วันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2540

2540-09-28 พุทธสถานฉือจี้ ผิงตง ประเทศไต้หวัน

วันเสาร์ที่ ๒๘ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๔๐   พุทธสถานฉือจี้ ผิงตง ประเทศไต้หวัน

   นาวาธรรมไทยดำรงข้ามทะเล   มิโยเยแกร่งกล้าย่อมไปถึง
กระทำตนให้เวไนยได้พิงพึ่ง   ให้ไปถึงแก่นธรรมที่อยู่ไกล
   เราคือ
   พระพฤฒาชันษาแห่งทักษิณาลัย   รับบัญชาจาก
พระอนุตตรธรรมมารดา   ลงสู่พุทธสถานฉือจี้  แฝงกายเคียมคัล
องค์มารดาแล้ว   ถามหลานหลาน ทั้งหลายพร้อมแล้วหรือยัง

   ขอให้หลานพยุงตนพยุงจิต   คำพูดสะกิดใช้เตือนใจอย่าไขว้เขว
วันข้างหน้ามองโลกกว้างมิปนเป   อวิชชาเล่ห์อย่าหลงตามกระแสธาร
วนแล้ววนวนแล้ววนคือเกิดตาย   ได้เจอไฟโคมนำทางใช่ความฝัน
เมื่อพบแล้วเข้าใจแล้วยิ่งแบ่งปัน   อุปสรรคกั้นจงเร่งฝ่านะหลานเอย
ขอให้เดินด้วยใจเป็นสัมมา   โลกเปลี่ยนยุคจงกล้าเชื่ออย่านิ่งเฉย
การบำเพ็ญต้องลงแรงมิละเลย   ละชินเคยดั่งเช็ดเปื้อนบนหน้าตน
รอคอยวันหลานงดงามมีมรรคผล   ดั่งฉ่ำฝนโปรยสู่พื้นทุกแห่งหน
ธรรมดาชีวิตมีวันอับจน   จึงสอนหลานละใจคนข้นอัตตา
งานยุคสามฟ้าดินลงโปรดช่วย   จิตใจป่วย ณ จุดใดเร่งรักษา
อาศัยคนออกแรงช่วยพายนาวา   สู้เถิดหนากับพายุที่คว่ำเรือ
   ฮา ฮา  หยุด

หมายเหตุ กลอนที่ขีดเส้นใต้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เมตตาให้นักเรียนในชั้นร่วมกันแต่ง

พระโอวาทพระพฤฒาชันษาแห่งทักษิณาลัย

วันนี้มาที่นี้มีความสุขไหม (มี) ความสุขนี้รักษาไว้ได้ไหม ความสุขนี้รักษาไว้อย่างไร(ทำความดี,บำเพ็ญไปเรื่อยๆ มั่นทำความดี) แน่ใจหรือเปล่าว่า วิธีที่ตอบมาสามารถรักษาความสุขได้ตลอดไป ความสุขนั้นเป็นสิ่งที่ไม่มีรูปลักษณ์ เป็นสิ่งที่ดีหรือไม่ดี(ดี) คนเรานั้นมีความสุขได้ แต่ความสุขนั้นจำจะต้องไม่อยู่บนความทุกข์ผู้ใด
ในวันนี้หลานๆ สามารถเดินเข้ามาสู่ในพุทธสถานนี้สามารถฟังธรรมะได้ ตัวเองมีบุญหรือเปล่า (มี) คนมีบุญทั้งหลายตอนนี้มีความสุขไหม บุญตรงนี้สามารถทำให้หลานๆ มีความสุขได้ตลอดไปไหม ตอนนี้มีความทุกข์ไหม (ไม่มี) แล้วเมื่อวานนี้มีความทุกข์ไหม (มี) แสดงว่าแม้ว่าเราจะมีความดี ไม่ได้หมายความว่า ความสุขของเรานั้นจะจีรังยั่งยืนใช่หรือไม่ เพราะฉะนั้นหลานๆ จะต้องไม่ยึดติดกับความสุขที่ตนเองมี ความสุขของเรานั้น จะทำด้วยสิ่งใด ความสุขนั้นไม่จีรังยั่งยืนหลานทำให้เกิดได้ เกิดแล้วดับได้ เมื่อยามดับไปนั้น ปล่อยวางลงได้ไหม (ได้) สมมติว่าตอนนี้มีเงินอยู่ห้าหมื่น อยู่ๆ ก็หายไปเลย ความสุขนี้แตกดับได้ไหม (แตกดับ) แล้วเรานั้นปลงได้ไหม (ต้องพยายาม) ถึงเวลาพยายามจริงๆ ไหม ต้องศึกษาธรรมะอย่าเพิ่งงง ตั้งใจฟังให้ดี
รอบๆ ข้างของเราใช่ญาติของเราหรือไม่ (ไม่ใช่) เราไม่ใช่ญาติเขา เขาก็มาดูแลเราทำอาหารให้เรากิน ธรรมะนี้ดีหรือไม่ (ดี) แล้วหลานคิดว่าจะรักษาธรรมะนี้ตลอดไปไหม (รักษา) รักษาอย่างไรดี (มั่นปฏิบัติธรรม) ตอนนี้คิดเริ่มปฏิบัติธรรมไหม พวกเขามีความจริงใจต่อเราถึงเพียงนี้ แสดงว่าเพียงมองภายนอกธรรมะนี้ก็ไม่ใช่ธรรมะธรรมดาแล้ว เรามีร่างกายเกิดมาเป็นคนเรี่ยวแรงแข้งขาเราก็มี เราจะใช้ตัวของเราเองนั้นไปในทางใด พิจารณาให้ถ้วนถี่ เรานั้นใช้เรี่ยวแรงของเราเราทำงานในหน้าที่ของเราอยู่ อุตส่าห์ข้ามน้ำข้ามทะเลมาแล้วอย่างอื่นเราจะรักษาไว้ไหม มีกายก็ต้องมีใจ ใจของเรานั้นใช้สิ่งใดหล่อเลี้ยงอยู่ เวลาว่างๆ ไปหาความสุขมากกว่าหรือมาสถานธรรมมาก กว่า (มาสถานธรรมดีกว่า) พูดไปแล้วทำได้หรือเปล่า
หายงงหรือยัง หายงงแล้วความสงสัยก็ครอบงำใช่หรือเปล่า บำเพ็ญธรรมมีความสงสัยบำเพ็ญไปสงสัยไปจะไม่ได้อะไรเลย เพราะฉะนั้น อันใดควรอันใดไม่ควร ควรจะรู้และเข้าใจ ตั้งใจแล้วพิจารณา ตอนนี้นั้นชีวิตของเราก้าวขึ้นมาอยู่ในเลขสาม ใกล้เลขสี่เช่นนี้แล้วอีกหน่อยเราต้องชราเฒ่าไหม (ชรา) แล้วการเกิดตายเคยคิดอย่างหนักหรือเปล่า (ไม่เคย) เริ่มตอนนี้เลยดีไหม การเกิดการตายนั้นเป็นเรื่องใกล้ตัวที่สุด เพราะว่าชีวิตคนเรา เกิดมาทุกคนต้องตายก่อนที่เราจะตายเราคิดอะไรอยู่ ชั่ววินาทีนี้ถ้าหากว่ามีรถมาชนเรา หรืออีกสามวันข้างหน้าเราเจอเหตุการณ์เช่นนี้ เราก็อาจจะตายใช่ไหม (ใช่) สามวันข้างหน้าเราได้เริ่มคิดหรือยัง
เราอยากจะให้ชีวิตของเรานั้นเป็นคนเช่นไร มาอยู่ที่นี่กับข้างนอกเหมือนกันไหม (ไม่เหมือน) เพราะฉะนั้น ในนี้มีสิ่งดีให้เราเห็นมากมายเกือบจะเหมือนอยู่บนสวรรค์ใช่หรือไม่ ออกไปข้างนอกนั้นก็เหมือนอยู่ในทะเล ถ้าหากเป็นสิ่งหนึ่งที่ลอยอยู่บนทะเล คลื่นสัดเราก็ต้องไปตามคลื่น เพราะฉะนั้นตอนนี้ มีโอกาสที่จะให้เรามาทำจิตใจสงบๆ ที่พุทธสถาน เราจะต้องตัดความสงสัยและการคิดว่าชีวิตของเรานั้น จะดำเนินอย่างไรต่อไปเริ่มคิดเสียตั้งแต่ตอนนี้ อย่าคิดว่าเขาพูดอะไรที่เรายังไปไม่ถึง หรือเป็นเรื่องที่ไกลเกินตัวชีวิตนั้นก็เป็นของเรา เรามุ่งหมายทางใดก็คือความตั้งใจของเรา หลานๆ อยากจะอยู่บนคลื่นน้ำให้คลื่นซัดตลอดไปหรือไม่ (ไม่อยาก) เพราะฉะนั้นเราต้องทำความเข้าใจกับธรรมะที่เราได้รับไปแล้วศึกษาดีไหม (ดี) ศึกษาอย่างนี้ต้องลงแรงมากมายลงแรงตรงไหน เช่นอยากไปเที่ยวเราก็ต้องจูงใจตนเองว่า มีเวลาแล้วเราจะให้เวลากับการมานั่งฟังธรรมะมากหน่อยดีหรือไม่
หลานไม่ใช่คนพื้นที่นี้ก็ยังมีคนเขาโอบอุ้มเรา มีคนเขารักเราโดยไม่รังเกียจ เราจะต้องรู้ว่า นี้เป็นพระมหากรุณาธิคุณแห่งฟ้าดิน ไม่ใช่ตัวเราคนเดียวเขาจึงมารักเราอย่างนี้ชีวิตหนึ่งของเรา ในคน 10 คน มีคนรักเราถึง 5 คนหรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะฉะนั้นโอบอุ้มเวลาและชีวิตนี้ให้ดี เมื่อดอกไม้ร่วงโรยไปแล้ว ยังเหลือเป็นเมล็ดพันธุ์เพื่อปลูกพืชต้นต่อๆ ไป หากเราเป็นดอกไม้ที่เหี่ยวเฉาตั้งแต่ยังไม่เริ่มต้น ต่อไปเราจะเอาเมล็ดพันธุ์ไหน โปรยให้กับพื้นดิน
ในโลกนี้มีความวุ่นวายนานา ในธรรมมีความสงบนานา อยู่ที่หลานทั้งหลายจะเลือกทางไหน เวลาใกล้หมดให้หลานๆ ได้ศึกษาและเรียนรู้ ขอให้เสียสละเวลาให้กับตนเองมากๆ ในชั้นจำเป็นจะต้องฝึกฝนตั้งหลายอย่างไม่ใช่แค่วิชาความรู้ ชีวิตของเราเท่านั้น แต่เรานั้นยังเกี่ยวเนื่องไปกับคนอีกหลายคน หากธรรมะล้ำค่าเราก็จะไปสู่ทางหลุดพ้นไม่ใช่บอกว่าธรรมะล้ำค่าเราก็ปล่อยเสียหมด เริ่มตั้งแต่วันนี้ดีหรือเปล่า (ดี) แน่ใจหรือเปล่า (แน่ใจ)ถ้าหากมีคนต่อว่าเรา บอกว่ามาทำอะไรก็ไม่รู้ กลัวสิ่งนี้มากที่สุดใช่หรือเปล่า (ไม่กลัว) หวังว่าจะไม่ลืมคำพูดที่ตัวเองได้พูดไป ขอให้ทำสิ่งที่ตนเองพูดให้ฟ้าดิน ให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกองค์เห็น การมาครั้งนี้จึงจะไม่เป็นการพบหน้ากันที่เสียเปล่าไป
สิ่งที่หลานเข้ามาศึกษานั้น ในยุคปัจจุบันนี้เป็นสิ่งที่เร่งร้อน เพราะว่ามนุษย์นั้นทำชั่วมากทำดีน้อย จึงหวังว่าความดีของหลานๆ จะช่วยคำชูโลกนี้ไว้เช่นเดียวกัน หากว่าชีวิตของเราสามารถดำเนินไปได้แล้วเสียสละให้กับตัว ลูกหลาน และเวไนย จึงจะเรียกว่าความพึ่งพาได้ หากว่าเป็นพุทธสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้วจำเป็นจะต้องมีคุณธรรมต่างๆ มาค้ำชู หลานๆ นั้นอยากจะวิ่งไปสู่ฟ้า นิพพานไหม ถ้าหากเกิดแล้วตาย ตายแล้วเกิดทุกข์ทรมานหรือเปล่า ดูว่าหลานๆ ให้ไว้คือสิ่งใด
"ให้ไปถึงแก่นธรรมที่อยู่ไกล" จะไปถึงแก่นธรรมนี้จริงๆ หรือเปล่า แต่ว่าในคำพูดของหลานๆ นั้น หลานรู้ไหมว่าสิ่งใดคือแก่นธรรม การบำเพ็ญธรรมนั้นก็หาสิ่งนี้ การบำเพ็ญนั้นทำอย่างไรบ้าง นอกจากการเสียสละเวลาแล้วยังต้องลงแรงกับจิตใจของตน เราเคยส่องกระจกกันทุกคนใช่ไหม บนกระจกนั้นมีหน้าของใคร (หน้าของเรา) หน้าของเราเวลามีรอยเปื้อนเราต้องเช็ดไหม (เช็ด) ถ้าเช็ดไม่ออกทำอย่างไร (ล้าง) แล้วถ้าล้างไม่ออกทำอย่างไร เราต้องปล่อยแล้วรอยเปื้อนนั้นจะค่อยๆ ออกไปตามวันเวลาใช่หรือไม่ ไม่มีรอยเปื้อนอันใดที่อยู่ได้ตลอดไป หากว่าเราตั้งใจที่จะเช็ด จิตใจของเราก็เป็นเช่นนี้เราจำเป็นที่จะต้องเช็ดรอยเปื้อนที่อยู่บนจิตใจของเรา พอมีความคิดไม่ดีเกิดขึ้นเราจะต้องเช็ดสิ่งนี้ออกให้ได้ ยังมีความคิดมากมายที่ไม่รู้จักปลงไม่รู้จักวาง เราจะต้องเช็ดสิ่งนี้ออกให้ได้หลานๆ ทำได้ไหม การเช็ด เช็ดสิ่งใดยังเป็นเรื่องที่เราต้องคิดถึงอีก แต่วันนี้เวลาคงจะสั้นไป ถ้าเราเซียนองอยู่นานคงอดกลับบ้านใช่หรือเปล่า (ไม่ใช่) อย่างนี้ก็เท่ากับว่าหลานๆ นั้น ตั้งใจและเต็มใจเราไม่ได้อยากให้หลานๆ ไม่กลับบ้านแต่อยากให้หลานๆ รู้ว่า การบำเพ็ญนั้นก็ยากแสนยาก แต่จะพบรอยเปื้อนบนหน้าตัวเองก็ต้องหา กระจกมาส่อง ก็คือให้ผู้อื่นมองใช่หรือไม่ เพราะฉะนั้นผู้อื่นมองแล้วกระจกอันนี้ก็คือปากของหลานๆ เขาย่อมพูดเป็นบอกเป็น เราจะต้องทำใจที่จะรับต้องฟังในสิ่งที่เขาพูดไม่ใช่ว่าคนอื่นพูดกับเรา พอพูดไม่ดีเราก็โมโหถ้าทำเช่นนี้ก็ไม่มีความอดทนพอใช่หรือไม่ การบำเพ็ญนั้นจะต้องลงแรงเรียกว่าปฏิบัติ หลานๆ นั้นจะปฏิบัติไปด้วยความอดทนไหม (อดทน) ความอดทนนี้จำเป็นจะต้องทำให้ฟ้า และสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นเห็นให้ได้ เวลาในชีวิตนี้ของหลานๆ คุ้มค่าสามารถพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดได้ ถ้าหากว่าไม่ปล่อยเลยไป ไม่ผัดวันประกันพรุ่งให้กลายเป็นดินพอกหางหมู ตอนนั้นถ้าหากว่าเราเกียจคร้านคำที่เราบอกว่าจะหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดนั้นก็ยังเป็นเรื่องยาก
มารับธรรมะได้วันนี้ ขอบพระคุณคนที่แนะนำให้เรามาหรือเปล่า หรือคิดว่าทำไมตามกวนใจเราจริงๆ ขอบคุณดีหรือกวนใจดี (ขอบคุณ) หากจิตใจของเรานั้นคิดว่ากวนใจ ก็แสดงว่าเรานั้นมีจิตใจที่บำเพ็ญอยู่ยังไม่พอ ถ้าหากจิตใจเราเป็นจิตใจที่ขอบคุณก็จะมีจิตใจที่งดงามตามมาเรื่อยๆ บนโต๊ะพระให้หลานๆ เลือกว่าจะเอาอะไรให้เขาดี (แตงโมครับ)เวลาคิดคิดคนเดียวก็ไม่ได้เพราะมากันตั้ง 8 คน แล้ว 8 คน จะรวมมือพายเรือสามัคคีกันได้หรือเปล่า ถ้าหากคนหนึ่งพายข้างซ้าย อีกคนหนึ่งพายข้างขวาหากเราพายกันไปในทิศทางเดียวกันก็ดีอยู่ แต่หากเราไม่มีการปรึกษาหารือเกิดพายนี้ตีกันจะว่าอย่างไร เพราะฉะนั้นลองปรึกษากันเป็นการเริ่มต้น
"อาศัยคนออกแรงช่วยพายุนาวา  สู้เถิดหนากับพายุที่คว่ำเรือ" เราพายเรือกัน เพราะฉะนั้นเราจึงต้องสู้กับพายุ เมื่อเรือออกไปกลางทะเลแล้วเจอพายุเราจะต้องให้เรือของเรามั่นคงที่สุด ความสามัคคีเป็นสิ่งสำคัญวันนี้มาได้ 8 คน หากว่าเราสามัคคีกันเราเป็นคนดี คนที่เขาดูเราเขาก็จะแสดงความยินดีกับเรา เพราะฉะนั้นขอให้ทำแบบอย่างที่ดี ให้พ่อแม่ ญาติพี่น้อง และเพื่อนเราเห็น ถึงแม้ว่าจะไม่ดีต่อใครเลยแต่รับรองว่าดีกับตัวหลานๆ ทุกคน
ตกลกว่าให้อะไรดี (แตงโมครับ) การให้ที่ดีที่สุดไม่ใช่อยู่ที่สิ่งของ การให้ที่ดีที่สุดคือการให้ใจ ใจของเราที่รักเขาจริงๆ เพื่อที่จะให้เขาดีใจ เรานั้นจะต้องตั้งใจบำเพ็ญธรรม หากเราเป็นลูกพ่อแม่ต้องการให้เราเป็นคนดีทุกคนการให้พ่อแม่ก็คือการปฏิบัติที่ดี เมื่อพ่อแม่เห็นก็สบายใจ หากว่าเรามีครอบครัวแล้วการให้ที่ดีที่สุดคือ ความรับผิดชอบที่เรามีต่อเขา เขาต้องการสิ่งนี้ที่สุดใช่หรือไม่ ต่อเวไนยแล้วต้องการความเมตตาเพื่อจะให้เขานั้นรู้สึกว่า เรารักเขาด้วยความจริงใจ ต่อผู้แนะนำของเรานั้นคือการตอบแทนบุญคุณด้วยการบำเพ็ญตลอดชีวิต ไม่ใช่ว่าบำเพ็ญไปครึ่งๆ กลางๆ เจอคนว่าเราใจของเราก็คิดไปต่างๆ นานา ก็ท้อถอยใจ
วันนี้ขอให้หลานๆ ทุกคนพร้อมที่จะเริ่มต้นและจบลงด้วยมรรคผลที่อยู่บนนิพพาน ให้เรานั้นเป็นผู้ที่มีชื่อหลงเหลือไว้ตราบนานเท่านาน เพราะฉะนั้นจะต้องเป็นตัวหลานลงมือปฏิบัติทั้งสิ้น ไม่มีใครสามารถจะหาเงินแทนเราได้ จึงไม่มีใครหามรรคผลแทนเราได้ เราบำเพ็ญเท่าไร เราก็จะได้เท่านั้น หลานๆ เชื่อหรือไม่เชื่อ (เชื่อ) และเชื่อว่าตัวเราจะไปถึงไหม ขอให้เรามีความเชื่อมั่นนิพพานก็อยู่เบื้องหน้า เราไม่มีความเชื่อมั่นต่อให้เอาเพชรมากองอยู่ตรงหน้าเราอาจจะบอกว่า เป็นเพชรปลอมเพราะคิดว่าใครเขาจะให้เพชรเราง่ายๆ เราจึงต้องทดลองดูก่อนอย่าเพิ่งปล่อยไปทั้งๆ ที่ยังไม่ทดลองขอให้เรานั้นใช้ชีวิตนี้ให้คุ้มค่า อย่าคิดว่าธรรมะเมื่อได้มาง่ายก็ทิ้งไปง่าย ขอให้เราได้ง่ายและสำเร็จง่ายดีไหม (ดี)
มาวันนี้มากันกี่คน ขอให้ร่วมมือร่วมแรงสามัคคีกัน จับมือคล้องกันไว้ มีความหนักแน่นเหมือนกันมือที่คล้องเกี่ยวกัน โอกาสหน้าเจอกันใหม่ขออย่าได้เบื่อหน่ายการบำเพ็ญ ชีวิตนี้ของคนเราหาสิ่งที่ดีที่สุดที่อยู่ในชีวิตนี้ หามาแล้วก็คือการสำเร็จขึ้นอยู่บนนิพพาน ไม่เกิดไม่ตาย ไม่อิ่มไม่หิว ไม่ต้องยืนอยู่ในความทุกข์ไม่ต้องวนอยู่ในความสุข สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เที่ยงแท้ขอให้หลานๆ ทุกคนมีความสุขอยู่กับสิ่งที่หลานๆ เลือกสรร
หวังว่าวันหน้ามีโอกาสจะได้พบหลานๆ อีกด้วยความก้าวหน้า ด้วยการเดินหน้า และลงแรงได้หรือเปล่า เมื่อครู่เสียงสะท้อนเข้าไปสู่ใจคือธรรมะอะไรจำได้หรือเปล่า กลับไปคิดดีหรือเปล่า ไม่ใช่ธรรมะที่เราพูดทั้งหมดลืมหมดเลย หลงเหลือไว้แต่ความสงสัย และการยึดติดกับรูปลักษณ์ที่มายืมร่างในวันนี้ ถ้าเป็นเช่นนี้แล้วใจของเราไม่ได้เปิดกว้างออก น้ำที่จะรดต้นไม้นั้นก็จะรดไปไม่ถึงต้น ไม่ถึงราก จึงไม่มีประโยชน์อะไรสู้กับพายุที่คว่ำเรือของตนเองในวันข้างหน้า มีโอกาสแล้วเจอกันใหม่


อ่านต่อ...

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

ค้นหา