องรู้จักตัวเองต้องไปฟังพระอาจารย์ถ
จี้กง ถ้าใครยังไม่เคยฟังให้ไปหามาอ่าน เอาไว้วันหลังเราเจอกันใหม่ คน ที่มาสถานธรรมในวันนี้ เราบอกได้ว่าท่านทุกคนอย่างน้อยได้สละเวลาของตนถ
ได้เปิดใจของตนเองแล้วจึงสามารถมาที่นี่ได้ เมื่อท่านเปิดใจ ทางเบื้องบน ถ
ก็เปิดให้ท่าน ท่านก็มีโอกาสเข้าไป มีโอกาสก็ขอให้ศึกษาให้มากๆ ถ้าไม่มีถ
โอกาส เอาหนังสือไปเปิดอ่าน เมื่อมีอะไรสงสัย ก็มาถามอาจารย์ถ่ายทอดถ
เบิกธรรม ปีหน้าขอให้เราได้เจอกับท่านอีก ไม่ว่าเราจะได้เจอกันชนิดเห็น กันอีกหรือไม่ ก็ขอให้ทุกท่านได้สละเวลามาเช่นนี้ทุกๆปี เมื่อศึกษาธรรมไปสัก ช่วงหนึ่ง จนอยู่ตัวแล้ว ท่านจะรู้ว่าท่านกำลังทำอะไรอยู่ แต่ตอนนี้ท่านอาจจะ ยังตอบตัวเองไม่ได้ ตอนนี้อาจจะรู้อะไรได้ไม่ชัดเจน แต่ถ้าหมั่นศึกษาบ่อยๆ ท่านต้องตอบตัวเองได้แน่นอนว่าท่านกำลังจะทำอะไร และตอนนี้ท่านกำลังทำ อะไรอยู่ ถ
อย่าลืมที่เราบอก มีภูเขาอยู่สองลูก ภูเขาแห่งความสุข และภูเขาแห่ง ความทุกข์ หากว่าท่านคิดดี พูดดี ทำดี ช่วยเหลือผู้อื่น ท่านก็จะมีความสุข จะเลือกเดินไปทางไหนขึ้นอยู่กับตัวท่านเอง ทำดีทำไม่ดี พูดดีพูดไม่ดี..นินทา ขนาดว่ามีคนไทยน้อยอย่างนี้ก็ยังแอบนินทากันได้เลย ท่านก็รู้ว่าเราบำเพ็ญถ
ธรรมแล้ว ถ้าหากรู้สึกว่าอยากจะนินทาเมื่อไหร่ก็(รูดซิปปาก)ถ้าหากอยากจะ ว่าใครก็(รูดซิปปาก) ถ้าหากกำลังคิดว่าจะทำความดีสักอย่าง แต่ต้องเสียถ
เปรียบ เอาเปรียบตัวเองนิดหน่อยก็ขอให้ท่านเสียสละออกไป เพราะนั่น แสดงให้เห็นถึงความไม่เห็นแก่ตัวของท่าน เมื่อท่านทำได้หนึ่งครั้ง สองครั้ง สามครั้ง จนชิน เมื่อทำดีเล็กๆน้อยๆ ท่านจะรู้สึกว่าเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ ต่อไปท่านจะทำความดีเพิ่มมากขึ้นๆๆๆ แบบมือที่แยกกว้างออกไปเรื่อยๆ ถ
ถ
(สิ่งศักดิ์สิทธิ์เมตตาให้นักเรียนยืนขึ้น กางมือออก ร่วมกันร้องเพลงส่ง) ทำจิตใจให้กว้างๆ ยิ้มกว้างๆเหมือนพระศรีอารย์ด้วยถ
บนแดนฟ้า พุทธาไปอยู่แห่งใด มองมองไป พุทธาลงแดนโลกมา คราวก่อนว่าจะบำเพ็ญ แต่แล้วไยลืมง่ายง่าย เร็วเร็วอย่านานไป พุทธา มาคืนบ้านมาถ
ลงแรงหนา สามทางทรัพย์กายและใจ เพลียแรงใจ สังคมมีถ
คำรำ่ลือ เป็นสุขได้ครั้งได้คราว ยุคขาวดังบัวบานใกล้ คนรู้อย่านอนใจถ
พุทธาเร็วเร็วรีบมา ถ
เพลงพระโอวาท... ไปไหนดี ทำนองเพลง... มองมองหาถ