สาธุชนกราบขอประทานพระโอวาทชี้แนะ
องค์ประธานกลางเที่ยงแฝงในตน คุมสอบชนผู้บำเพ็ญจิตจริงใส
สามปัจจัยก้าวเดินหน้าระวังใจ ภูมิภพเก็บรวมหนึ่งได้ยุคสามเดียว
เราคือ
องค์ประธานคุมสอบสามภูมิ รับบัญชาจาก
พระอนุตตรธรรมมารดา ลงสู่พุทธสถาน เคียมคัล
องค์มารดา ถามศิษย์น้องทุกท่านเกษมฤๅ
ขอทุกคนจิตสงบรอฟังคำ ฮวา
ฮวา
สะเทือนทั้งฟ้าดินแลมนุษย์ ช่วยกันฉุดเหล่าเวไนยสู่สว่าง
คุณธรรมตามครรลองจิตคล้องงาม เร่งปราบปรามเหล่ามิจฉากระเจิงไป
จิตมนุษย์เร่งใคร่ครวญให้ดีดี ในชาตินี้จะต้องทุกข์อีกเท่าไหร่
ทุกภพชาติก่อเกิดกำเนิดไป จะมีใครเข้าใจแท้สัจธรรม
พุทธจิตประภัสสรด้วยกลางเที่ยง จงบ่มเลี้ยงพุทธรรมในตนหนา
หากพลาดพลั้งศิษย์น้องเร่งพิจารณา จะรู้ว่าแก้ไขตนมิสายเกิน
ขอวันนี้เปลี่ยนตนเป็นคนใหม่ สมตั้งใจปรารถนาเมธีผอง
เหล่ากิเลสที่ยังคงสุมก่ายกอง ขอจงตรองปัดธุลีให้สิ้นลง
มนุษย์นี้ดีชั่วทางก้าวเดิน ต้องเผชิญเหล่ามลทินที่ขุ่นข้อง
ต้องพิชิตเหล่าอารมณ์ให้จิตผ่อง ฐานบัวรองส่องกลางน้ำบริสุทธิ์จริง
ประชุมธรรมสองวันค่าล้ำเลิศ ขอจิตประเสริฐรู้ศึกษาทางสดใส
อย่าได้มีกังขาทิ่มแทงใจ อย่าได้ให้เหล่ามารร้ายมาล่อลวง
ต่อแต่นี้สำนึกตนให้ดีดี ว่าชาตินี้ผิดพลั้งไปเท่าไรหนอ
จะบำเพ็ญใช้หนี้กรรมให้เพียงพอ แลจะรอถึงวันนั้นได้กลับคืน
เรามิขอกล่าวความให้มากไป ขอศิษย์น้องรักษาระเบียบไว้ให้จงดี
หยุดพู่กันยืนคุมชั้นจดบัญชี
ฮวา ฮวา
หยุด
วันเสาร์ที่ ๓๐
กรกฏาคม พุทธศักราช ๒๕๓๗
พระโอวาทท่านแปดเซียน
หลี่เถียไกว่เมตตา
จิตรารจิสโพลงแจ้งกลางฤทัย ธีระใจรสพระธรรมแยบยลซึ้ง
เปิดใจออกพบพุทธะประทับตรึง ทึ่งตนพึงเสริมธิติมุ่งงานธรรม
เราคือ
หนึ่งในแปดเซียน หลี่เถียไกว่ รับบัญชาจาก
องค์ชคัตตรยาพดงส์ผู้เมตตา แฝงกายกตัญชลี
องค์มารดาแล้ว ถามเมธีทุกท่านเกษมสำราญฤๅ
หญ้าลู่ลมอ่อนน้อมตามประสงค์ เพื่อดำรงตนนานยืนกล้าหาญ
ฟ้าประทานด้วยอสุนีเสียงได้รอนราญ เหล่าเล่ห์พฤติการณ์เพียงเชื่อมกำแพงลวง
ความยึดมั่นกลางใจอยู่สถิต ปิดกั้นจิตสว่างต่างหลงบ่วง
กรรมก่อเกิดสร้างตนถลำลวง วัฏฏะห้วงหากมิหลุดทุกข์ทรมาน
ประจักษ์ตาสิ่งไร้ทั่วภาพสมมติ นลินบัวหลวงผุดยุคขาวปรก
คุมอายตนะปลุกพลังถอนหญ้ารก สงบสุขแปรโลกเปี่ยมแก่นธรรม
ฮา ฮา
หยุด
* คนเดินดินทุกคน พบพานหลากหลายเรื่องราว เศร้าแลสุขผสานมากมายปะปน หากเจอเพียงเรื่องราว สมดังใจปองทุกคน มนุษย์คง
ยังหลงไม่มีวันตื่น
ยังหลงไม่มีวันตื่น
** เป็นคนแม้ต้องเผชิญ สบทุกข์นานาให้หวั่น แม้คร้ามครันแต่หลง
ไม่ยอมตื่นพ้น ว่าสิ่งเหล่านี้ดั่งเครื่องเตือน จุดประกายใจหวนคืนตน
พบความจริงคือว่างเปล่า
ไม่ยอมตื่นพ้น ว่าสิ่งเหล่านี้ดั่งเครื่องเตือน จุดประกายใจหวนคืนตน
พบความจริงคือว่างเปล่า
หากมีใจมั่นคง ไม่เกรงลมพายุปวง โลกแลธรรมระสานร่วมกัน
ก้าวไป เผชิญการณ์ร้ายฤๅ พบความรุ่งเรืองเท่าใด โลกแลธรรมประสานร่วมกันดังเก่า (ซ้ำ *,**)
ก้าวไป เผชิญการณ์ร้ายฤๅ พบความรุ่งเรืองเท่าใด โลกแลธรรมประสานร่วมกันดังเก่า (ซ้ำ *,**)
จิตตนได้ฟูฟื้นเห็นจริงว่างเปล่า จิตตนได้ฟูฟื้นเห็นจริงว่าเปล่า
จิตดวงเก่าที่แท้สว่างไม่สูญ
จิตดวงเก่าที่แท้สว่างไม่สูญ
เพลง
: แสงสว่างแห่งสัจธรรม
ทำนองเพลง
: หมดคำถาม
พระโอวาทท่านแปดเซียน หลี่เถียไกว่เมตตา
จิตรารจิสแปลว่าอะไร
(พระอาทิตย์) พระอาทิตย์โพลงแจ้งกลาง
จิตใจ ธีระใจก็คือจิตของเมธีทุก ๆ ท่าน แล้วคำว่าธิติแปลว่าอะไร
(ความทรงจำ ความมั่นคง ปัญญา) กลอนนำบทนี้มีใครอธิบายได้
บ้างไหม หรือเห็นว่าเราไม่ใช่พระอาจารย์จึงไม่เต็มใจรอบเสียแล้ว
จิตใจ ธีระใจก็คือจิตของเมธีทุก ๆ ท่าน แล้วคำว่าธิติแปลว่าอะไร
(ความทรงจำ ความมั่นคง ปัญญา) กลอนนำบทนี้มีใครอธิบายได้
บ้างไหม หรือเห็นว่าเราไม่ใช่พระอาจารย์จึงไม่เต็มใจรอบเสียแล้ว
จิตรารจิสแปลว่าพระอาทิตย์ เรากล่าวว่าพระอาทิตย์นั้นสว่างอยู่ภายในจิตใจ
เพราะว่าจิตใจของเมธีทุก ๆ ท่านซาบซึ้งเข้าใจในธรรม
เมื่อเปิดใจออกแล้วพบพุทธะก็ได้มีการประทับจิตซึ่งกันและกัน การประทับจิตเป็นอย่างไร ทราบไหม หากเมธีผู้ใดเปิดใจแล้วก็สามารถจะประทับจิตกับเราหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุก
ๆ พระองค์ได้
โดยการที่สามารถเข้าใจในธรรมะ
ตื่นขึ้นมาจากกิเลสใช่ไหม
เมื่อตื่นขึ้นมาจากกิเลสแล้วเข้าใจธรรมะแล้ว
ก็พึ่งตนเองและเสริมธิติมุ่งในงานธรรม
หัวข้อที่ฟังไปเมื่อสักครู่นี้คือหัวข้ออะไร
(สัจธรรมชีวิต) ฟังแล้ว
เข้าใจไหม (เข้าใจบ้าง) การที่ฟังธรรมะแล้วเข้าใจ กับการที่ตนเองได้ประสบเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง แล้วทำให้เข้าใจสัจธรรมแตกต่าง
กันไหม หัวข้อสัจธรรมชีวิตคนใดฟังแล้วเข้าใจหรือไม่เข้าใจเพียงใดก็ขึ้นอยู่
กับจิตที่เปิดแล่วหรือไม่ของผู้นั้นใช่ไหม
เข้าใจไหม (เข้าใจบ้าง) การที่ฟังธรรมะแล้วเข้าใจ กับการที่ตนเองได้ประสบเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง แล้วทำให้เข้าใจสัจธรรมแตกต่าง
กันไหม หัวข้อสัจธรรมชีวิตคนใดฟังแล้วเข้าใจหรือไม่เข้าใจเพียงใดก็ขึ้นอยู่
กับจิตที่เปิดแล่วหรือไม่ของผู้นั้นใช่ไหม
เมธีทุกท่านเห็นน้ำแก้วนี้ไหม แก้วน้ำนี้มีประโยชน์อย่างไร ใส่น้ำได้ใช่ไหม เพราะเหตุใดจึงใส่น้ำได้
และถ้าแก้วน้ำทึบจะใส่น้ำได้อีกไหม
เมธีทุกท่านจะเห็นได้ว่า
สมมติว่ามีห้อง ๆ หนึ่งได้เจาะประตูและหน้าต่างไว้แล้ว ห้องนั้นจึงได้มีประโยชน์ คนจึงเข้ามาอาศัยอยู่ได้ใช่ไหม
แก้วน้ำก็เช่นกันเมื่อมีที่ว่างจึงสามารถรินน้ำเติมลงไปได้ ถูกไหม
(ถูก)
เช่นนี้แล้วจึงกล่าวได้ว่าประโยชน์ที่แท้จริงอยู่ที่ความว่าง แต่สิ่งที่ทึบนั้น
เป็นตัวนำทำให้ความว่างนั้นมีประโยชน์ได้ใช่ไหม
เช่นนี้แล้วจึงกล่าวได้ว่าประโยชน์ที่แท้จริงอยู่ที่ความว่าง แต่สิ่งที่ทึบนั้น
เป็นตัวนำทำให้ความว่างนั้นมีประโยชน์ได้ใช่ไหม
ขอให้เมธีทุก ๆ
ท่านช่วยกันคิดหน่อยว่าอยากจะให้เพลงที่เราให้ชื่อว่าอะไร (แสงสว่าง,
จิตตนได้ฟูฟื้นเห็นตนจริงว่างเปล่า, ความจริงคือความว่าเปล่า, สัจธรรม,
ใจหวนคืนตน, ความว่างเปล่าคือแสงสว่าง, คนเดินดิน, ธรรมะคือความว่าง,
แสงสว่างแห่งสัจธรรม) ตั้งมา ๙ ชื่อแล้ว
ช่วยกันเลือกว่าชอบชื่อไหน (สิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ให้นักเรียนในชั้นยกมือโหวตเสียงชื่อเพลงว่าชอบชื่อเพลงไหนบ้าง) ตกลงได้ชื่อเพลง “แสงสว่างแห่งสัจธรรม”
ร้องเพลงแล้วเข้าใจไหม
จิตเปิดหรือยัง
เพลงที่เราให้วันนี้ก็นำมาศึกษาและยังกลอนโอวาทที่ให้ไว้ในตอนแรกอีก
การพบกันบนโลกมีการพบและก็ต้องมีการจาก ไม่ว่าจะเป็นการที่คนเราจากกันไปแดนไกลหรือว่าจะเป็นการที่ถึงอายุขัยของร่างกาย ทุก ๆ
คนก็คงจะเคยพบกันการพรากจากกันมาแล้ว
ถ้าหากไปยึดติดก็คงจะเป็นความเศร้า
แต่หากไม่ยึดติดก็คงจะไม่พบความเศร้า
เพราะแท้ที่จริงทุกสิ่งล้วนเป็นความว่างเปล่า วันนี้เรามาพบทุก ๆ ท่าน เมื่อถึงเวลาเราก็ต้องจาก เราหวังว่าเมธีทุก ๆ
ท่านจิตใจจะเปิด แล้วสามารถเข้าใจคำที่เราได้กล่าวไว้
ถึงแม้ไม่เข้าใจแต่หากให้โอกาสตนเองไปศึกษาก็สามารถเข้าใจได้
วันนี้ยังมีอีกหลายหัวข้อที่ต้องศึกษากันอีก
ร้องเพลงกันแล้ว เราก็หวังว่าทุก ๆ ท่านจะไปทำความเข้าใจกับบทเพลงบทนี้นะ
มีหลายท่านในที่นี้ที่ได้เคยศึกษาธรรมะมามากมาย
เราก็หวังว่าท่านจะนำธรรมะที่ตนได้เคยศึกษาไว้ไปฉุดช่วยผู้อื่นให้เขาเข้าใจต่อ
ๆ ไปดีไหม (ดี) วันนี้เวลาก็
ไม่มากแล้ว เราก็หวังว่าเมื่อถึงคราวหน้าเราคงได้มีโอกาสพบกับเมธีทุก ๆ ท่านอีก ลาก่อนเมธีทุก ๆ ท่าน
ไม่มากแล้ว เราก็หวังว่าเมื่อถึงคราวหน้าเราคงได้มีโอกาสพบกับเมธีทุก ๆ ท่านอีก ลาก่อนเมธีทุก ๆ ท่าน
วันอาทิตย์ที่ ๓๑
กรกฏาคม พุทธศักราช ๒๕๓๗
พระโอวาทพระอาจารย์จี้กงเมตตา
ยังกังขาเมฆบังพุทธญาณ เปิดใจพานพบธรรมะสงบใส
สัจธรรมเที่ยงแท้ปฏิบัติไป มัชฌิมาปฏิปทาได้บรรลุเร็ว
เราคือ
อรหันต์จี้กงวิปลาส รับบัญชาจาก
องค์อนุตตรธรรมมารดาผู้เมตตา ลงสู่อริยสถาน กตัญชลี
องค์มารดาแล้ว ถามศิษย์รักทุกคนสบายดีหรือเปล่า
เกิดสันติพร้อมสมบูรณ์เรื่องแห่งธรรม ไป่ถึงธรรมด้วยร้ายคุณธรรมข้าม
เร่งกำจัดวัชพืชสิ้นมิพ้นพยายาม วัชพืชงามที่อยู่กลายไพรวันฤทัย
สันติสุขแท้ร่วมสามัคคีธรรมกระจ่าง ธราดั่งสวรรค์แห่งยุคปลายสุกใส
ฝนทิพย์โปรยชุ่มชื่นพื้นไผท กลางฤทัยน้อมรำลึกเมตตาฟ้าดิน
จิตแท้เพื่อนผู้ต่อสานอนุตตร สละดั่งให้ตนเองพลีสิ้น
อาทรเวไนยฉุดขึ้นเรือเป็นอาจิณ เพื่อขัดหินฤดีเป็นหยกงาม
ฮา ฮา
หยุด
พระโอวาทพระอาจารย์จี้กงเมตตา
“เกิดสันติพร้อมสมบูรณ์เรื่องแห่งธรรม ไป่ถึงธรรมด้วยร้ายคุณธรรมข้าม” (สันติธรรมจะเกิดได้เพราะธรรมะ ไม่ถึงธรรมเพราะมองข้ามคุณธรรมไป)
“เร่งกำจัดวัชพืชสิ้นมิพ้นพยายาม” หมายความว่าอย่างไร ใครจะอธิบายได้บ้าง (วัชพืชหมายถึงกิเลส ถ้าจะศึกษาธรรมจะต้องรู้จักกำจัดกิเลสในใจของเราให้หมดไป คุณธรรมในจิตใจของเราจึงจะปรากฏขึ้นได้)
“วัชพืชงามที่อยู่กลายไพรวันฤทัย” วัชพืชถ้ามีมาก ๆ ต้นไม้ก็อาจตายได้ แม้ว่าบางต้นไม่ตายแต่ก็อ่อนแอ ทำให้แข็งแรงไม่เต็มที่
ถ้าวัชพืชเจริญเติบโตงอกงามขึ้นมาแทนต้นไม้ที่เราจะปลูกก็กลายเป็นว่า
ใจของเราก็มีป่าเต็มไปหมด แทนที่จะว่าง ๆ โล่ง ๆ สบาย ๆ
กลายเป็นใจที่มีอะไรรกเต็มไปหมด
อย่างนี้ใจก็ไม่เบาใส
“สันติสุขแท้ร่วมสามัคคีธรรมกระจ่าง”
สันติสุขในโลกจะเกิดขึ้นเมื่อพวกเราร่วมกันปฏิบัติธรรม ช่วยกันเผยแผ่ออกไป เพราะเวไนยในโลกนี้ยังมีทุกข์อีกมากมาย
ถ้าเราเผยแผ่ธรรมให้กว้างก็จะเกิดสันติสุขออกมาได้)
“ธราดั่งสวรรค์แห่งยุคปลายสุกใส”
(พระอาจารย์ได้ชี้ทางสว่างให้พวกเราได้พ้นจากความมืดมน)
“ฝนทิพย์โปรยชุ่มชื้นพื้นไผท”
ทำไมอาจารย์จึงบอกว่าน้ำนี้เปรียบดั่งสวรรค์แห่งยุคปลาย (น้ำในที่นี้อาจหมายถึงน้ำใจต พวกเราจะต้องมีความสามัคคี
ธรรมะที่อาจารย์ให้จึงจะกระจายไปสู่ผู้อื่นได้
เปรียบเหมือนกับฝนทิพย์ที่โปรยปรายให้ความชุ่มชื้น) น้ำนอกจากหมายถึงน้ำใจแล้วยังหมายถึงคุณธรรมอันยิ่งใหญ่ เพราะว่าความสามัคคีก็เปรียบเสมือนน้ำ สมมติว่ามีน้ำสองแก้ว เมื่อเราเทรวมกันแล้วก็ไม่สามารถแยกหรือแบ่งว่าน้ำส่วนไหนเป็นของแก้วใด
ถ้าจะแยกได้น้ำสองแก้วนั้นจะต้องมีสิ่งที่ไม่เหมือนกัน
แต่ถึงมีสีที่ไม่เหมือนกัน เมื่อนำมาเทรวมกันก็จะกลายเป็นสีเดียวกัน เช่นนี้จึงบอกว่าน้ำเปรียบเหมือนคุณธรรม ใครรู้จัก “ไป๋สุ่ย
เหล่าเหยิน” ไหม ท่านเหล่าเฉียนเหยินจำได้ไหม รู้จักหรือเปล่า
เหล่าเหยิน” ไหม ท่านเหล่าเฉียนเหยินจำได้ไหม รู้จักหรือเปล่า
ฝนทิพย์คือฝนที่มาจากเบื้องบนที่ทำให้ศิษย์ทุกคนได้รับความชุ่มชื่นเต็มจิตใจไปหมด ชุ่มชื่นเต็มพื้นดินที่นี่
อาจารย์อยากรู้ว่าฝนนี้ได้ตกลงบนจิตใจของศิษย์บ้างหรือเปล่า
ศิษย์ได้น้อมรำลึกถึงความเมตตาของฟ้าดินบ้างหรือไม่ ถ้าไม่มีฟ้าดินก็ไม่มีมนุษย์ ฉะนั้นต้องทำอย่างไรจึงจะตอบแทนฟ้าดินได้ จะตอบแทนได้โดยเป็นคนดี ถ้าเป็นคนไม่ดีแล้วก็จะตอบแทนในสิ่งที่ไม่ดีออกไป ผลทีสุดฟ้าดินก็จะลงโทษ
บางคนในที่นี้มีความรู้สูง บางคนจบปริญญาโท ปริญญาเอกมา
ก็รู้สึกว่าธรรมะที่เชื่อกันอยู่เป็นธรรมะที่งมงาย เพราะไม่ได้มาศึกษาอย่างถ่องแท้
การที่ศิษย์แต่ละคนจะพูดอะไรออกไปต้องรู้ให้แน่ชัด ถ้าไม่รู้แล้วพูดจะเป็นการทำร้ายตนเอง
การที่เชื่อแบบงมงายไม่มีปัญญาวิเคราะห์จะถือเป็นการหลง
การที่อาจารย์มาที่นี่ก็เพื่อปลุกให้ศิษย์ตื่น จะทำตัวอย่างไรจึงจะเหมือนคนตื่น
“จิตแท้เพื่อนผู้ต่อสานอนุตตร”
(พวกเราล้วนเป็นผู้ที่จะเผยแผ่สืบทอดอนุตตรธรรมนี้ออกไปด้วยจิตใจอันแท้จริง)
“สละดั่งให้ตนเองพลีสิ้น” (อย่างเช่นอาวุโสทั้งหลาย
เพื่อเผยแผ่ธรรมออกไปโดยไม่ห่วงตนเอง)
“อาทรเวไนยฉุดขึ้นเรือเป็นอาจิณ” (พยายามโปรดฉุดช่วยคนให้ได้รับวิถีธรรม
ให้ได้ขึ้นเรือธรรม)
“เพื่อขัดหินฤดีเป็นหยกงาม” (เมื่อจิตเราทำความดีอยู่เสมอ ช่วยเหลือผู้อื่น
ก็เหมือนเป็นการฝึกฝนขัดเกลาจิตที่ไม่สดใสให้งดงาม เหมือนขัดหินให้เป็นหยก)
พระอาจารย์เมตตาประทานพระโอวาทซ้อนพระโอวาทคำว่า
“สันติสุข” ซึ่งถอดออกมาเป็นโคลงสี่สุภาพดังนี้
ดำรงตนด้วยเล่ห์ พฤติการณ์
เพียงชื่อเสียงยืนนาน อยู่ได้
กำแพงต่างตนสร้าง เกิดก่อ
หากสิ่งลวงตาไร้ ทั่วพร้อม
สันติสุข
แปรโลกเปี่ยมเรื่องร้าย ด้วยธรรม
ถึงแก่นแห่งคุณงาม ที่แท้
ดั่งสวรรค์แห่งยุคสาม กลายอยู่
พื้นธรา
เมตตาต่อผู้อื่นแท้ ดั่งให้ ตนเอง
(พระอาจารย์เมตตาให้อ่านทบทวนพระโอวาทที่เป็นโคลงสี่สุภาพ) ยังมีผิดนิดหน่อยนะ ผิดตรงไหนรู้ไหม ตรวจดูให้ดี ๆ นะ แก้ไขไปจนกว่าจะหมดที่ผิด การบำเพ็ญธรรมต้องมีความรอบคอบ ถ้าไม่ละเอียด ไม่รอบคอบ
ไม่ระมัดระวังทุกฝีก้าวแล้ว ถ้าอารมณ์ต่าง
ๆ เข้ามาแวบเดียวเราก็หลงไปแล้วใช่หรือเปล่า
คนที่เป็นมนุษย์ถ้าจะอยู่รอดได้ในโลก
ก็ต้องมีเล่ห์นิดหน่ย
ถ้าไม่มีเล่ห์ก็ถูกเขาหลอก
บางคนก็ไม่มีเล่ห์แต่ว่าต้องรู้เล่ห์ของคนอื่น มิฉะนั้นเราก็อยู่ในโลกนี้ไม่ได้ พฤติการณ์ต่าง ๆ ที่แสดงออกมารวมถึงหน้าตาท่าทางต่าง
ๆ ศิษย์ต้องดูว่าศิษย์จริงใจกับผู้อื่นหรือเปล่า
เพียงเพราะชื่อเสียงที่ต้องการให้ยืนนาน
เพียงเพราะต้องการมีเงินทองมียศถาบรรดาศักดิ์ต่าง ๆ ทำให้เราต้องสร้างกำแพงหนาสูงใหญ่ขึ้นมาปิดกั้นจิตใจของเราไว้ ถ้าศิษย์เอากำแพงนี้ออก สิ่งลวงตาต่าง ๆ ก็จะไม่มี
ดลกที่ศิษย์อาศัยอยู่เต็มไปด้วยสิ่งที่ร้ายมากมาย
จิตใจของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกับสมัยโบราณที่ซื่อบริสุทธิ์ อาจารย์อยากให้ศิษย์ขัดเกลาจิตใจของตน
ให้ใสสะอาดบริสุทธิ์ เหมือนกับเด็กทารกน้อย ๆ ด้วยคุณธรรมที่ทุกคนมีในจิตใจ
ให้ใสสะอาดบริสุทธิ์ เหมือนกับเด็กทารกน้อย ๆ ด้วยคุณธรรมที่ทุกคนมีในจิตใจ
“ถึงแก่นแห่งคุณงาม ที่แท้”
คนที่จะบำเพ็ญให้ดี จะต้องบำเพ็ญให้ถึงแก่น ถ้าบำเพ็ญครึ่ง ๆ กลาง ๆ
ทำไปก็ถือว่าไม่มีประโยชน์
ถ้าบำเพ็ญบ้างไม่บำเพ็ญบ้าง
ท้ายที่สุดก็ยังต้องเวียนว่ายอยู่ดี
“ดั่งสวรรค์แห่งยุคสาม กลายอยู่พื้นธรา”
ถ้าศิษย์เปลี่ยนโลกที่ร้ายให้เป็นโลกแห่งคุณธรรมและมีคุณงามความดีในใจจนถึงแก่นแล้ว จิตใจของศิษย์ก็เหมือนกับมีสวรรค์อยู่ในจิตใจ
“เมตตาต่อผู้อื่นแท้ ดั่งให้ตนเอง”
ขอให้ศิษย์มีความเมตตาต่อผู้อื่นเหมือนกับที่ให้กับตนเอง บางคนมีภรรยาและลูก เวลาจะทำอะไรก็นึกถึงแต่ภรรยา ลูกและตนเอง ไม่นึกถึงพ่อแม่ ฉะนั้นทุกคนจะต้องปลุกจิตใจเดิมแท้ของตนออกมา เพราะจิตใจตนนั้นไม่เหลือคุณธรรมแล้ว ถ้าไม่ปลุกจิตใจตอนนี้แล้ว อีกหน่อยมีคนมาเตือนเท่าไรก็ไม่เข้าใจว่าเขาเตือนว่าอะไร
การทำงานทุกวันนี้ก็เหมือนกับไม่ใช่การทำงาน แต่กลายเป็นว่างานมาใช้เรา อยู่ในโลกเราจะต้องเป็นนายของร่างกายนี้ ไม่ใช่ให้ร่างกายมาเป็นนายของเรา ถ้าจิตใจของเราเป็นหนึ่งแล้ว แม้ว่าร่างกายของเราจะเป็นอย่างไร ก็ต้องบำเพ็ญให้ได้ถึงแม้ว่ามีคนมาต่อว่าเรามากมายอย่างไร นั่นก็เป็นการขัดเกลาจิตใจของเรา
คนทางโลกเมื่อมีคนมาต่อว่า เขาก็จะต่อว่ากลับ สำหรับคนบำเพ็ญธรรม
เมื่อมีคนมาต่อว่าเขาก็จะยิ้มรับและอธิบายเหตุผลให้เขาฟัง
และถ้าเขายังไม่เข้าใจก็ต้องใช้การกระทำเป็นเครื่องพิสูจน์ ซึ่งจะดีกว่าคำพูด คนบำเพ็ญธรรมไม่กลัวคนอื่นตำหนิต่อว่า พระศรีอาริย์แต่ก่อนถูกคนถ่มน้ำลายใส่หน้า
ท่านก็ยังไม่เช็ด
เพราะท่านกลัวว่าคนนั้นจะมีอารมณ์โกรธขึ้นมาอีก ถ้าเป็นศิษย์ของอาจารย์จะเช็ดไหม
ตัวของศิษย์มีอะไรผิดบ้าง ถ้ายังไม่รู้ว่าตัวเองผิดตรงไหน
ก็จะไม่รู้ว่าจะแก้ตรงไหน
คนเรามักจะรู้สึกว่าตัวเองดี
นี่ก็เป็นนิสัยของมนุษย์
ทั่ว ๆ ไป และถ้าคนเรารู้ตัวว่าผิดตรงไหน แสดงว่ามีจิตใจของพุทธะอริยะขึ้นมาบ้างแล้ว การเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนไปที่ไหนก็มีแต่คนรัก
ทั่ว ๆ ไป และถ้าคนเรารู้ตัวว่าผิดตรงไหน แสดงว่ามีจิตใจของพุทธะอริยะขึ้นมาบ้างแล้ว การเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนไปที่ไหนก็มีแต่คนรัก
ตอนนี้มีพ่อแม่ มีญาติคอยดูแลศิษย์
และมีอาจารย์ที่เป็นเหมือนพ่ออีกคนที่คอยดูแลศิษย์ ถ้าวันไหนที่ทุกคนไม่อยู่แล้ว คนรอบข้างไม่สนใจศิษย์แล้ว ศิษย์จะทำอย่างไร เมื่อเรารักใครมาก ๆ แล้วเขาไม่รักเรา
เราทุกข์ไหม (ทุกข์) ถ้าเราโกรธเขามากก ๆ แล้วเขาไม่โกรธเรา เราจะทุกข์ไหม (ไม่ทุกข์) อาจารย์พูดศิษย์ต้องตั้งใจฟัง ไม่ใช่ว่าอาจารย์ถามอะไรก็ตอบว่าใช่ แต่ไม่คิดตาม จะต้องมีสติตลอดเวลา ไม่ใช่ฟังหูซ้ายออกหูขวา ถ้าศิษย์ฟังธรรมะแล้วเข้าใจจริง อาจารย์ก็ดีใจ
เราทุกข์ไหม (ทุกข์) ถ้าเราโกรธเขามากก ๆ แล้วเขาไม่โกรธเรา เราจะทุกข์ไหม (ไม่ทุกข์) อาจารย์พูดศิษย์ต้องตั้งใจฟัง ไม่ใช่ว่าอาจารย์ถามอะไรก็ตอบว่าใช่ แต่ไม่คิดตาม จะต้องมีสติตลอดเวลา ไม่ใช่ฟังหูซ้ายออกหูขวา ถ้าศิษย์ฟังธรรมะแล้วเข้าใจจริง อาจารย์ก็ดีใจ
ทุกคนที่นั่งอยู่ ณ
ที่นี่เหมือนกับทุกคน คือต่างก็มีพุทธจิต
แต่จะเข้าใจธรรมะมากแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับว่า ศิษย์ตั้งใจฟังแค่ไหน บางคนฟังแล้วไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร ค่อย ๆ นำไปปฏิบัติ บางคนพูดธรรมะไม่เก่งก็บอกว่าธรรมนี้ดี สอนให้คนเป็นคนดี หากเราเป็นคุณยายที่ดี หลาน ๆ ก็รู้ว่าคุณยายเป็นคนดี
เขาก็จะบำเพ็ญธรรมตาม ศิษย์ทุกคนไม่ว่าอายุมากหรือน้อย แต่ในสายตาของอาจารย์แล้ว
ศิษย์ทุกคนก็เหมือนเป็นเด็ก
น้อย ๆ ศิษย์ทุกคนที่อยู่ในวัยกลางคนแต่อาจารย์ก็ยังดูเหมือนว่าเขาเป็นเด็ก เพราะบางครั้งเขาทำอะไรก็ทำตามอารมณ์เป็นเด็กดื้อ เพราะทำอะไรตามใจตนเอง เด็กที่ดื้อก็จะถูกทำโทษบ่อย ๆ ถ้าเด็กคนไหมไม่ดื้อก็จะได้รับความดีตอบแทน ถ้าศิษย์อยู่ในโลกแล้วไม่ตั้งใจบำเพ็ญ อีกหน่อยก็จะไม่ได้พบกับอาจารย์อีก บางคนรู้สึกว่าเมื่อมาที่สถานธรรม ศิษย์ก็ได้เจออาจารย์ที่มายืมกายเนื้อนี้ แต่ถ้าศิษย์ละจากกายเนื้อนี้แล้วศิษย์รู้ไหมว่าจะมีใครมารับศิษย์ไป อาจารย์พูดแบบนี้เพราะอยากให้ศิษย์สำนึกและ
รู้ตัวบ้างว่าเราควรจะทำอย่างไร และตอนนี้เราทำอะไรอยู่ ศิษย์ต้องรู้จักกำหนดว่าในวินาทีนี้ศิษย์อาจจะหมดลมหายใจไปก็ได้ เพราะถ้าไม่คิดแบบนี้ศิษย์ก็จะไม่กระตือรือร้นในการบำเพ็ญธรรม แต่การบำเพ็ญธรรมก็อย่าบำเพ็ญเพื่อตัวเองเพียงคนเดียว จะต้องบำเพ็ญเพื่อผู้อื่นด้วย อาจารย์หวังว่าธรรมะที่อาจารย์พูดมาทั้งหมดศิษย์จะนำไปศึกษาบ้าง อาจารย์ขอให้ศิษย์ทุกคนตั้งใจบำเพ็ญธรรมให้ดีและถ้าวันหน้าต้องการพบอาจารย์อีกก็คงจะไม่พบกันแบบนี้ แต่จะขึ้นไปพบกันที่เบื้องบน และศิษย์คนไหนจะได้รับเลือกขึ้นไปอยู่กับอาจารย์ ณ เบื้องบนนั้น ศิษย์ต่างหากที่เป็นผู้เลือกเอง การกระทำของศิษย์จะเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าศิษย์จะได้ขึ้นไปอยู่เบื้องบนหรือไม่ อยู่ในโลชกนี้แม้จะมีเงินทองมากมาย เมื่อตายไปแล้วก็เอาอะไรไปไม่ได้เลย
น้อย ๆ ศิษย์ทุกคนที่อยู่ในวัยกลางคนแต่อาจารย์ก็ยังดูเหมือนว่าเขาเป็นเด็ก เพราะบางครั้งเขาทำอะไรก็ทำตามอารมณ์เป็นเด็กดื้อ เพราะทำอะไรตามใจตนเอง เด็กที่ดื้อก็จะถูกทำโทษบ่อย ๆ ถ้าเด็กคนไหมไม่ดื้อก็จะได้รับความดีตอบแทน ถ้าศิษย์อยู่ในโลกแล้วไม่ตั้งใจบำเพ็ญ อีกหน่อยก็จะไม่ได้พบกับอาจารย์อีก บางคนรู้สึกว่าเมื่อมาที่สถานธรรม ศิษย์ก็ได้เจออาจารย์ที่มายืมกายเนื้อนี้ แต่ถ้าศิษย์ละจากกายเนื้อนี้แล้วศิษย์รู้ไหมว่าจะมีใครมารับศิษย์ไป อาจารย์พูดแบบนี้เพราะอยากให้ศิษย์สำนึกและ
รู้ตัวบ้างว่าเราควรจะทำอย่างไร และตอนนี้เราทำอะไรอยู่ ศิษย์ต้องรู้จักกำหนดว่าในวินาทีนี้ศิษย์อาจจะหมดลมหายใจไปก็ได้ เพราะถ้าไม่คิดแบบนี้ศิษย์ก็จะไม่กระตือรือร้นในการบำเพ็ญธรรม แต่การบำเพ็ญธรรมก็อย่าบำเพ็ญเพื่อตัวเองเพียงคนเดียว จะต้องบำเพ็ญเพื่อผู้อื่นด้วย อาจารย์หวังว่าธรรมะที่อาจารย์พูดมาทั้งหมดศิษย์จะนำไปศึกษาบ้าง อาจารย์ขอให้ศิษย์ทุกคนตั้งใจบำเพ็ญธรรมให้ดีและถ้าวันหน้าต้องการพบอาจารย์อีกก็คงจะไม่พบกันแบบนี้ แต่จะขึ้นไปพบกันที่เบื้องบน และศิษย์คนไหนจะได้รับเลือกขึ้นไปอยู่กับอาจารย์ ณ เบื้องบนนั้น ศิษย์ต่างหากที่เป็นผู้เลือกเอง การกระทำของศิษย์จะเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าศิษย์จะได้ขึ้นไปอยู่เบื้องบนหรือไม่ อยู่ในโลชกนี้แม้จะมีเงินทองมากมาย เมื่อตายไปแล้วก็เอาอะไรไปไม่ได้เลย
ขอให้ทุกคนร้องเพลงส่งอาจารย์ ถ้าจิตใจตอนนี้อยากจะบำเพ็ญ
ก็ขอให้ศิษย์ทุกคนถนอมรักษาจิตใจอันนี้ไว้ให้ดี
เพราะเป็นจิตที่บริสุทธิ์เหมือนเด็กทารก
จิตบริสุทธิ์แบบนี้จึงจะกลับคืนสู่เบื้องบนได้
เมื่อก้าวออกจากสถานธรรมนี้
ศิษย์จะทำตัวเหมือนเดิมไม่ได้แล้วนะ
จะต้องทำตัวเป็นคนใหม่ที่ดี
คนที่คิดว่าดีแล้วก็พยายามหาข้อบกพร่องของตัวเองให้พบ ถ้าหาพบแล้วก็จะได้เป็นศิษย์รักของอาจารย์ ขอให้ทุกคนโชคดี ลาก่อน